กรุงเทพฯ--15 ก.ย.--เอ็ม แอนด์ เอส ครีเอชั่น
ส่องตลาดบ้านสร้างเองต่างจังหวัดแผ่วกว่าที่คาดไว้ ชี้รายย่อยต่างจังหวัดเน้นแข่งขันตัดราคาสุดท้ายไม่รอด ด้านพีดีเฮ้าส์ห่วงภาพรวมธุรกิจสร้างบ้านเสียหาย ชิงหนีสงครามราคา หันสร้างแบรนด์พร้อมชูกลยุทธ์สร้างความแตกต่าง มั่นใจยั่งยืนกว่าเผยควง 2 แบ๊งค์ใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ อัดโปรโมชั่นแรง หวังรุกตลาดสินเชื่อปลูกสร้างบ้านทั่วประเทศ ตั้งเป้า 4 เดือนกวาดยอดขายบ้านสินเชื่อ 400 ล้านบาท
นายพิศาล ธรรมวิเศษ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พีดี เฮ้าส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด เจ้าของและผู้บริหาร สิทธิ์แฟรนไชส์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ เปิดเผยว่า ในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา ตลาดรับสร้างบ้านแข่งขันกันรุนแรงพอสมควรโดยเฉพาะในต่างจังหวัด เหตุกำลังซื้อผู้บริโภคไม่คึกคักดังที่คาดการณ์ไว้ ขณะที่มีผู้ประกอบการรายใหม่ๆ เข้ามาแข่งขันในตลาดบ้านสร้างเองมากขึ้น ทั้งในเขตภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคอีสาน แต่ส่วนใหญ่เป็นรายย่อยและเน้นใช้กลยุทธ์ราคาต่ำ ส่งผลให้รายเดิมๆ ต้องปรับตัวและลดราคาลงมาเพื่อชิงกำลังซื้อคืน กลายเป็นสงครามราคาในหลายๆ จังหวัด ซึ่งน่าเป็นกังวลกับผลกระทบที่จะตามมา หากผู้ประกอบการขาดความรับผิดชอบต่อผู้บริโภคและผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง
"ตัวอย่างเช่นเมื่อเร็วๆ นี้บริษัทรับสร้างบ้านรายหนึ่งในจังหวัดอุดรธานี ที่ใช้วิธีตัดราคาคู่แข่งมาอย่างต่อเนื่อง ด้วยเพราะต้องการยอดขายบ้านจำนวนมากๆ และมีเงินหมุนเวียนไว้ก่อน แต่เมื่อกำลังซื้อและเศรษฐกิจชะลอตัวในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา จำนวนลูกค้าที่มาใช้บริการก็ลดลงตาม กอปรกับไม่สามารถรักษาคุณภาพบ้านที่ส่งมอบลูกค้าไว้ได้ กระทั่งประสบปัญหาสภาพคล่องทางการเงินและผลประกอบการขาดทุน สุดท้ายจึงไปไม่รอดและเกิดความเสียหายขึ้นตามมา ทั้งในส่วนของผู้บริโภคที่สร้างบ้านแล้วไม่ได้บ้าน ผู้จำหน่ายวัสดุก่อสร้างไม่ได้รับเงินค่าสินค้า ผู้รับเหมาช่วงและแรงงานโดนเบี้ยวเงินค่าจ้าง ฯลฯ ซึ่งนำไปสู่การฟ้องร้องดำเนินคดีกันวุ่นวายในปัจจุบัน"
