กรุงเทพฯ--12 ก.ย.--ศูนย์วิจัยเทคโนโลยีพลังงานเพื่อสิ่งแวดล้อม คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
วันที่ 9 ก.ย.59 สำนักงานพลังงานจังหวัดสุราษฎร์ธานี ร่วมกับศูนย์วิจัยเทคโนโลยีพลังงานเพื่อสิ่งแวดล้อม คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (ETE) ในนามที่ปรึกษา จัดสัมมนาแถลงผลการดำเนินงาน "โครงการศึกษาการพัฒนาเกาะสมุยสู่เมืองคาร์บอนต่ำ โดยโปรแกรมการสะสมแต้มจากการใช้สินค้าและบริการทางด้านพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม" ณ ห้องประชุมวัลลี ชั้น 2 โรงแรมสมุย ปาล์ม บีช รีสอร์ท อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี มีผู้สนใจจากภาครัฐ ภาคอุตสาหกรรม ภาคธุรกิจท่องเที่ยว ผู้สนใจภายในจังหวัดสุราษฎร์ธานีและจังหวัดใกล้เคียง เข้าร่วมกว่า 100 คน
พิธีเปิด นางสาวสุภิญญา ศรีทองกุล ที่ปรึกษานายกเทศมนตรีนครเกาะสมุย ให้เกียรติเป็นประธานกล่าวเปิดงาน โดยมีนายนิตย์ธินันท์ บริรักษ์ รองหัวหน้าห้องปฏิบัติงานวิจัยพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน ศูนย์วิจัยฯ ETE กล่าวรายงาน
เป็นที่ทราบกันดีว่า เกาะสมุยเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงและได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ ทำให้มีการขยายการลงทุนในภาคธุรกิจโรงแรม รีสอร์ท ร้านค้า และสถานบันเทิงต่างๆ มากมาย ทำให้เกาะสมุยมีความต้องการใช้พลังงานเพิ่มขึ้นทุกปี และส่งผลให้เกิดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน โดยข้อมูลปี 2556 พบว่า เกาะสมุยมีการใช้พลังงานไฟฟ้ากว่า 520 ล้านหน่วย น้ำมันเบนซินกว่า 21 ล้านลิตร และน้ำมันดีเซลกว่า 20 ล้านลิตร จากการใช้พลังงานดังกล่าวเป็นเหตุให้มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ประมาณ 400,000 ตัน และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นในอนาคต
ดังนั้น เพื่อส่งเสริม สนับสนุน รวมทั้งศึกษาและสาธิตนำร่องการพัฒนาเกาะสมุยสู่เมืองคาร์บอนต่ำ ที่ปรึกษาได้จัดกิจกรรมผ่านการใช้เทคโนโลยีพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน โดยจัดทำเป็นแอพพลิเคชั่นสะสมแต้มจากการใช้สินค้าและบริการทางด้านพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Eco Lifestyle) ซึ่งใช้งานผ่านทางโทรศัพท์มือถือ ปัจจุบันมีสถานประกอบการที่เข้าร่วมโครงการสำหรับแจกแต้มจากการใช้สินค้าหรือบริการฯ จำนวน 10 แห่ง และสถานประกอบการที่เข้าร่วมโครงการเพื่อให้ใช้แต้มสำหรับแลกส่วนลดร้านค้าหรือของรางวัล จำนวน 11 แห่ง นับตั้งแต่การเปิดใช้โปรแกรมสะสมแต้มดังกล่าว เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมามีผู้ใช้งานแล้วจำนวนทั้งสิ้น 82 ราย คิดเป็นปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ลดลงได้ประมาณ 500 กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งหากมีการขยายระยะเวลาการใช้งานโปรแกรมสะสมแต้มฯ ดังกล่าว หรือขยายผลไปยังแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ คาดว่าจะสามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้อย่างมาก
นอกจากนี้ ภายในงานได้มีการชี้แจงการใช้แอพพลิเคชั่นสะสมแต้มจากการใช้สินค้าและบริการทางด้านพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วน เพื่อปรับปรุง พัฒนา และขยายผลแนวความคิดของหลักการ "โปรแกรมการสะสมแต้มจากการใช้สินค้าและบริการฯ" เพื่อลดการใช้พลังงานในเกาะสมุยและขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการเกาะสมุยเมืองคาร์บอนต่ำให้เป็นรูปธรรม