กรุงเทพฯ--15 ก.ย.--เจซีแอนด์โค พับลิครีเลชั่นส์
กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) กระทรวงอุตสาหกรรม เดินหน้าเตรียมความพร้อมธุรกิจ SMEs ให้ก้าวทันตลาดโลก สนองนโยบาย 4.0 ชู 5 ช่องทางออนไลน์ เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยนวัตกรรม ได้แก่ การพัฒนาเว็บไซต์ การพัฒนาเว็บแอพพลิเคชั่น การพัฒนาโมบายแอพพลิเคชั่น ตลอดจน การส่งเสริมการตลาดสื่อสังคมออนไลน์ และการเชื่อมโยงเครือข่ายอีคอมเมิร์ซ ทั้งนี้ จากข้อมูลพบว่าประเทศไทย มีธุรกิจ SMEs กว่า 2.79 ล้านราย แต่มีเพียง 1 ล้านรายเท่านั้นที่เข้าถึงสื่อออนไลน์
ดร.พสุ โลหารชุน อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวว่า เพื่อเป็นการขานรับนโยบาย 4.0 ของประเทศไทย ที่มีการส่งเสริมให้ธุรกิจ SMEs ขับเคลื่อนประเทศด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน ซึ่งถือเป็นการเตรียมความพร้อมให้กับธุรกิจ SMEs ดังนั้น กสอ. จึงมีการผลักดันให้นำ 5 ช่องทางออนไลน์มาใช้ในการเสริมสร้างและพัฒนาธุรกิจ SMEs ได้แก่
· การพัฒนาเว็บไซต์ โดย กสอ. มีการพัฒนาเว็บไซต์ http://bsc.dip.go.th เพื่อให้บริการข้อมูลข่าวสาร โครงการ/กิจกรรมต่าง ๆ กรณีศึกษา SMEs ที่ประสบความสำเร็จ ตลอดจนคลังความรู้ในการ ประกอบธุรกิจ ซึ่งผู้ประกอบการสามารถนำข้อมูลไปพัฒนาและต่อยอดได้
· การพัฒนาเว็บแอพพลิเคชั่น ทาง กสอ. ได้พัฒนาเว็บแอพพลิเคชั่นเพื่อเป็นช่องทางให้คำปรึกษาแนะนำแก่ผู้ประกอบการ SMEs ผ่านช่องทางออนไลน์ บน http://e-consult.dip.go.th ในรูปแบบ Web Conference ซึ่งเป็นการให้คำปรึกษาโดยผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน เช่น การเริ่มต้นธุรกิจ ปัญหาการดำเนินธุรกิจ เป็นต้น เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกแก่ผู้มาขอรับบริการ ผ่านการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต โดยเปิดให้คำปรึกษาแนะนำทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 08.00 - 16.00 น. ผ่านระบบออนไลน์
· การพัฒนาโมบายแอพพลิเคชั่น (Mobile Application) กสอ. ได้มีการพัฒนา 2 โมบายแอพพลิเคชั่นเพื่อให้ผู้ประกอบการได้เข้าถึงแหล่งข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว ส่งผลให้เกิดการพัฒนาธุรกิจ SMEs อย่างต่อเนื่อง อาทิ แอพพลิเคชั่น DIP Thailand เป็นแอพพลิเคชั่นหลักของ กสอ. โดยพัฒนาขึ้นมาเพื่อให้บริการข้อมูลข่าวสารด้านการส่งเสริมอุตสาหกรรม การประชาสัมพันธ์โครงการของ กสอ. รวมไปถึงการสมัครเข้าร่วมโครงการต่าง ๆ ที่ทาง กสอ.ได้จัดขึ้น โดยทางผู้ประกอบการ SMEs สามารถสมัครเข้าร่วมโครงการผ่านช่องทางโมบายแอพพลิเคชั่น (Mobile Application) ได้ นอกจากนี้ ยังมีแอพพลิเคชั่น iP Industrial Partner ซึ่งเป็นแอพพลิเคชั่นที่ทาง กสอ.ได้รวบรวมข้อมูล ของที่ปรึกษาและผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านมาให้บริการแก่ผู้ขอรับคำปรึกษาแนะนำ โดยผู้ที่มาขอรับบริการสามารถที่จะฝากข้อความได้ตลอด 24 ชั่วโมงทั้งในด้านข้อมูลอุตสาหกรรม โอกาสการลงทุน และโอกาสทางธุรกิจ ซึ่งทั้ง 2 แอพพลิเคชั่น สามารถดาวน์โหลด ได้ที่ app store และ play store
