กรุงเทพฯ--13 ก.ย.--กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
จากการนำเสนอข่าวความร่วมมือของหลายหน่วยงานเช่น กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กรมสรรพากร กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ กรมการท่องเที่ยว กองบัญชาการปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และหน่วยทหารในพื้นที่ ในการปราบปรามธุรกิจท่องเที่ยวผิดกฎหมาย "ทัวร์ศูนย์เหรียญ" ซึ่งเป็นธุรกิจที่ดำเนินการมาอย่างยาวนานก่อให้เกิดผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศไทยเป็นอย่างมากทำให้มีการพูดถึงและแสดงความคิดเห็นกันในหลายวงการอันอาจเกิดความเข้าใจที่ไม่ถูกต้องต่อประชาชน
ดังนั้นในวันนี้ (12 ก.ย. 59) นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา (รมว.กก.) พร้อมด้วย นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา (ป.กก.), นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, นางสาววรรณสิริ โมรากุล อธิบดีกรมการท่องเที่ยว,พลตำรวจตรี สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยว (ผบ.ทท.), ผู้แทนจากสถานทูตจีนประจำประเทศไทย, และผู้แทนองค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งชาติจีนประจำประเทศไทย (CNTA) ได้ร่วมกันแถลงข่าวเพื่อชี้แจงสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ ณ ห้องประชุมกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ถนนราชดำเนินนอก
นางกอบกาญจน์วัฒนวรางกูรเปิดเผยว่า ก่อนดำเนินการในเรื่องนี้ กระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ทำงานร่วมกันจนได้ข้อยุติในเบื้องต้นแล้ว หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องจึงได้ดำเนินการตามกฎหมายดังที่เป็นข่าวปรากฎอยู่ ไม่ว่าจะเป็นการยึดทรัพย์หรืออายัด กระบวนการหลังจากนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็จะได้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
รมว.ท่องเที่ยว ย้ำการท่องเที่ยวยังเติบโตการดำเนินการปราบปรามดังกล่าวนี้ มีผลกระทบต่อการท่องเที่ยวเฉพาะบางพื้นที่ในระยะสั้นแต่จำนวนนักท่องเที่ยวโดยรวมไม่ลดลง ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งแต่วันที่ 1 – 11 ก.ย. 59 นักท่องเที่ยวจีนมีจำนวนเพิ่มขึ้น 33.74 % จากปีที่แล้ว และตั้งแต่ 1 ม.ค. 59 – 11 ก.ย. 59 นักท่องเที่ยวจีนเพิ่มขึ้น 19.34% ในขณะที่จำนวนนักท่องเที่ยวโดยรวม เพิ่มขึ้น 12.10%
นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า "ล่าสุด บริษัททัวร์ได้มีการประชุมหารือกันอย่างกว้างขวาง คนที่อยู่ในวงการรู้ดีว่า ทุกคนเห็นแสงสว่างในอนาคตแล้ว อาทิเช่น กำลังปรับปรุงระบบการให้ค่าคอมมิชั่น การลดราคาสินค้าที่เคยเอาเปรียบมาเป็นเวลานานถึง 20 ปี จะไม่ขายสินค้าปลอม หรือผิดกฎหมาย ปรับปรุงการปกปิดรายงานด้านภาษี ความโปร่งใสระหว่างบริษัททัวร์กำลังจะเกิดขึ้น ผู้ประกอบการรถบัส ร้านรวงต่างๆมีโอกาสสร้างรายได้มากขึ้นไกด์ไทยจะไม่ตกงาน และอยู่อย่างมีศักดิ์ศรี แสดงตัวเลขที่แท้จริงของเศรษฐกิจการท่องเที่ยว ซึ่งจะเป็นการพัฒนาไปสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป"
รมว.กอบกาญจน์ กล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า "นอกจากการเป็นเจ้าบ้านที่ดีในการร่วมกันช่วยกันดูแลให้นักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมเยือนประเทศไทยได้รับความสุขปลอดภัยจากการเดินทางมาท่องเที่ยวบ้านเราแล้ว การจัดระเบียบด้านการท่องเที่ยวให้มีคุณภาพก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่กระทรวงการท่องเที่ยวและทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องร่วมกันดูแลให้เกิดความเป็นธรรม ซึ่งผลลัพธ์สุดท้ายที่จะเกิดขึ้นคือสุดยอดการบริการที่จะสามารถสร้างความประทับใจให้แก่นักท่องเที่ยว และการสร้างรายได้ที่เต็มเม็ดเต็มหน่วยแก่เศรษฐกิจการท่องเที่ยวของประเทศไทย"