กรุงเทพฯ--11 ก.ค.--กทม.
เมื่อวานนี้ (10 ก.ค.44) เวลา 09.00 น. ที่ห้องราชดำเนิน โรงแรมรอยัล ปริ๊นเซส ฯพณฯ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เป็นประธานเปิดการประชุมนานาชาติ เรื่อง “บริการสุขภาพผู้สูงอายุ ในชุมชนเมือง” โดยมี Dr.Yuji Kawaguchi Director of WHO Centre for Health Development นางสุดารารัตน์ เกยุราพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นพ.ประพันธ์ กิติสิน รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และผู้เชี่ยวชาญจาก 11 ประเทศร่วมประชุม
สำหรับการประชุมในครั้งนี้ ศูนย์องค์การอนามัยโลกเพื่อการพัฒนาสุขภาพ เมืองโกเบ ประเทศญี่ปุ่น (WHO Kobe Centre - WKC ) ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข มูลนิธิรัฐบุรุษ และองค์กรต่าง ๆ จัดขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นเวทีแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ความสำเร็จ และบทเรียนที่ได้รับจากการพัฒนานโยบายด้านการดูแลผู้สูงอายุและการให้บริการผู้สูงอายุในชุมชนเมืองต่าง ๆ รวมถึงการจัดเตรียมร่างแนวทางสำหรับการทำวิจัยเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุของชุมชนในเขตเมือง พร้อมข้อเสนอแนะความร่วมมือกันในอนาคต จากนั้นจะมีการประกาศเป็นปฎิญญาร่วมกัน โดยมีผู้เชี่ยวชาญจาก 11 ประเทศทั่วโลก ได้แก่ สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย บราซิล ฮ่องกง เกาหลีใต้ จีน อิหร่าน อินโดนิเซีย ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ และไทย รวมประมาณ 80 คน ร่วมประกาศปฎิญญา
การที่ประเทศไทยได้เป็นเจ้าภาพร่วมกับ WKC ในการจัดการประชุมครั้งนี้ เนื่องจากประเทศไทยเป็นประเทศที่มีวัฒนธรรมอันเก่าแก่มานาน สังคมไทยให้การยกย่องผู้สูงอายุเพราะถือว่าผู้สูงอายุไทยคือประชากรที่เป็นทรัพยากรอันมีค่าของชาติ โดยเป็นทั้งบุพการีและเป็นผู้ที่สามารถถ่ายทอดความรู้ให้แก่ลูกหลาน อีกทั้งยังเป็นผู้ที่สามารถทำประโยชน์ให้แก่สังคม ครอบครัว และถ่ายทอดวัฒนธรรมได้เป็นอย่างดี ปัจจุบันทุกประเทศกำลังประสบปัญหาประชากรในวัยสูงอายุมีมากขึ้น รวมถึงประเทศไทยด้วย นอกจากนี้ยังต้องเผชิญปัญหาภาวะทางเศรษฐกิจ และการย้ายถิ่นของคนหนุ่มสาวในชนบทที่ต่างก็ออกหางานทำในเมืองทิ้งผู้สูงอายุให้อยู่บ้านเพียงลำพัง รวมทั้งสภาพสังคมที่แปรเปลี่ยนไปจากครอบครัวขยายเป็นครอบครัวเดี่ยว เป็นปัญหาที่ต้องเร่งแก้ไข นับเป็นโชคดีของประเทศไทยที่วัฒนธรรมไทยยังให้ความเคารพยกย่องผู้สูงอายุ ดังจะเห็นได้จากประเพณีวันสงกรานต์ (วันที่ 13 เม.ย.ของทุกปี) คนหนุ่มสาวที่ออกมาหางานทำต่างถิ่นก็ยังต้องกลับบ้านเพื่อไปรดน้ำขอพรผู้สูงอายุ
ด้วยวัฒนธรรมอันดีงามดังกล่าวทำให้หน่วยงานต่าง ๆ ให้ความสำคัญต่อการดูแลช่วยเหลือผู้สูงอายุในทุกด้าน โดยเฉพาะรัฐบาลไทยได้จัดบริการต่าง ๆ แก่ผู้สูงอายุ เช่น การบริการสุขภาพ โดยให้การรักษาพยาบาล โดยไม่คิดมูลค่า นอกจากนี้หน่วยงานรัฐบาลยังได้จัดทำ พรบ.ผู้สูงอายุ ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการตีความของกฤษฎีกา คาดว่าถ้า พรบ.ฉบับนี้ผ่านจะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อผู้สูงอายุไทยในอนาคตเป็นอย่างยิ่ง สิ่งต่าง ๆ นี้ล้วนเป็นความพยายามของประเทศไทยที่จะพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุไทยให้ยั่งยืน ซึ่งอยู่บนรากฐานของวัฒนธรรมอันดีงามตลอดไป--จบ--
-นห-