BANDITS (จอมโจรปล้นค้างคืน) กำหนดฉายวันที่ 23 พฤศจิกายน

ข่าวทั่วไป Tuesday October 16, 2001 10:34 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--16 ต.ค.--20th Century Fox
เทอร์รี่ : "ฉันเพียงแต่มีปัญหาอยู่ข้อหนึ่ง เราจะหาเงินมาได้อย่างไร?"
โจ : "ไง…ก็เราเป็นโจรปล้นธนาคารนี่"
โจ เบล๊ค (บรู๊ซ วิลลิส) และ เทอร์รี่ คอลลินส์ (บิลลี่ บ็อบ ธอร์นตั้น) เป็นโจรปล้นธนาคาร ทั้งสองหวังว่าเงินก้อนสุดท้ายที่ได้มา จะเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับความฝันหลังเกษียณที่ เซาธ์ อ็อฟ เดอะ บอร์เดอร์ โจ จอมโจรไร้เทียมทาน และคู่หู เทอร์รี่ ผู้ชอบวิตกจริตว่าตัวเองป่วย กลายเป็น "จอมโจรปล้นค้างคืน" โจรที่มีชื่อเสียงที่สุดในแถบนั้น นับตั้งแต่โอเรกอน ไปจนถึงแคลิฟอร์เนียร์ เป็นที่เกรงกลัวสำหรับบรรดานายธนาคาร , พวกเขาเป็นนักแปลงโฉมที่ไม่ได้เรื่อง และเป็นที่ชื่นชอบของผู้คน
อุบายของพวกเขาคือ : จับตัวนายธนาคารและครอบครัวของเขาเป็นตัวประกันในคืนก่อนทำการปล้น , ทานอาหารค่ำ และ นอนค้างคืนที่นั่น จากนั้นในตอนเช้าเดินทางไปธนาคารพร้อมกับนายธนาคารก่อนเวลาเปิดทำการ ไม่จำเป็นต้องใช้กำลัง เป็นการปล้นกลางวันแสกๆแบบไม่มีอะไรยุ่งยากซับซ้อน
แต่สิ่งที่เป็นความยุ่งยากเกิดขึ้นเมื่อพวกเขาได้พบกับ เคต วีลเลอร์ (เคต แบลนเช็ต) แม่บ้านธรรมดาๆคนหนึ่งที่ซึมเศร้าเนื่องจากความผิดหวังในชีวิต - เธอขับรถชนเทอร์รี่โดยบังเอิญ หลังจากนั้นเธอก็ร่วมเดินทางไปกับสองโจร และท้ายที่สุดเธอก็ปล้นบางอย่างไปด้วย นั่นคือ หัวใจของพวกเขา ทั้งสองหนุ่มตกหลุมรักเคต และเคตก็เริ่มรู้สึกเช่นเดียวกัน โจและเทอร์รี่ ต่างไม่มีใครดีใครเลวไปกว่ากัน แต่ถ้าหากนำสองคนนี้มารวมกันก็จะได้ผู้ชายที่เพอร์เฟ็กทีเดียว …
Metro-Goldwyn-Mayer Pictures, ในความร่วมมือกับ Hyde Park Entertainment, เสนอ บรู๊ซ วิลลิส , บิลลี่ บ็อบ ธอร์นตั้น และ เคต แบลนเช็ต ในผลงานคอมเมดี้ของผู้สร้างรางวัลออสการ์ แบร์รี่ เลวินสัน BANDITS, an Empire Pictures, Lotus Pictures, Baltimore/ Spring Creek Pictures, และ Cheyenne Enterprises production. BANDITS กำกับการแสดงโดย แบร์รี่ เลวินสัน , เขียนบทโดย ฮาร์ลีย์ เพย์-ตั้น ,และอำนวยการสร้างโดย ไมเคิล เบิร์นบัม และ มิเชล เบิร์ค , แบร์รี่ เลวินสัน และ พอลล่า ไวน์สตีน , และ อโศก อัมฤทธิ์ราช , เดวิด โฮเบอร์แมน , และอาร์โนลด์ ริฟกิ้น , บริหารงานสร้างภาพยนตร์โดย แพทริค แม็คคอร์มิค , ฮาร์ลีย์ เพย์ตั้น และ เดวิด วิลลิส
