กรุงเทพฯ--12 ก.ย.--ธนาคารกสิกรไทย
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(เลขาธิการ กสทช.) นายรณดล นุ่มนนท์ ผู้ช่วยผู้ว่าการสายกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) นายปรีดี ดาวฉาย ประธานสมาคมธนาคารไทย และนายศุภชัย เจียรวนนท์ นายกสมาคมโทรคมนาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้ประชุมหารือ เรื่อง การสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนในการใช้บริการธุรกรรมทางการเงินผ่านอุปกรณ์โทรศัพท์เคลื่อนที่ เพื่อหารือถึงความเป็นไปได้ในการสร้างความเชื่อมั่นและยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยในการใช้บริการของ 2 อุตสาหกรรม ณ สำนักงาน กสทช. โดยมีข้อสรุปของการประชุมหารือ ดังนี้
ระยะสั้น มีการดำเนินการ 5 เรื่อง คือ
1. สำนักงาน กสทช. ธนาคารแห่งประเทศไทย สมาคมโทรคมนาคมแห่งประเทศไทยฯ และผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่จะกำหนดแนวทางปฏิบัติร่วมกันในการพิสูจน์ตัวตนผู้ใช้บริการของผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ในขณะเดียวกัน สำนักงาน กสทช. จะออกหนังสือกำชับผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ให้ดำเนินตามกระบวนการพิสูจน์ตัวตน และกำหนดมาตรการให้ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่มีการตรวจสอบ ติดตาม และประเมินผลการดำเนินงานอย่างเคร่งครัดด้วย
2. ธนาคารพาณิชย์และผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่จะร่วมกันประชาสัมพันธ์ให้ผู้ใช้บริการ mobile Banking, Internet Banking และ Prompt Pay ในกรณีโทรศัพท์เคลื่อนที่สูญหาย 1. จะต้องแจ้งให้ธนาคารพาณิชย์ที่ใช้บริการอยู่ทราบเพื่อยกเลิกการใช้บริการดังกล่าว และ2. แจ้งผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่เพื่อขอออกซิมการ์ดใหม่ซึ่งจะต้องดำเนินการตามขั้นตอนการพิสูจน์ตัวตน
3. ในกรณีที่พิสูจน์ได้ว่าผู้ใช้บริการได้ดำเนินการแจ้งให้ธนาคารพาณิชย์ระงับบริการ Mobile Banking, Internet Banking และ Prompt Pay ผู้ใช้บริการไม่ต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น
4. ในระหว่างที่ยังไม่มีระบบการเชื่อมต่อตรงระหว่างธนาคารพาณิชย์และผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ให้ธนาคารพาณิชย์แจ้งหมายเลขโทรศัพท์ที่ใช้งาน Mobile Banking, Internet Banking และ Prompt Pay ให้ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ทราบ เพื่อจะได้มีการดูแลเป็นกรณีพิเศษ
5. การออกซิมการ์ดใหม่สำหรับเลขหมายที่มีการใช้บริการ mobile Banking และ Internet Banking ผู้ใช้บริการจะต้องดำเนินการด้วยตนเองเท่านั้น ไม่สามารถมอบอำนาจให้ผู้อื่นดำเนินการได้
โดยทั้ง 4 หน่วยงานจะทำงานร่วมกันทำงานอย่างใกล้ชิดในการศึกษาและนำเสนอแนวทางในรายละเอียด เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในการใช้บริการให้กับประชาชน โดยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องตามนโยบายรัฐบาล National e-Payment ในระยะยาวต่อไป