กรุงเทพฯ--25 พ.ค.--กทม.
นางผ่องลักษณ์ วาสิกศิริ ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาชุมชน กทม.เปิดเผยว่า ปัจจุบันในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จำนวน 27 เขต ยังมีประชาชนที่ประกอบอาชีพด้านการเกษตรอยู่กว่า 2 แสนไร่ มีจำนวนครัวเรือนเกษตรกรกว่า 2 หมื่นครอบครัว และการทำการเกษตรก็ยังมีการใช้ปุ๋ยเคมีและสารเคมีในปริมาณมากเกินความจำเป็น ทำให้มีต้นทุนการผลิตสูง รวมทั้งส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศน์ และสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างมาก ผู้บริหารกรุงเทพมหานครได้ให้ความสำคัญในเรื่องดังกล่าวและมีนโยบายที่จะส่งเสริมให้เกษตรกรในเขตกรุงเทพมหานครหันมาทำการเกษตรปลอดภัยสารพิษให้มากขึ้น อันจะนำไปสู่การเกษตรปลอดสารพิษต่อไป ดังนั้นกรุงเทพมหานคร โดยสำนักพัฒนาชุมชนจึงได้จัดสัมมนา “เกษตรปลอดภัยสารพิษเพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม” ขึ้น เพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรใช้สารเคมีอย่างถูกวิธีเหมาะสมกับเวลาและชนิดของพืช โดยการสัมมนาดังกล่าวกำหนดจัดขึ้นในวันศุกร์ที่ 25 พ.ค.44 เวลา 08.00-16.00 น. ณ ห้องเอบีซี (Conventer Hall ABC) โรงแรมแอมบาสเดอร์ สุขุมวิท 11 ผู้เข้าร่วมสัมมนาประกอบด้วยเกษตรกรและเจ้าหน้าที่ด้านการเกษตรจาก 50 สำนักงานเขต รวมจำนวน 530 คน โอกาสนี้ นายสมัคร สุนทรเวช ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร จะมาพบปะและมอบนโยบายด้านการเกษตรให้กับผู้เข้าร่วมสัมมนาด้วย
ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาชุมชน กล่าวต่อไปว่า ผู้เข้ารับการสัมมนาครั้งนี้จะได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์โดยตรงกับนักวิชาการด้านการเกษตรและผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับน้ำสกัดและน้ำหมักชีวภาพ นอกจากนี้ภายในงานยังมีการจัดแสดงนิทรรศการให้ความรู้ เรื่อง เกษตรปลอดภัยสารพิษ เช่น การใช้น้ำสกัดชีวภาพในด้านปศุสัตว์ สูตรปุ๋ยหมักชีวภาพ โรงสีข้าวชุมชน น้ำผลไม้จากขบวนการน้ำสกัดชีวภาพ โดยได้รับความร่วมมือจากหลายหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน
“กรุงเทพมหานครมุ่งรณรงค์ให้เกษตรกรในกรุงเทพฯ ได้ใช้ปุ๋ยอินทรีย์ น้ำสกัดและน้ำหมักชีวภาพโดยการผลิตเองตามนโยบายของกรุงเทพมหานครซึ่งตระหนักถึงปัญหาอันเกิดจากการพึ่งพาสารเคมีที่ส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมและตัวเกษตรกรเอง รวมไปถึงต้นทุนการผลิตที่สูง นอกจากนั้นยังสนับสนุนให้เกิดการสร้างเครือข่ายประชาคมในกลุ่มผู้ประกอบอาชีพเกษตรกรรมอีกด้วย” ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาชุมชน กล่าว--จบ--
-นห-