กรุงเทพฯ--7 ก.ย.--เอเอสวี อินเตอร์ กรุ๊ป
คิกอ็อฟไปเรียบร้อยแล้วกับโครงการโอทอปขึ้นเครื่อง ที่อาคารผู้โดยสารขาออกท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พร้อมได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้ที่ร่วมชมงาน และบรรดานักท่องเที่ยว โดยงานนี้ได้รับเกียรติจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิธีเปิดตัวผลิตภัณฑ์ OTOP ประชารัฐเพื่อจำหน่ายบนเครื่องบิน "OTOP ไทย จากท้องถิ่นบินสู่ท้องฟ้า" มี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายสุธี มากบุญ รมช.มหาดไทย นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายอภิชาติ โตดิลกเวชช์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และคณะผู้บริหารบริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) เข้าร่วมพิธี
พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า "วันนี้รัฐบาล เดินหน้าผลักดันโครงการหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ หรือ OTOP นี้ ในทุกด้าน โดยการส่งเสริมสนับสนุนการใช้นวัตกรรม เทคโนโลยี ความรู้วิชาการและบูรณาการหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน สถาบันการศึกษา มาช่วยในกระบวนการผลิตและพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีคุณภาพ และมาตรฐานในระดับสากล ผลิตภัณฑ์ OTOP ที่เกิดจากภูมิปัญญาไทย จึงเกิดเป็นความภาคภูมิใจของคนไทยทั้งชาติ ได้ถูกนำเสนอและพิสูจน์ถึงคุณค่าของความเป็นไทย ในโอกาสที่ได้มาเยือนประเทศของเรา ผมขอชื่นชมทุกหน่วยงานที่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง และผลักดันให้เกิดการดำเนินงาน โครงการพัฒนาสินค้า OTOP เพื่อจำหน่ายบนเครื่องบิน ในครั้งนี้ ซึ่งจะเป็นการเผยแพร่และประชาสัมพันธ์สินค้า OTOP ได้เป็นอย่างดีแก่นักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่มักจะเดินทางด้วยเครื่องบิน หรือแม้แต่คนไทยที่เดินทางด้วยเครื่องบิน" นายกรัฐมนตรีกล่าว
ในส่วนของกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย ถือเป็นหน่วยงานที่มีบทบาทสำคัญในโครงการนี้โดยเฉพาะด้านการคัดสรร ต่อยอดการพัฒนาสินค้าโอทอป เพื่อยกระดับคุณภาพและมาตรฐานให้สูงขึ้นเป็นที่ยอมรับในระดับสากล และเป็นที่รู้จักทั่วโลก โดยการพัฒนาผลิตภัณฑ์ มีรูปแบบที่มีความโดดเด่น ด้านคุณภาพและมีบรรจุภัณฑ์ที่สวยงาม โดยเน้นไปในด้านการเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้า ด้วยการนำวัสดุในท้องถิ่น ผสมผสานกับวัฒนธรรม ประเพณีดั้งเดิมผนวกกับวิถีชีวิตของชุมชน นำมาสร้างสรรค์ผลิตสินค้า ให้มี ขนาดเล็ก ดี และมีคุณภาพ มีบรรจุภัณฑ์ที่สวยงาม รวมถึงได้พยายามผลักดันผู้ประกอบการ OTOP โดยการอบรมเพิ่มความรู้และทักษะด้านต่างๆ อย่างเหมาะสม
ในด้านผู้ประกอบการคุณภูษิต กาญจนศิริปาน เจ้าของผลงาน "เปลือกไข่วิจิตรภูษิต" สินค้าโอทอประดับไฮเอนด์ บอกเล่าเรื่องราวของประกายความคิดในการสรรค์สร้างเศษวัสดุอย่างเปลือกไข่ให้มีมูลค่าระดับสากลว่า..
