กรุงเทพฯ--14 ก.ย.--เอ็ม ที มัลติมีเดีย
บลจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ หรือ LHFund สบช่องปลายปีทยอยเปิดตัวกองทุน LTF ประเดิม 15-21 ก.ย.นี้ เปิด IPO กองทุนเปิดแอล เอช สมาร์ท หุ้นระยะยาว หรือ 'LHSMART-LTF' โดยคัดสรรหุ้นที่มีแนวโน้มจ่ายปันผลดีและมีโอกาสรับผลตอบแทนสม่ำเสมอ พร้อมแย้มปลายปีนี้เตรียมเปิดตัว LTF เพิ่มอีก 1 กอง
นายมนรัฐ ผดุงสิทธิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด หรือ LHFund เปิดเผยว่า หลังจากที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติเห็นชอบขยายระยะเวลาให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีของกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) อีก 3 ปี จากเดิมที่จะสิ้นสุดในปี 2559 เป็นปี 2562 พร้อมทั้งเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขการถือครองหน่วยลงทุน LTF จากเดิม 5 ปีปฏิทิน เป็น 7 ปีปฏิทิน ซึ่งจะส่งผลให้ผู้ที่ซื้อหน่วยลงทุน LTF ในปี 2559-2562 ยังคงได้รับสิทธิลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในปีนั้นๆ ดังนั้นจึงได้เพิ่มกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ประเภท LTF เพื่อเพิ่มทางเลือกให้แก่ผู้ที่ต้องการลงทุนผ่านกองทุนรวมหุ้นระยะยาวพร้อมได้รับสิทธิลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาอีกด้วย
โดยในวันที่ 15-21 กันยายน 2559 นี้ทาง LHFund จะเปิด IPO กองทุนเปิด แอล เอช สมาร์ท หุ้นระยะยาว หรือ 'LHSMART-LTF'ซึ่งมีนโยบายลงทุนไม่น้อยกว่า 65% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน (NAV) ในหุ้นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยที่มีปัจจัยพื้นฐานดี และ/หรือหุ้นที่มีแนวโน้มจ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอ ส่วนที่เหลืออีกไม่เกิน 35% จะลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ กองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน ตราสารหนี้หรือเงินฝากธนาคาร โดยกองทุนดังกล่าวมีนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่เกิน 12 ครั้งต่อปี
ทั้งนี้ การลงทุนใน LTF ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการลงทุนระยะยาวในหุ้นและสินทรัพย์ประเภทอื่นๆ แต่ยังไม่มีความชำนาญ โดย LHFund มีทีมงานที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการลงทุนเพื่อกำหนดแนวทางการลงทุนภายใต้กลยุทธ์ Asset Allocation ที่จะกระจายการลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ ภายใต้หลักเกณฑ์ที่ ก.ล.ต. กำหนด เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาวให้แก่นักลงทุน ซึ่งในช่วงปลายปีบริษัทฯ มีแผนจะเปิดตัว LTF เพิ่มขึ้นอีก 1 กองด้วย
คำเตือน
· ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทน ความเสี่ยงและคู่มือการลงทุนก่อนตัดสินใจลงทุน
· เมื่อครบกำหนดระยะเวลายกเว้นภาษีเงินได้ฯ ผู้ถือหน่วยลงทุนที่ลงทุนตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2563 จะไม่สามารถได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีอีกต่อไป และบริษัทจัดการจะดำเนินการเปลี่ยนชื่อกองทุนเพื่อมิให้เกิดความเข้าใจผิด โดยให้ถือว่าได้รับมติจากผู้ถือหน่วยลงทุนแล้ว
· ผู้ถือหน่วยลงทุนของกองทุนรวมหุ้นระยะยาวจะไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี หากไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขการลงทุน และจะต้องคืนสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่เคยได้รับภายในกำหนดเวลา มิฉะนั้นจะต้องชำระเงินเพิ่มและเบี้ยปรับตามประมวลรัษฎากร (ควรลงทุนอย่างน้อย 7 ปีปฏิทิน)
· ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ระบุไว้ในคู่มือการลงทุนและควรศึกษากฎหมายภาษีอากรที่เกี่ยวข้องทั้งนี้สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและขอรับคู่มือการลงทุนได้ที่บริษัทจัดการหรือผู้สนับสนุนการขายหรือรับซื้อคืนหน่วยลงทุน