กรุงเทพฯ--12 ก.ย.--irim
นายพสุ โลหารชุน อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวว่า รางวัล คพอ.สตาร์ 2016 เป็นรางวัลที่มอบให้กับผู้ที่ผ่านการฝึกอบรมโครงการพัฒนาผู้ประกอบการธุรกิจอุตสาหกรรม คพอ. กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ซึ่งมีวัตถุประสงค์ในการพัฒนาและยกระดับผู้ประกอบวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ให้มีศักยภาพในการดำเนินธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งตลอดระยะเวลาการดำเนินงานกว่า 36 ปี มีผู้เข้าร่วมโครงการไม่น้อยกว่า 10,000 ราย ดังนั้น เพื่อเป็นการยกระดับผู้ประกอบการธุรกิจอุตสาหกรรม จึงได้จัดโครงการคัดเลือกผู้ประกอบการรางวัล คพอ.สตาร์ นี้ขึ้นมา เพื่อมอบโอกาสให้แก่ผู้ประกอบการที่เป็นเจ้าของธุรกิจและดำเนินธุรกิจมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปีเข้าร่วมการประกวด
การเข้าร่วมประกวดโครงการ คพอ. สตาร์ 2016 จะต้องเป็นผู้ประกอบการที่ผ่านการฝึกอบรมโครงการพัฒนาผู้ประกอบการธุรกิจอุตสาหกรรมในแต่ละภาค ตั้งแต่ปี 2523 ถึง 2558 โดยเกณฑ์การให้คะแนนจะแบ่งออกเป็น 2 ด้านหลักคือ ด้านบุคคล (ผู้บริหาร) และด้านองค์กร ในปีนี้มีผู้ประกอบการสมัครเข้าร่วมประกวดจากทั่วประเทศ ทั้งสิ้น 52 ราย โดยคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิได้พิจารณาคัดเลือกผู้เข้าประกวดตามหลักเกณฑ์แต่ละขั้นตอน และพิจารณาคัดเลือกจนได้ผู้ประกอบการที่เข้ารอบสุดท้ายของแต่ละภูมิภาค เพื่อเข้าตรวจเยี่ยมสถานประกอบการ และพิจารณาตัดสินจนได้ผู้ชนะการประกวด คพอ.สตาร์ 2016 ทั้ง 4 ภาค จำนวน 4 ราย ได้แก่
1. ภาคกลาง คุณสุรเดช นิลเอก บริษัท ทรอปิคานา ออยล์ จำกัด คพอ.รุ่นที่ 236 จ.นครปฐม
2. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ คุณศมน ชคัตธาดากุล บริษัท อุดรกระจกรถยนต์ จำกัด คพอ. รุ่นที่ 137จ.อุดรธานี
3. ภาคเหนือ คุณสมทบ ชั้นสุพัฒน์ โรงงานบุญญะศานต์ จ.อุตรดิตถ์ คพอ.รุ่นที่ 97 จ.อุตรดิตถ์
4. ภาคใต้ คุณวันฤดี รังสินธุรัตน์ บริษัท คุณแม่จู้ จำกัด คพอ.รุ่นที่ 120 จ.ภูเก็ต
"การจัดการประกวด คพอ.สตาร์ 2016 เป็นก้าวสำคัญในการยกระดับผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม เพราะปัจจุบันธุรกิจ SMEs ของไทยมีอัตราการเติบโตที่รวดเร็ว ธุรกิจไม่ว่าจะเป็นสินค้าหรือการบริการจะต้องมีการปรับตัวและพัฒนาอยู่เสมอ เพื่อให้ตอบรับกับกระแสของโลกการค้าที่ไม่เคยหยุดนิ่ง ซึ่งผู้ประกอบการที่เข้าร่วมอบรมกับกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม จะต้องมีการวางแผนงาน กลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจที่ชัดเจน"
อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวต่อว่า สำหรับผู้ชนะการประกวด คพอ.สตาร์ 2016 ทั้ง 4 ภาค จำนวน 4 รายนี้ เป็นผู้ประกอบการที่สามารถพัฒนาขีดความสามารถสินค้าและบริการของตัวเอง ให้เกิดประสิทธิภาพอย่างสูงสุด การมอบรางวัลในครั้งนี้จึงเหมือนเป็นขวัญและกำลังใจให้ผู้ประกอบการได้พัฒนาสินค้า และผู้ประกอบการเหล่านี้ จะเป็นกำลังสำคัญของธุรกิจ และเป็นต้นแบบให้ผู้ประกอบการอื่นๆ ให้ได้เรียนรู้แนวทางการพัฒนาธุรกิจต่อไป