"ต้นกำเนิดของเปลือกไข่วิจิตรเกิดขึ้นเมื่อปี 2540 เศรษฐกิจประเทศพังทลายโดยเฉพาะธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ คุณภูษิตเล่าว่าภรรยาผม คือคุณณภัสภรณ์ ตั้งจิตโชติวุฒิกุล ก็ได้รับผลกระทบนี้เช่นกันเพราะทำธุรกิจอสังหาฯ ซึ่งตอนนั้นเธอเครียดมาก ในบ้านนอกจากแทบจะไม่มีเงินเหลือแล้ว ยังต้องแบกภาระหนี้สินอีกหลายล้าน เครียดจนแทบจะสติหลุด จนต้องไปสงบใจที่วัด แต่ด้วยความเครียดที่สะสมในใจ ยิ่งนั่งสมาธิก็ยิ่งฟุ้งซ่านทำให้คุณณภัสภรณ์ แอบไปนั่งเจาะไข่ไก่เพื่อฆ่าเวลา พอเจาะมากๆเข้าก็คิดว่ามันน่าจะเอาไปทำประโยชน์อะไรได้ประกายความคิดของเปลือกไข่วิจิตรจึงเริ่มขึ้น"
เมื่อกลับมาบ้านคุณณภัสภรณ์ ได้พยายามนั่งเพ้นเปลือกไข่อยู่นาน แต่ด้วยความที่ไม่มีพื้นฐานด้านศิลปะทำให้ผลงานที่ออกมายังไม่ดีนัก คุณภูษิตผู้เป็นสามีได้เห็นถึงความพยายาม และตั้งใจของภรรยาถึงได้ลงมือช่วยเหลือด้วยความที่ตนเองเป็นคนมีความรู้ด้านศิลปะพอสมควร ประกอบกับความชอบในงานช่างด้วย และเมื่อคุณภูษิตลงมาช่วยอย่างจริงจัง จากเปลือกไข่ธรรมดาจึงเริ่มเป็นงานเปลือกไข่วิจิตรที่เป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา และมีการพัฒนาต่อยอดความวิจิตรขึ้นมาเป็นลำดับ
คุณภูษิตเปิดเผยถึงแรงบันดาลใจในการเริ่มทำพัฒนาเปลือกไข่วิจิตรว่า ได้แรงบันดาลใจมาจากไข่ฟาแบร์เช่ ของรัสเซีย ซึ่งเป็นงานตกแต่งอัญมณีรูปไข่โดยห้องงานอัญมณีฟาแบร์เช ส่วนใหญ่เป็นงานชิ้นเล็กที่เหมาะกับการให้เป็นของขวัญสำหรับเทศกาลอีสเตอร์ แต่ไข่ฟาแบร์เชเป็นไข่ทำจากโลหะมีค่าหรือหินแข็งตกแต่งด้วยอัญมณีและการลงยา จึงเป็นที่แปลกใจของชาวต่างชาติเมื่อเปลือกไข่วิจิตรภูษิตมีโอกาสได้ไปแสดงผลงานในต่างประเทศแล้วฝรั่งทราบว่าเปลือกไข่วิจิตรภูษิตทำจากเปลือกไข่จริงๆที่ใช้สารเคลือบแข็งชนิดพิเศษ แม้กระทั่งคนต่างชาติอยากจะได้ลิขสิทธิ์ตรงนี้และให้ราคาที่สูงมากแต่คุณภูษิต มองว่างานเปลือกไข่วิจิตรควรเป็นของคนไทย อีกทั้งด้านการตลาดเราก็ยังขายได้ไม่จำเป็นต้องพึ่งต่างชาติเสียทีเดียว
"เปลือกไข่วิจิตรภูษิต" นอกจากเป็นงานศิลปหัตถกรรมแล้วยังถือเป็นของมงคลด้วย ไม่ว่าจะด้วยรูปทรง หรือประเภทไข่ที่ใช้ อย่างไข่เป็ด หรือไข่ไก่ แลดงถึงความอุดมสมบูรณ์ ไข่นกกระจอกเทศแสดงถึงความดีงาม ไข่นกกระทาหมายถึงความโชคดี ประกอบกับการสร้างรูปทรงที่เป็นมงคลอย่างช้าง ปลาทอง ฯลฯซึ่งทั้งหมดมีความหมายทั้งสิ้น
แต่กว่าจะถึงวันนี้"เปลือกไข่วิจิตรภูษิต"ต้องเผชิญกับมรสุมต่างๆที่หนักมาก แม้กระทั้งแทบไม่มีเงินทุนเลยจนกระทั่งนำผลิตภัณฑ์มาเข้าโครงการโอทอป ซึ่งคุณภูษิตยอมรับว่าตอนนั้นไม่ได้คิดอะไรมากเพียงต้องการเงินกู้แค่ 50,000บาท แต่เมื่อได้เข้ามาร่วมกับโครงการโอทอปแล้ว ได้รู้จักกับกรมการพัฒนาชุมชนถือว่าเป็นโอกาสที่ดีมาก ทางกรมการพัฒนาชุมชนได้ให้ความรู้ และการอบรมต่างๆที่มีประโยชน์มากซึ่งถึงแม้เปลือกไข่วิจิตรจะเป็นสินค้าเฉพาะกลุ่มคนก็ยังสามารถนำความรู้เหล่านี้ไปปรับใช้ได้ รวมถึงให้โอกาสในการได้เป็นหนึ่งในสินค้าโอทอปขึ้นเครื่อง โครงการในดำริของนายกรัฐมนตรีด้วย
และสำหรับผู้ที่สนใจผลิตภัณฑ์ "เปลือกไข่วิจิตรภูษิต" นอกจากในแคตตาล็อกของการบินไทยแล้ว ยังมีโชว์รูมอยู่ที่ เมกะบางนา (โซนไทยบาซาร์) และอีกไม่นานจะมีจำหน่ายที่ห้างสรรพสินค้าคิงเพาเวอร์ในอนาคตอันใกล้นี้ด้วย