กรุงเทพฯ--5 ก.ย.--กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานสถานการณ์น้ำล้นตลิ่งจากการปล่อยน้ำของเขื่อนเจ้าพระยา บริเวณอำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ขณะนี้ระดับน้ำลดลงแล้ว โดย ปภ. ได้ร่วมกับหน่วยทหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องระดมสรรพกำลังและทรัพยากรปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัยโดยด่วนแล้ว พร้อมแจ้งเตือน7 จังหวัดริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ได้แก่ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี ลพบุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา และสุพรรณบุรีเตรียมพร้อมรับมือระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง อาจส่งผลให้น้ำเอ่อล้นตลิ่งท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำนอกแนวคันกั้นน้ำ
นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า ในช่วงที่ผ่านมาบริเวณประเทศไทยตอนบนมีฝนตกหนาแน่น ทำให้มีน้ำหลากจากพื้นที่ตอนบนของลุ่มน้ำเจ้าพระยาไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาท ในอัตราที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้เกิดน้ำเอ่อล้นตลิ่งจากการปล่อยน้ำของเขื่อนเจ้าพระยา บริเวณจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในพื้นที่อำเภอเสนารวม 5 ตำบล ได้แก่ ตำบลบ้านกระทุ่ม ในพื้นที่หมู่ที่ 1 – 9 ตำบลหัวเวียง หมู่ที่ 3 - 8 และ หมู่ที่ 10 - 12 ตำบลรางจระเข้หมู่ที่ 5 – 7 ตำบลสามกอ หมู่ที่ 1 ตำบลบ้านโพธิ์ หมู่ที่ 6 - 7 ตำบลบ้านแพน หมู่ที่ 1 ประชาชนได้รับผลกระทบ 298หลังคาเรือน ปัจจุบันระดับน้ำลดลงแล้ว ทั้งนี้ ปภ. ได้ร่วมกับหน่วยทหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องระดมสรรพกำลังและทรัพยากรเร่งสำรวจความเสียหาย และให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเบื้องต้น อย่างไรก็ตาม จากการติดตามสถานการณ์น้ำกับสำนักงานชลประทานที่ 12 คาดว่าสถานการณ์น้ำมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น อาจส่งผลให้พื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยามีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น ตั้งแต่บริเวณท้ายเขื่อนเจ้าพระยา อำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท ถึงบริเวณตำบลบางหลวงโดด อำเภอบางบาล และตำบลกระทุ่ม ตำบลหัวเวียง อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ปภ. จึงได้ประสาน 7 จังหวัด ได้แก่ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี ลพบุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา และสุพรรณบุรี รวมถึงศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่เสี่ยงภัยแจ้งเตือนประชาชน เกษตรกร ผู้ประกอบการร้านค้า ที่อยู่บริเวณริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาให้เตรียมการเฝ้าระวังและรับมือภาวะน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาที่อาจเอ่อล้นตลิ่ง โดยติดตามข้อมูลสถานการณ์น้ำและประกาศเตือนภัยจากหน่วยงานราชการอย่างใกล้ชิด จัดเก็บและขนย้ายวัสดุสิ่งของขึ้นที่สูงให้พ้นจากแนวน้ำท่วม รวมถึงเตรียมพร้อมกำลังเจ้าหน้าที่และวัสดุอุปกรณ์ ในการปฏิบัติการช่วยเหลือและอพยพประชาชนไปยังพื้นที่ปลอดภัย ตลอดจนวางกระสอบทรายเป็นแนวคันกั้นน้ำ และติดตั้งเครื่องสูบน้ำป้องกันน้ำท่วมในพื้นที่ลุ่มต่ำนอกแนวคันกั้นน้ำ กรณีระดับน้ำเพิ่มสูงจนถึงจุดวิกฤติให้ดำเนินการตามแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด อำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงที ท้ายนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัยสามารถติดต่อได้ที่ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 18 ศูนย์ฯ เขต สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด 76 จังหวัด และสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสาขา 30 สาขาใน 16 จังหวัด หรือสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป
0-2243-0674 0-2243-2200 www.disaster.go.th