ทีมงานเบื้องหลังกล้อง ได้แก่ ผู้กำกับภาพ ดังเต้ สปิน็อตติ , A.S.C., A.I.C., ผู้ออกแบบฉาก วิคเตอร์ เคมพ์สเตอร์ , ตัดต่อโดย สตู ลินเดอร์ และออกแบบเครื่องแต่งกายโดย กลอเรีย เกรแชม โจเอล ซิลล์ และ อลัน เมสัน รับหน้าที่ เอ็กเซ็ก -คิวทีฟ มิวสิค โปรดิวเซอร์ , ดนตรีประกอบภาพยนตร์เป็นผลงานของ คริสโตเฟอร์ ยังก์ ทีมงานทั้งหมดล้วนแต่เป็นสุดยอดฝีมือซึ่งเป็นที่ยอมรับของวงการ , สปิน็อตติ และ เกรแชม เคยได้รับการเสนอชื่อชิงออสการ์ ส่วน สตู ลินเดอร์ เคยได้รับรางวัลออสการ์สาขาการตัดต่อยอดเยี่ยมในปี 1996 จาก Grand Prix.
เนื้อเรื่อง
ผู้กำกับ แบร์รี่ เลวินสัน ไม่ใช่หน้าใหม่สำหรับผลงานคอมเมดี้ ผลงานที่ผ่านมาของเขา Diner และ Good Morning,Vietnam ติดอันดับ 100 ภาพยนตร์สนุกที่สุดตลอดกาลของสถาบัน American Film Institute ดังนั้น Bandits จึงเป็นการทำงานที่เขาคุ้นเคยดี
เลวินสัน พบว่าบทของ Bandit แตกต่างจากเรื่องอื่นๆ "มันน่าสนใจ เป็นโรแมนติกคอมเมดี้ที่มีพลัง" เขากล่าว "ผมชอบไอเดียของชายสองคนกับผู้หญิงคนนี้เป็นพิเศษ สิ่งหนึ่งที่ติดใจผมก็คือคำพูดของเคตที่ว่า เธอไม่สามารถเลือกคนใดคนหนึ่งระหว่างสองคนนี้ เพราะสองคนนี้รวมกันจะได้ผู้ชายคนหนึ่งที่สมบูรณ์แบบ นั่นเป็นสิ่งที่น่าสนใจ"
ขั้นตอนที่ใช้เวลาและความตั้งใจในการทำ Bandit เริ่มต้นที่ผู้อำนวยการสร้าง ไมเคิล เบิร์นบัม และ มิเชล เบิร์ก เบิร์กเป็นคนแรกที่นำคอนเซ็ปสำหรับการทำภาพยนตร์ไปเสนอต่อเบิร์นบัม เพื่อนของเขา และทั้งสองก็รู้ว่าพวกเขาเป็นจุดเริ่มต้นการทำงานที่มีเนื้อหาดีจริงๆ เบิร์นบัมนำข้อมูลไปเสนอต่อ ฮาร์ลีย์ เพย์ตั้น บุคคลที่เขาเคยร่วมงานด้วย และพวกเขาได้พัฒนาสคริปต์ร่วมกัน
"ฮาร์ลีย์และผมกำลังมองหาบางสิงบางอย่างสำหรับการทำงานร่วมกัน และเรื่องนี้ดูเหมือนว่าจะลงตัวกับความต้องรูสึกของเขา" เบิร์นบัมกล่าว
