กรุงเทพฯ--19 ก.ย.--ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป
กูรูทิสโก้แนะทยอยสะสมหุ้นจีน H-shares เนื่องจากมาตรการเชื่อมการซื้อขายหุ้นระหว่างตลาดฮ่องกงและเซินเจิ้นจะทำให้ความต้องการลงทุนในฮ่องกงเพิ่มขึ้น หนุนตลาดH-shares Outperform ตลาดหุ้นอื่นๆ ทั่วโลกได้อย่างต่อเนื่อง
นายคมศร ประกอบผล หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ (Mr. Komsorn Prakobpol, Head of Strategy Unit, TISCO Economic Strategy Unit: TISCO ESU) กล่าวว่า TISCO ESUแนะนำทยอยสะสมหุ้นจีน H-shares เนื่องจาก มาตรการเชื่อมการซื้อขายหุ้นระหว่างตลาดฮ่องกงและเซินเจิ้นจะทำให้ความต้องการลงทุนในฮ่องกงเพิ่มขึ้น โดยรัฐบาลจีนผ่อนคลายเกณฑ์ควบคุมเงินทุนไหลเข้า-ออก ตามแผนการเปิดเสรีเงินทุนเคลื่อนย้าย โดยล่าสุดได้อนุมัติการเปิดซื้อขายหุ้นข้ามตลาดระหว่างตลาดหุ้นเซินเจิ้นกับตลาดหุ้นฮ่องกง (Shenzhen-Hong Kong Connect) เมื่อวันที่ 16 ส.ค. และจะเริ่มให้มีการซื้อขายได้ภายในสิ้นปีนี้ โดยการเชื่อมตลาดหุ้นเซินเจิ้นกับฮ่องกงนั้น นับเป็นการเชื่อมตลาดที่สองหลังจาก Hong Kong – Shanghai Connect เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ช่วงปลายปี 2014
โดยการเชื่อมการซื้อขายระหว่างตลาดหุ้นจีนและฮ่องกง ทำให้นักลงทุนสามารถซื้อขายหุ้นในอีกตลาดหนึ่งได้โดยใช้บัญชีเดิม ซึ่งจะช่วยเพิ่มสภาพคล่องในตลาด และเปิดรับนักลงทุนจากภายนอกให้เข้ามาลงทุนในแผ่นดินใหญ่ได้ง่ายขึ้น
(โดยซื้อขายผ่านผ่านบัญชีในฮ่องกง จากที่ก่อนหน้านี้นักลงทุนต่างชาติที่ต้องการเข้ามาลงทุนในจีนแผ่นดินใหญ่จะต้องขออนุมัติโควต้าการซื้อขายหุ้น QFII จากทางการจีน) ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสในการที่หุ้นจีน A-share จะถูกรวมเข้าคำนวณในดัชนี MSCI Emerging Market มากขึ้น ในทางกลับกันสำหรับนักลงทุนในจีน การเชื่อมตลาดจะช่วยให้นักลงทุนสามารถกระจายการลงทุนไปยังต่างประเทศได้มากขึ้น
นอกจากนั้นในวันที่ 8 ก.ย. China Insurance Regulatory Commission ยังได้ประกาศอนุญาตให้บริษัทประกันในประเทศจีน สามารถไปลงทุนในตลาดหุ้นฮ่องกงได้ โดยซื้อขายผ่าน Hong Kong - Shanghai Stock Connect เพื่อให้บริษัทประกันสามารถกระจายความเสี่ยงและสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนได้มากขึ้น ซึ่งหลังจากการประกาศดังกล่าว ปริมาณการซื้อหุ้นในตลาดฮ่องกงจากนักลงทุนในจีน (Southbound Trades) เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และทำให้หุ้นจีน H-shares รวมถึงตลาดหุ้นฮ่องกงโดยรวมปรับตัวขึ้นอย่างโดดเด่น Outperform ตลาดหุ้นโลกในช่วงเดือนที่ผ่านมา
เราคาดว่าความต้องการในการลงทุนในตลาดหุ้นจีน H-shares จะยังคงมีอยู่สูง และทำให้หุ้นจีน H-shares Outperform ตลาดหุ้นอื่นๆ ทั่วโลกได้อย่างต่อเนื่อง เนื่องจาก
1) หุ้นจีน H-shares ยังคงมีราคาถูกว่า A-shares อยู่ค่อนข้างมาก โดยพิจารณาจากดัชนี AH Premium ซึ่งสะท้อนถึงส่วนต่างราคาระหว่างหุ้นจีนที่มีการซื้อขายในสองตลาด (Dual Listed) ซึ่งในปัจจุบันดัชนี AH Premium อยู่ที่ราว 122 จุด ซึ่งชี้ว่าหุ้น A-shares แพงกว่า H-shares อยู่ 22% เราคาดว่าการประกาศ Shenzhen-Hong Kong Connect จะส่งผลให้ Premium ดังกล่าวหดแคบลง เนื่องจากการเปิดซื้อขายหุ้นข้ามตลาดจะทำให้เกิดการ เคลื่อนย้ายเงินลงทุนระหว่างสองตลาดได้ง่ายขึ้น
2) แนวโน้มการอ่อนค่าลงของค่าเงินหยวนซึ่งจะทำให้นักลงทุนในจีนต้องการกระจายการลงทุนมายังต่างประเทศมากขึ้น โดยในปัจจุบันอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินหยวนอยู่ที่ 6.67 หยวนต่อดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนกว่าช่วงต้นปีราว 3% และ DB คาดว่าค่าเงินหยวนจะอ่อนค่าลงอีกราว 5% เป็น 7 หยวนต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ในช่วงปลายปีนี้