· การเชื่อมโยงเครือข่ายอีคอมเมิร์ซ กสอ.ได้ร่วมกับ Alibaba และ Ready Planet ในการขยายช่องทางการส่งออก บนเว็บไซต์ http://alibaba-dip.readyplanet.com ซึ่งถือว่าเป็นช่องทางการค้าส่งออนไลน์ที่มีผู้ใช้งานมากที่สุดในโลก และยังเป็นตัวกลางในการให้ความรู้แก่ SMEs อย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งจัดโครงการอบรมให้ความรู้ ด้านการส่งออก การขนส่งสินค้า ด้านภาษี และเพิ่มช่องทางในการขายสินค้าออกไปต่างประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ กสอ.ยังได้จับมือกับ HKTDC เพื่อส่งเสริมความร่วมมือทางด้านการค้าและเศรษฐกิจระหว่างประเทศไทยและฮ่องกง รวมไปถึงทางฮ่องกงยังได้เผยแพร่รายชื่อผู้ประกอบการและสินค้าไทยในเครือข่ายของ กสอ.ไปเผยแพร่ ใน "Thailand Featured Suppliers Zone" บนเว็บไซต์www.hktdc.com เพื่อประชาสัมพันธ์สินค้าและอุตสาหกรรมไทยสู่กลุ่มผู้ประกอบการฮ่องกงและจีน ซึ่งเป็นการเพิ่มโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยในการสร้างเครือข่ายระหว่างผู้ประกอบการฮ่องกงและจีน
· การส่งเสริมการตลาดสื่อสังคมออนไลน์เฟสบุ๊ค (Facebook) กสอ. ได้มีการจัดฝึกอบรมโครงการเสริมสร้างผู้ประกอบการใหม่ โดยมีการส่งเสริมการทำการตลาดผ่านเฟสบุ๊ค (Face book) ด้วยกลยุทธ์ต่าง ๆ อาทิ การสร้าง Facebook Page ให้เปรียบเสมือนหน้าร้านธุรกิจ โปรโมทร่วมกับเว็บไซต์ การสร้างสรรค์เนื้อหาที่ดึงดูดกลุ่มเป้าหมาย และการนำข้อมูลเผยแพร่ตามช่องทางต่าง ๆ เพื่อเป็นช่องทางในการโปรโมทธุรกิจ อีกทั้งยังสามารถสร้างเครือข่ายกลุ่มผู้บริโภคได้ง่ายขึ้น ตลอดจนการสร้างเนื้อหาให้ความรู้ ผ่าน infographic เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม สื่อออนไลน์มีส่วนช่วยในการเชื่อมโยงข้อมูล การสร้างมูลค่าเพิ่ม รวมถึงสามารถยกระดับ การบริหารจัดการ การเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ การลดต้นทุนในขั้นตอนการผลิต และการเรียนรู้ ให้แก่ผู้ประกอบการได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งในอนาคตคาดว่าจะมีบทบาทอย่างยิ่งในการดำเนินธุรกิจ ในด้านต่าง ๆ อย่างมาก ซึ่ง กสอ. ตั้งเป้าหมายในการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการมีความสามารถในการใช้สื่อออนไลน์มาส่งเสริมธุรกิจอุตสาหกรรมของตนเอง โดยปัจจุบันพบว่าไทยมีผู้ประกอบการ SMEs เพียง 1 ล้านราย ที่ใช้สื่อออนไลน์ในการดำเนินธุรกิจ SMEs ดร.พสุ กล่าวทิ้งท้าย
ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ถนนพระราม 6 กรุงเทพฯ โทรศัพท์ 0 2202 4414-17 หรือเข้าไปที่ www.dip.go.th หรือ www.facebook.com/dip.pr