กรุงเทพฯ--5 ก.ย.--กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
ปภ.รายงานสถานการณ์ไฟไหม้ป่าพรุในจังหวัดนครศรีธรรมราช 4 จุด ใน 3 อำเภอพร้อมระดมสรรพกำลังปฏิบัติการดับไฟป่าอย่างเต็มกำลัง
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รายงานสถานการณ์ไฟไหม้ป่าพรุในจังหวัดนครศรีธรรมราช รวม 4 จุด ในพื้นที่ 3 อำเภอ 4 ตำบล 4 หมู่บ้าน พื้นที่ป่าไม้และพื้นที่การเกษตรของประชาชนได้รับความเสียหายประมาณ 2,000 ไร่ ควบคุมเพลิงได้แล้ว 3 จุด ยังคงมีสถานการณ์ในพื้นที่ประมาณ 800 ไร่ ทั้งนี้ ปภ.ได้ร่วมกับหน่วยทหาร จังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสนธิกำลังเจ้าหน้าที่และเครื่องมืออุปกรณ์ปฏิบัติการดับไฟป่า โดยระดมฉีดน้ำควบคุมไฟอย่างต่อเนื่อง รวมถึงจัดทำแนวกันไฟป้องกันไฟป่าลุกลามขยายวงกว้าง
นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า เกิดสถานการณ์ไฟไหม้ป่าพรุในจังหวัดนครศรีธรรมราช รวม 4 จุด ในพื้นที่ 3 อำเภอ 4 ตำบล ได้แก่ อำเภอชะอวด เกิดไฟป่า จำนวน 2 จุด แยกเป็น หมู่ที่ 3 ตำบลบ้านตูล และหมู่ที่ 4 ตำบลชะอวด อำเภอเฉลิมพระเกียรติ เกิดไฟป่าในพื้นที่หมู่ที่ 10 ตำบลสวนหลวง และอำเภอเชียรใหญ่ ในพื้นที่หมู่ที่ 6 ตำบลแม่เจ้าอยู่หัว พื้นที่ป่าไม้และพื้นที่การเกษตรของประชาชนได้รับความเสียหายประมาณ 2,000 ไร่ ปัจจุบันสามารถควบคุมเพลิงมิให้ลุกลามได้แล้ว 3 จุด แต่ยังมีเพลิงไหม้ในพื้นที่หมู่ที่ 3 ตำบลบ้านตูล อำเภอชะอวด ประมาณ 800 ไร่ ซึ่งคาดว่าไฟจะไม่ลุกลามออกจากแนววงล้อม เนื่องจากล้อมรอบด้วยคูคลอง คาดว่าจะสามารถควบคุมสถานการณ์ไฟป่าได้ภายในวันนี้ ทั้งนี้ กระทรวงมหาดไทยโดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ร่วมกับหน่วยทหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสนธิกำลังเจ้าหน้าที่และเครื่องมืออุปกรณ์ออกปฏิบัติการดับไฟป่า โดยระดมรถดับเพลิง รถบรรทุกน้ำ รถส่งน้ำระยะไกล รถดับไฟป่าฉีดน้ำควบคุมไฟอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะจุดที่ยังมีไฟลุกลาม พร้อมนำรถแบ็คโฮ รถตักหน้าขุดหลัง และรถแทร็กเตอร์จัดทำแนวกันไฟป้องกันไฟป่าลุกลามขยายวงกว้าง พร้อมเปิดเส้นทางและปรับพื้นที่ให้โล่งเตียน เพื่อให้รถบรรทุกน้ำสามารถเข้าถึงจุดเกิดไฟป่า รวมถึงดำเนินการขุดพื้นที่เป็นจุดๆ แบบขนมครก เพื่อใช้เป็นแหล่งน้ำในการดับไฟ อีกทั้งประสานเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดแจกจ่ายหน้ากากอนามัยและให้คำแนะนำการปฏิบัติตนแก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาไฟป่าหมอกควัน อย่างไรก็ตาม ในจุดที่สามารถควบคุมเพลิงได้แล้วได้ประสานให้เจ้าหน้าที่เฝ้าระวังสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง รวมถึงขอความร่วมมือประชาชนงดเว้นการจุดไฟในพื้นที่ป่า เพื่อป้องกันมิให้ไฟเกิดการปะทุซ้ำ
0-2243-0674 0-2243-2200 www.disaster.go.th