กรุงเทพฯ--15 ก.ย.--แม็กซิม่า คอนซัลแตนท์
คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดบ้านจัดงาน Grand Open House 2016 (แกรนด์ โอนเพ่น เฮ้าส์ 2016) ตลาดนัดหลักสูตรปริญญาโทและปริญญาเอก ทั้งหมดรวม 15 หลักสูตร หวังเปิดโอกาสให้ว่าที่นิสิต ศึกษาหลักสูตรต่างๆ ก่อนเลือกเรียนให้ตรงกับความต้องการ เพื่อให้เนื้อหาที่เรียนสามารถเสริมประสิทธิภาพการทำงาน สร้างความก้าวหน้าให้กับทั้งตัวนิสิต และองค์กรธุรกิจ
รศ.ดร.อัษฎาพร ทรัพย์สมบูรณ์ รองคณบดีฝ่ายวิชาการ คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่าการจัดงาน Open House ครั้งนี้เป็นเหมือนตลาดนัดหลักสูตรปริญญาโท และปริญญาเอก ให้ผู้สนใจเข้ามาร่วมงานมีข้อมูลหลากหลายเพื่อช่วยในการตัดสินใจเลือก โดยปีนี้มีผู้สนใจเข้าร่วมงานมากขึ้น เพราะคนตระหนักว่าการศึกษามีส่วนเสริมความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน
ทั้งนี้ หลักสูตรปริญญาโทของคณะฯ มีความหลากหลายถึง 11 หลักสูตร ที่เป็นการเตรียมความพร้อมในการขึ้นเป็นผู้บริหารระดับสูง เช่น MBA และหลักสูตรที่เน้นความชำนาญเฉพาะด้าน เช่น การเงิน บัญชี ประกันภัย สถิติ การจัดการธุรกิจระหว่างประเทศ เพื่อรองรับความต้องการที่แตกต่างกันของผู้สนใจ นอกจากนี้ยังมีหลักสูตรที่ร่วมกับคณะอื่น เช่น วิศวกรรมการเงิน ร่วมกับคณะวิศวกรรมศาสตร์ หรือหลักสูตรที่ร่วมกับสถาบันในต่างประเทศ เช่น หลักสูตรวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการกำกับดูแลกิจการ Master of Science Program in Corporate Governance (MSCG) หลักสูตรสำหรับผู้ตรวจสอบภายใน หรือผู้บริหารในการเพิ่มพูนความรู้ด้านการกำกับดูแลกิจการ โดยเป็นการพัฒนาหลักสูตรร่วมกับสถาบัน The Institute of Internal Auditors (IIA) สถาบันผู้ออกใบรับรองให้กับบุคคลผู้ทำหน้าที่เป็นผู้ตรวจสอบภายใน
"เราก็พยายามนำเอาเทรนด์ใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นในโลกธุรกิจเสริมเข้าไปในหลักสูตรปัจจุบัน เพื่อให้หลักสูตรมีความเข้มข้นมากยิ่งขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น ขณะนี้กระแสเรื่องดิจิทัลเข้ามา เราก็จะเอาเข้าไปเสริมอยู่ในบางวิชาของหลักสูตร MBA เช่น วิชาอีคอมเมิร์ซ เป็นต้น" รศ.ดร.อัษฎาพร กล่าว
รองคณบดีฝ่ายวิชาการ ยังกล่าวต่อว่า หลักสูตรที่ได้รับความนิยมสูงสุดมาโดยตลอด คือ MBA ซึ่งคณะฯ มีให้เลือกเรียน 4 หลักสูตร คือ Regular, Young Executive, Executive และ English Program โดยกว่า 80% จะเป็นผู้ที่มีประสบการณ์การทำงานมาระยะหนึ่งแล้ว จึงมาเรียนต่อในภาคค่ำ ซึ่งเป็นเรื่องที่ทางคณะฯ ให้การสนับสนุนมากกว่าการเรียนจบปริญญาตรีแล้วมาต่อปริญญาโทเลย เนื่องจากประสบการณ์การทำงานจะช่วยให้การเรียนรู้ในระดับปริญญาโทมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ส่วนหลักสูตรปริญญาเอก มีทั้งหมด 4 หลักสูตร คือ ด้านบริหารธุรกิจ บัญชี ไอทีบิสซิเนส และการเงินเชิงปริมาณ เป็นหลักสูตรที่เปิดสำหรับผู้ที่อยากจบออกไปเป็นอาจารย์ หรือนักวิชาการโดยเฉพาะ โดยแต่ละปีมีนักศึกษาระดับปริญญาโท และปริญญาเอกรวมกัน 2,100 คน แต่สำหรับปริญญาเอก มีนิสิตที่จบออกไปน้อยเนื่องจากไม่มีเวลาสำหรับการเรียนรู้อย่างหนักเพื่อให้ผ่านมาตรฐานที่ทางคณะฯ กำหนดไว้
"การเรียนการสอนระดับปริญญาโท และปริญญาเอกของคณะ เน้นการผสมผสานระหว่างประสบการณ์และวิชาการ ทำให้มาตรฐานในการวัดผลการศึกษาค่อนข้างสูง การเรียนที่นี่จึงไม่ใช่แค่เรียนครบแล้วจบแน่ แต่จะต้องเรียนครบแล้วจบออกไปอย่างมีคุณภาพ จึงจะสามารถคว้าใบปริญญาของที่นี่ไปได้" รศ.ดร.อัษฎาพร กล่าวปิดท้าย