ไทยประกันชีวิต ปลุกกระแสชาตินิยมชูแนวคิด สร้างคน สร้างไทย สร้างชาติ

ข่าวทั่วไป Tuesday January 23, 2001 15:53 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--23 ม.ค.--ไทยประกันชีวิต
ไทยประกันชีวิต ชูแนวคิดสร้างคน สร้างไทย สร้างชาติ หวังปลุกจิตสำนึกให้คนไทยร่วมแรงร่วมใจกันปกปักษ์รักษาความเป็นไท พร้อมเผยกลยุทธ์รุกการแข่งขันต่อสู้บริษัทข้ามชาติ
ในงานประชุมใหญ่ ประจำปี 2544 ของบริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด เมื่อวันที่ 17 มกราคมที่ผ่านมา ณ ศูนย์แสดงสินค้า อิมแพค อารีน่า เมืองทองธานี นายอภิรักษ์ ไทพัฒนกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ได้กล่าวสรุปถึงผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในปีที่ผ่านมาว่า สามารถผลิตเบี้ยประกันปีแรกได้ 2,500 ล้านบาท และเบี้ยประกันปีต่อไป 10,680 ล้านบาท และผลจากการที่บริษัทฯ ออกกรมธรรม์ใหม่ธนรักษ์ ซึ่งเป็นการชำระเบี้ยประกันครั้งเดียว (Single Premium) ในช่วงกลางปีที่ผ่านมา เพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชนที่เปลี่ยนวิธีการออมเงินในรูปแบบประกันชีวิต ที่ให้ผลตอบแทนที่สูงกว่า ทำให้เราผลิตผลงานตัวนี้ได้สูงถึง 1,220 ล้านบาท ส่งผลให้เบี้ยประกันรับรวมทะลุเป้าหมาย ทำได้ถึง 14,400 ล้านบาท มากกว่าเป้าหมายที่กำหนด 750 ล้านบาท
สำหรับในปี 2544 บริษัทฯ ได้ตั้งเป้าหมายอัตราการเพิ่มของเบี้ยประกันปีแรกต้องไม่ต่ำกว่า 20% และจะต้องรักษาอัตราผลบังคับตามทะเบียน 36 เดือน ไว้ไม่น้อยกว่า 78% โดยกำหนดเบี้ยประกันปีแรกไว้ประมาณ 2,900 ล้านบาท เบี้ยประกันปีต่อไป 11,800 ล้านบาท และเบี้ยประกันแบบชำระครั้งเดียว 2,400 ล้านบาท รวมจะต้องทำทั้งสิ้น 17,100 ล้านบาท
และจากสถานการณ์ปัจจุบัน ประเทศไทยของเรายังคงประสบปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นปัญหาที่เกิดขึ้นในขณะนี้คือ ทำอย่างไรเราจึงจะฟื้นตัวและสามารถยืนหยัดต่อสู้ด้วยตัวของเราเองได้อย่างรวดเร็ว และแข็งแรงพอที่จะไม่ต้องตกเป็นอาณานิคมทางเศรษฐกิจของชาติอื่น ดังนั้นในปีนี้ไทยประกันชีวิต จึงได้กำหนดแนวคิด "สร้างคน สร้างไทย สร้างชาติ" ขึ้น ด้วยหวังที่จะปลุกกระแสชาตินิยมของคนไทยให้กลับมาให้ความสำคัญกับธุรกิจที่เป็นของคนไทย ให้ความร่วมมือร่วมใจกันสนับสนุนสินค้า Brand ไทย ซึ่งจะเป็นการช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจไทยยุคใหม่ให้แข็งแกร่ง และพ้นจากวิกฤตนี้โดยเร็ว
สำหรับกลยุทธ์หลักที่บริษัทฯ จะนำมาใช้เพื่อรุกตลาดในปี 2544 นั้น จะเน้นในแต่ละด้านที่สำคัญคือ
ด้านแรกเป็นการพัฒนาคุณภาพ โดยเฉพาะในเรื่องของสินค้าและบุคลากร โดยตัวสินค้าจะมีการสร้างแบบประกันและสัญญาพิเศษเพิ่มเติมที่มีคุณค่าและเป็นที่ต้องการของประชาชน นอกจากนี้จะผลิตสินค้าเฉพาะกลุ่ม รวมถึงการใช้ช่องทางทางด้าน Direct Marketing และ E-Commerce ให้มากขึ้น ส่วนในเรื่องของบุคลากร โดยเฉพาะบุคลากรในภาคสนาม จะใช้การฝึกอบรมหลักสูตรพิเศษที่เป็นมาตรฐานในทุกระดับ เพื่อเพิ่มศักยภาพ รวมทั้งให้เน้นการทำงานอย่างมีวินัย เคร่งครัดในจริยธรรมแห่งวิชาชีพเป็นสำคัญ
ด้านที่สอง เน้นความมั่นคงของฐานะการเงิน ซึ่งนับเป็นสิ่งสำคัญที่ประชาชนจะให้ความไว้วางใจ โดยจะดำรงเงินกองทุนไว้ไม่ต่ำกว่า 8% ของเงินสำรองประกันภัย หรือคิดเป็นเงินประมาณ 4,000 ล้านบาท ซึ่งมากกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้คือ 2% เท่านั้น
