กรุงเทพฯ--12 ก.ย.--เจซีแอนด์โค พับลิครีเลชั่นส์
บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด สานต่อนโยบายประชารัฐ หนุนผลิตภัณฑ์ชุมชนท้องถิ่นเติบโต ประสานเครือข่าย สร้างโอกาสในการขาย โดยเปิดตัวโครงการ "ไปรษณีย์เพิ่มสุข ประชารัฐเข้มแข็ง แห่งเมืองสองแคว" ซึ่งจะสนับสนุนช่องทางการตลาด และค่าขนส่งให้กลุ่มผู้ผลิตสินค้าชุมชนของจังหวัดพิษณุโลกในอัตราพิเศษ พร้อมทั้งผนึกแสตมป์เพิ่มสุขบนสินค้าที่ได้รับการสนับสนุน การันตีคุณภาพมาตรฐานให้ผู้บริโภคมั่นใจ โดยได้รับเกียรติจากพลเอก สาธิต พิธรัตน์ ประธานกรรมการ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด และนายชูชาติ กีฬาแปง ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก เป็นประธานร่วมในพิธีเปิดโครงการดังกล่าว ณ ห้องประชุมอาคารประวัติศาสตร์ พระราชวังจันทน์ จังหวัดพิษณุโลก
พลเอก สาธิต พิธรัตน์ ประธานกรรมการ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด กล่าวถึง การทำงานร่วมกับชุมชนในโครงการไปรษณีย์เพิ่มสุข ประชารัฐเข้มแข็ง แห่งเมืองสองแคว ว่า ไปรษณีย์ไทยเป็นรัฐวิสาหกิจ ที่มีความเชี่ยวชาญทุกการขนส่ง จะเข้ามาช่วยสนับสนุนส่งเสริมกลุ่มวิสาหกิจชุมชน จังหวัดพิษณุโลกให้มีโอกาสค้าขายได้มากขึ้น โดยใช้ช่องทางไปรษณีย์ที่มีเครือข่ายครอบคลุมทั่วประเทศ ในการเป็นหน้าร้าน และเป็นช่องทางจำหน่ายสินค้าทางเว็บไซต์ของไปรษณีย์ไทยให้กับชุมชนคนพิษณุโลก ซึ่งจะดำเนินการไปพร้อมๆ กับการประสานความร่วมมือหน่วยงานต่างๆ ในพิษณุโลก เพื่อช่วยกันพัฒนาสินค้า บรรจุภัณฑ์ทำให้กลุ่มวิสาหกิจชุมชนเหล่านี้สามารถเติบโตได้อย่างเข้มแข็งและยั่งยืน
ด้าน นายชูชาติ กีฬาแปง ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการฯ นี้จะเป็นการสนับสนุนนโยบายประชารัฐ รวมไปถึงเป็นตัวอย่างที่ดีของความร่วมมือที่หน่วยงานทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาชน เข้ามาร่วมกันพัฒนาและส่งเสริมกลุ่มวิสาหกิจชุมชนให้มีตลาดและช่องทางการขาย ที่ครอบคลุมทั่วประเทศผ่านเครือข่ายของไปรษณีย์ไทย ทำให้ชุมชนเติบโตได้ต่อไปในอนาคต
สำหรับการสนับสนุนของไปรษณีย์ไทยนั้น นางสมร เทิดธรรมพิบูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด กล่าวเสริมว่า "โครงการไปรษณีย์เพิ่มสุข ประชารัฐเข้มแข็ง แห่งเมืองสองแคว" ในพื้นที่จังหวัดพิษณุโลกนี้ จะมุ่งเน้นการหนุนเสริมและพัฒนาผลิตภัณฑ์ของวิสาหกิจชุมชนทั้งในด้านคุณภาพของสินค้า ช่องทางการขาย การทำตลาด รวมทั้งการให้องค์ความรู้ต่างๆ ที่เหมาะสมกับแต่ละผลิตภัณฑ์ โดยเป็นไปตามความต้องการที่แท้จริงของชุมชน
ผลิตภัณฑ์ที่คัดเลือกเข้า "โครงการไปรษณีย์เพิ่มสุข" มีแนวทางดังนี้ กลุ่มที่ 1 คือสินค้ามีคุณภาพดี มีบรรจุภัณฑ์สวยงามอยู่แล้ว ไปรษณีย์ไทยจะผนึก "แสตมป์เพิ่มสุข" บนสินค้า เพื่อสื่อให้เห็นว่าเป็นกลุ่มสินค้าที่ไปรษณีย์ไทยสนับสนุนในด้านช่องทางการตลาด และค่าขนส่งในอัตราพิเศษ กลุ่มที่ 2 เป็นสินค้าที่มีคุณภาพดีแล้ว แต่ต้องการพัฒนาเพิ่มเติมบางส่วน เช่น บรรจุภัณฑ์ หรือการหุ้มห่อ เพื่อเพิ่มศักยภาพ ในการแข่งขันกับคู่แข่งในตลาด โดยหลังจากพัฒนาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ไปรษณีย์ไทยจะสนับสนุนด้านช่องทางการตลาด และค่าขนส่งในอัตราพิเศษ เช่นเดียวกับสินค้าในกลุ่มแรก และกลุ่มสุดท้าย เป็นสินค้าที่จะให้การสนับสนุนตั้งแต่แรกเริ่มมีการวางแผนยุทธศาสตร์พัฒนาในทุกๆ ด้านร่วมกับชุมชน เพื่อเสริมความเข้มแข็งของกลุ่ม และจะขยับการดำเนินงานพัฒนาขึ้นสู่สินค้ากลุ่มที่ 2 และกลุ่มที่ 1 ตามลำดับต่อไป โดยในระยะแรกไปรษณีย์ไทยได้คัดเลือกผลิตภัณฑ์เข้าร่วมโครงการ "ไปรษณีย์เพิ่มสุข" จำนวน 7 ผลิตภัณฑ์ ได้แก่ น้ำมันมะพร้าว ตราแม่ตะเพียน น้ำยาขัดรองเท้า ตราวิ้งค์ คุกกี้กล้วยตาก ตราไร่เทพประทานพร ผงจมูกข้าวกล้องมะลิแดงและไรซ์เบอรี่ ตราจันทร์หอม กระดาษใยกล้วย ตราบ้านนาน่า น้ำหวานกล้วย (Banana Syrup) ตรานาส์ และกล้วยม้วนอบ ตราแสงทอง
โครงการ "ไปรษณีย์เพิ่มสุข" ได้เปิดตัวและจะขยายไปยังหลายๆ พื้นที่ทั่วประเทศ เพื่อเป็นเครือข่ายส่งต่อความสุขจากชุมชนสู่คนไทย โดยมุ่งสู่การเป็นผู้นำในการเชื่อมโยงสังคมไทย ด้วยเครือข่ายไปรษณีย์และทรัพยากรที่มีเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาสังคมอย่างยั่งยืน และตอกย้ำการเป็นเครือข่ายชีวิตและเศรษฐกิจไทยอย่างเต็มภาคภูมิ" นางสมร กล่าวทิ้งท้าย
สำหรับประชาชนที่สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ THP Contact Center 1545 หรือเว็บไซต์www.thailandpost.co.th