TPCH สานฝันธุรกิจโรงไฟฟ้า สยายปีกสู่ธุรกิจพลังงานทางเลือกแบบครบวงจร มั่นใจให้ผลตอบแทนคุ้มค่าการลงทุน-รายได้ปีนี้โต 200%

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday September 13, 2016 12:07 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--13 ก.ย.--IR network TPCH สานฝันธุรกิจโรงไฟฟ้า ร่วมลงทุนโรงไฟฟ้าขยะกับบริษัท สยามพาวเวอร์ พร้อมสยายปีกสู่ธุรกิจพลังงานทางเลือกแบบครบวงจร อีกทั้งโรงไฟฟ้าชีวมวลพื้นที่ภาคใต้ที่ชนะการประมูล 3 โครงการ เลือกใช้เทคโนโลยีที่ช่วยประหยัดเชื้อเพลิง มั่นใจให้ผลตอบแทนคุ้มค่าการลงทุน ด้านผู้บริหาร "เชิดศักดิ์ วัฒนวิจิตรกุล" ย้ำกำลังการผลิตแตะ 200 MW ในปี 2563 จากปัจจุบัน 142 MW คาดรายได้ปีนี้โตก้าวกระโดด 200% จากปีก่อนทำได้ 304.90 ล้านบาท รับอานิสงส์โรงไฟฟ้าชีวมวล 3 แห่ง "ช้างแรกไบโอเพาเวอร์-แม่วงศ์ เอ็นเนอยี่-มหาชัย กรีน เพาเวอร์" เดินเครื่องจ่ายไฟเต็มสตรีม นายเชิดศักดิ์ วัฒนวิจิตรกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีพีซี พาวเวอร์ โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) (TPCH) เปิดเผยว่า หลังจากที่บริษัทฯได้ดำเนินการเซ็นสัญญาถือหุ้น โรงไฟฟ้าขยะ ใน บริษัท สยามพาวเวอร์นั้น เป็นการขยายภาคธุรกิจ โรงไฟฟ้าพลังงานทางเลือก เพื่อการสร้างฐานรายได้ให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน สร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นในอนาคต ขณะที่กำลังการผลิตคาดว่าจะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้คือก่อสร้างโรงไฟฟ้าให้ได้ 200 เมกะวัตต์ ภายในปี 2563 และรายได้ในปีนี้คาดว่าจะขยายตัว 200% เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ทำได้ 304.90 ล้านบาท ขณะเดียวกันขอยืนยันว่าการเข้าลงทุนในโรงไฟฟ้าขนาดเล็ก โครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน (ไม่รวมโครงการพลังงานแสงอาทิตย์) ในแบบ Feed-in Tariff 2559 ระยะที่ 1 สำหรับพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ (จ.ปัตตานี,จ.ยะลา,จ.นราธิวาส) และ 4 อำเภอในจังหวัดสงขลา (อ.จะนะ,อ.เทพา,อ.สะบ้าย้อย,อ.นาทวี) ที่บริษัทฯ ชนะการประมูลจำนวน 3 โครงการ กำลังการผลิตรวม 26.1 เมกะวัตต์ ราคาขายไฟเป็นราคาที่อยู่ในระดับเดียวกันกับโรงไฟฟ้าช้างแรก ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเรายังสามารถทำผลกำไรได้ดี อีกทั้งบริษัทฯยังเลือกใช้เทคโนโลยีแบบใหม่ที่ช่วยประหยัดเชื้อเพลิงได้ถึง 10%-15% ทำให้ประหยัดต้นทุนค่าเชื้อเพลิงมากกว่าโครงการช้างแรกด้วย ซึ่งหลังจากบริษัทฯได้รับหนังสือสัญญาอนุญาตซื้อขายไฟฟ้า (PPA) ตามกำหนดของคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน ภายในวันที่ 23 ธันวาคม 2559 นั้น ทางบริษัทฯจะดำเนินการก่อสร้างโรงไฟฟ้า และคาดว่าจะขายไฟได้ตามกำหนดคือไตรมาส 4 ปี 2561 ดังนั้นจึงมั่นใจว่าจะสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีกำไรในระดับที่น่าพอใจและสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับบริษัทฯ ในอนาคต โดยปัจจุบันบริษัทฯ มีโครงการโรงไฟฟ้าทั้งสิ้น 11 แห่ง กำลังการผลิตรวม 142 เมกะวัตต์ ประกอบด้วย โรงไฟฟ้าชีวมวลจำนวนทั้งสิ้น 10 แห่ง กำลังการผลิต 132 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าพลังงานขยะอีก 1 แห่ง กำลังการผลิต 10 เมกะวัตต์ โดยโครงการดังกล่าวแบ่งเป็นโครงการที่ขายไฟฟ้าแล้วจำนวน 30 เมกะวัตต์ ได้แก่ โรงไฟฟ้าช้างแรก ไบโอเพาเวอร์ (CRB) ,โรงไฟฟ้าชีวมวลแม่วงศ์ เอ็นเนอยี่ (MWE) และโรงไฟฟ้าชีวมวลมหาชัย กรีน เพาเวอร์ (MGP) โครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างจำนวน 30 เมกะวัตต์ ได้แก่ โรงไฟฟ้าชีวมวลทุ่งสัง กรีน (TSG) ,โรงไฟฟ้าชีวมวลพัทลุง กรีน เพาเวอร์ (PGP) และโรงไฟฟ้าชีวมวลสตูล กรีน เพาเวอร์ (SGP) ส่วนโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนามีจำนวน 82 เมกะวัตต์ ได้แก่ โรงไฟฟ้าชีวมวล ปัตตานี กรีน (PTG) ,โรงไฟฟ้า ทีพีซี เพาเวอร์1 (TPCH 1) , โรงไฟฟ้า ทีพีซี เพาเวอร์2 (TPCH 2) ,โรงไฟฟ้า ทีพีซี เพาเวอร์5 (TPCH 5) และโรงไฟฟ้า สยาม พาวเวอร์ (SP) สำหรับผลประกอบการในไตรมาส 2/2559 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 50.17 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 44.62 ล้านบาท หรือ 803.96% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 5.55 ล้านบาท ส่วนผลการดำเนินงานในช่วง 6 เดือน มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 81.46 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 74.56 ล้านบาท หรือ 1,080.57% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 6.90 ล้านบาท

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