ด้านที่สาม เน้นขั้นตอนการดำเนินงานที่กระชับ รัดกุม เพื่อการดำเนินงานที่รวดเร็ว ไม่ซ้ำซ้อน ในขณะเดียวกันได้มีการปรับโครงสร้างของฝ่ายการตลาดให้มีการจัดสรรผลตอบแทนที่ดีขึ้น แต่ระบบการบริหารงานสั้นลง ทั้งนี้เพื่อสนองตอบต่อการพัฒนากิจกรรมทางการตลาดและมาตรฐานการผลิตผลงานในทุกระดับ
ด้านที่สี่ เน้นการบริหารงานด้วยต้นทุนที่ต่ำ ด้วยการพัฒนาซอฟต์แวร์ขึ้นใช้เอง แทนการสั่งซื้อจากต่างประเทศ ซึ่งนอกจากจะมีค่าใช้จ่ายที่ถูกลงแล้ว ยังเป็นการป้องกันเงินตรารั่วไหลออกนอกประเทศได้อีกทางหนึ่งด้วย
และด้านสุดท้ายเป็นกลยุทธ์สร้างความแตกต่าง ซึ่งถือเป็นความได้เปรียบของบริษัทคนไทย ที่บริษัทประกันชีวิตอื่นๆ ยังไม่มี เช่น ไทยประกันชีวิตฮอตไลน์ บริการฉุกเฉินทางการแพทย์ที่ให้สิทธิพิเศษเฉพาะผู้ที่ถือกรมธรรม์ของบริษัทฯ โดยไม่ต้องชำระเบี้ยประกันเพิ่ม ซึ่งในปีที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้ช่วยชีวิตผู้เอาประกันด้วยการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยฉุกเฉินทั้งโดยภาคอากาศและภาคพื้นดินไปรวม 92 ราย ขณะเดียวกันในราวปลายปีบริษัทฯ จะเปิดศูนย์บริการ Call and Care Center หรือศูนย์รักษ์ลูกค้า เพื่อให้บริการข้อมูลในทุกๆ ด้านแก่ลูกค้า ทั้งที่ติดต่อทางโทรศัพท์ และมาติดต่อด้วยตนเอง ด้วยบริการแบบ One Stop Service ซึ่งในส่วนนี้ได้ใช้งบประมาณสูงถึง 60 ล้านบาท เพื่อให้บริการที่ลูกค้าจะพึงพอใจอย่างสูงสุด
นอกจากความสำคัญในด้านต่างๆ ดังที่กล่าวแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดอีกประการที่บริษัทฯ ยึดมั่นมาโดยตลอดระยะเวลา 59 ปี คือ การบำเพ็ญกิจกรรมสังคมเพื่อสนับสนุนช่วยเหลือคนไทยอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในปีนี้ซึ่งเป็นปีที่ย่างก้าวสู่ 60 ปี ในปีหน้า บริษัทฯ ได้เตรียมจัดกิจกรรมสาธารณประโยชน์ในหลายรูปแบบ อาทิ การร่วมกับสภากาชาดไทย จัดโครงการหนึ่งคนให้ หลายคนรับ รณรงค์การรับบริจาคโลหิตและอวัยวะอย่างต่อเนื่อง การสร้างความแข็งแกร่งให้กับสถาบันครอบครัว ด้วยการจัดสัมมนาทางวิชาการ และค่ายครอบครัว ร่วมกับกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข รวมไปถึงการร่วมกับรายการทีวีในการให้โอกาสแก่คนพิการ เป็นต้น
พร้อมกันนี้ นายอภิรักษ์ฯ ได้กล่าวต่อไปว่า ในการประชุมใหญ่ ซึ่งมีผู้บริหารงานขายกว่า 10,000 คน มาร่วมงานเพื่อรับทราบนโยบายและกลยุทธ์ต่างๆ นอกจากการแถลงนโยบายแล้ว เรายังจัดให้มีพิธี "เชิดชูเกียรติคุณสุดยอดนักขาย วานิช ไชยวรรณ" แก่ผู้บริหารงานขายที่มีคุณสมบัติครบทั้ง ด้านงานขาย การบริการ และมีจริยธรรมในด้านการทำงาน เพื่อยกย่องให้เป็นบุคคลแห่งปีของบริษัทฯ และรางวัลเกียรติคุณ "เจ้าพระยาศรีธรรมาธิเบศ" เพื่อเทิดทูนผู้ก่อตั้งบริษัทฯ โดยมอบรางวัลให้กับผู้บริหารฝ่ายขายที่มีอายุการทำงานกับบริษัทฯ ไม่น้อยกว่า 20 ปี ที่ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต และเคร่งครัดในจริยธรรมแห่งวิชาชีพ ตลอดอายุการทำงานจนเกษียณอายุอีกด้วย
"การจัดงานประชุมใหญ่ ประจำปี 2544 ในครั้งนี้ถือเป็นการประกาศพันธะหน้าที่ครั้งยิ่งใหญ่ของไทยประกันชีวิต ที่จะต้องก้าวไปข้างหน้า เพื่อความพร้อมในการร่วมแรงร่วมใจกันด้วยพลังของคนไทย เพื่อทวงความเป็น "ไท" ของเรากลับคืนมา" นายอภิรักษ์กล่าวในที่สุด--จบ--
-อน-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