ในระยะ 10 ปีที่ผ่านมา ไม่ว่าเป็นช่วงเศรษฐกิจขาขึ้นหรือขาลง บริษัทฯ พยายามเลี่ยงทำสงครามราคากับคู่แข่งทั้งรายย่อยและรายใหญ่มาโดยตลอด ดังนั้นจึงเลือกที่จะแข่งขันอย่างมีกลยุทธ์และสร้างมูลค่าเพิ่มแทน ด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการให้แตกต่าง การเลือกใช้เทคโนโลยีก่อสร้างที่ทันสมัย การสร้างแบรนด์และตราสินค้าเพื่อผู้บริโภคเชื่อมั่นและรับรู้ในวงกว้าง รวมทั้งการสร้างเครือข่ายธุรกิจให้เติบโตอย่างเข้มแข็ง อาทิเช่น การนำเสนอบ้านโครงสร้างเหล็กระบบ Wall Frame เพิ่มทางเลือกให้ผู้บริโภค การใช้สื่อออนไลน์และโซเชียลมีเดียอย่างจริงจังเป็นรายแรกๆ การพัฒนาระบบแฟรนไชส์รับสร้างบ้านภายใต้แบรนด์พีดีเฮ้าส์ จนสามารถขยายสาขาได้ทั่วประเทศ ฯลฯ นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีแผนจะขยายตลาดสู่ประเทศกลุ่มอาเซียนใน 5 ปีข้างหน้าอีกด้วย
ปีนี้ บริษัทฯ มีแผนการขยายสาขาแห่งใหม่ 1-2 แห่ง แต่จากการประเมินแนวโน้มทิศทางเศรษฐกิจและตลาดบ้านสร้างเองตลอดช่วง 8 เดือนที่ผ่านมา พบว่าจังหวัดเป้าหมายที่จะเปิดสาขา เช่น จังหวัดเพชรบูรณ์ สิงห์บุรี จันทบุรี ฯลฯ ซึ่งส่วนใหญ่ไม่ใช่จังหวัดหัวเมืองหลักๆ กำลังซื้อผู้บริโภคและความต้องการสร้างบ้านยังไม่คึกคักมากพอ แม้ว่าจะมีผู้ลงทุนยื่นขอสิทธิ์แฟรนไชส์รับสร้างบ้านติดต่อเข้ามาหลายราย เพื่อจะเปิดสาขาใหม่ก็ตาม แต่เมื่อพิจารณาร่วมกันแล้วว่าสถานการณ์ยังมีความไม่แน่นอน บริษัทฯ จึงปรับแผนหรือชะลอการเปิดสาขาไว้ก่อน ด้วยเพราะไม่ต้องการเผชิญความเสี่ยงในการลงทุนมากนัก อย่างไรก็ดี ผู้บริโภคที่สนใจสร้างบ้านในจังหวัดที่กล่าวมา สามารถใช้บริการกับพีดีเฮ้าส์สาขาจังหวัดใกล้เคียง ที่เปิดดำเนินการอยู่ก่อนแล้วได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มใดๆ ได้แก่ จังหวัดพิษณุโลก สุพรรณบุรี และระยอง
นายพิศาล กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับกลยุทธ์การตลาดในช่วงท้ายไตรมาส 3 นี้บริษัทฯ ร่วมกับ ธนาคารไทยพาณิชย์ จัดโปรโมชั่น ฟรีค่าจดจำนอง ฟรีค่าประเมินหลักทรัพย์ ฟรีค่าตรวจงวดงาน พร้อมอัตราดอกเบี้ยต่ำ ให้แก่ลูกค้าสวัสดิการองค์กรขนาดใหญ่ที่มีข้อตกลงกับธนาคารฯ กว่า 30 แห่ง อาทิ ปตท. เอสซีจี ซีพีกรุ๊ป โตโยต้า เบทาโกร ไทยน้ำทิพย์ ฯลฯ อีกทั้งยังได้รับโปรโมชั่น "บินดี อยู่ดี" มูลค่ารวม 1 แสนบาท - 2 ล้านบาท ของบริษัทฯ อีกด้วย (ตามราคาบ้าน) นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังร่วมสนับสนุนโครงการ "บ้าน ธอส. เพื่อข้าราชการ" ของธนาคารอาคารสงเคราะห์ เช่น พนักงานการไฟฟ้าภูมิภาค ข้าราชการแพทย์ ครู ฯลฯ ที่ใช้บริการสร้างบ้านกับศูนย์รับสร้างบ้าน พีดีเฮ้าส์ทุกสาขาทั่วประเทศ จะได้รับสิทธิ์นี้ด้วยเช่นกัน รวมถึงได้รับอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 3.25% นาน 4 ปี จากธนาคารฯ ทั้งนี้บริษัทฯ คาดการณ์ยอดขายบ้านเฉพาะกลุ่มสินเชื่อตามโปรโมชั่นนี้ไว้ประมาณ 250 - 300 ล้านบาทในช่วง 4 เดือนสุดท้ายปี 2559 นี้