เบิร์กเสริม " ฮาร์ลีย์รู้ว่าคาแร็คเตอร์เป็นส่วนที่น่าสนใจมาก และเรารู้ว่านั่นเป็นจุดแข็งในงานภาพยนตร์ของเรา มันไม่ได้เกี่ยวกับโจรปล้นธนาคาร แต่มันเป็นความสัมพันธ์ที่เหลือเชื่อระหว่างคนสามคนนี้"
"เนื้อเรื่องเกี่ยวกับชายคนหนึ่งที่ชอบลงมือทำ กับชายอีกคนหนึ่งที่ชอบคิด โดยมีหญิงสาวคนหนึ่งมาคั่นกลางระหว่างพวกเขา" เบิร์นบัมกล่าว "เธอต้องเลือกระหว่างนักคิดและนักทำ โจ (วิลลิส) เป็นชายหนุ่มรูปหล่อ ที่ชอบทำก่อนคิด แต่ทุกครั้งมักลงเอยด้วยการทำสิ่งที่ถูกต้องเสมอ เทอร์รี่ (ธอร์นตั้น) เป็นคนฉลาด แต่ชอบวิตกจริตว่าตัวเองป่วย เขาจะไม่ทำอะไรโดยปราศจากการวางแผน เขารู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นและจะเกิดขึ้นอย่างไรก่อนเขาลงมือทำงาน มีการเปรียบเทียบอย่างเห็นได้ชัดระหว่างชายสองคนนี้ พวกพวกเขาต่างเป็นครึ่งหนึ่งของคนเก่ง
หลังจากนั้นเบิร์กและเบิร์นบัมได้นำสคริปต์ไปเสนอบรู๊ซ วิลลิส และ อาร์โนลด์ ริฟกิ้นส ริสกิ้นส์ เป็นเอเจนส์และประธานของ William Morris Agency ในเวลานั้น และเขากำลังทำการตกลงซื้อขายระหว่าง MGM และ Hyde Park Entertainment ของผู้อำนวยการสร้าง อโศก อัมฤทธิ์ราช และ เดวิด โฮเบอร์แมน ผู้อำนวยการสร้าง เบิร์กและเบิร์นบัมเห็นด้วยกับการเข้าหุ้นร่วมกับ Hyde Park และ Bnadits ก็ได้รับความสนใจจาก บรู๊ซ วิลลิส ซึ่งช่วยประสานกับ MGM กลายเป็นธุรกิจภาพยนตร์ชิ้นแรกจากการรวมตัวของผู้สร้างกลุ่มใหม่
"ผมรู้สึกความสนใจโปรเจ็คนี้ทันทีที่ได้อ่าน" อัมฤทธิ์ราชกล่าว "คอนเซ็ปทั้งหมดของมัน เป็นอะไรที่น่าสนใจ ไฮ-คอนเซ็ปคอมเมดี้ผสมกับโรแมนซ์และแอ็คชั่น เป็นโปรเจ็คที่น่ามหัศจรรย์ ผมอ่านมันทั้งคืนแบบวางไม่ลง ผมโทรหาอาร์โนลด์ในตอนเช้าของวันรุ่งขึ้น เพื่อบอกให้เขารู้ว่าผมต้องการมีส่วนในงานนี้ เรานำมันมาเสนอให้กับ MGM และพวกเขาก็ชอบ ส่วนที่เหลือ พวกเขาบอกว่ามันเป็นประวัติ-ศาสตร์"
หลังจากทางสตูดิโอตอบรับ ทุกคนเตรียมพร้อมกับการมองหานักแสดงละทีมงานที่เหลือ ไม่น่าเชื่อว่างานนี้จะได้นักแสดงและทีมงานที่ล้วนแต่เป็นระดับสุดยอดฝีมือมารวมตัวกัน "เป็นโอกาสที่หายากมาก คุณได้ชิ้นงานที่ดีเยี่ยม และยังได้ผู้กำกับและนักแสดงอย่างที่ต้องการ" ผู้อำนวยการสร้าง เดวิด โฮเบอร์แมนกล่าว "มันเหลือเชื่อจริง" ผู้กำกับ
ในการมองหาผู้ที่จะมาทำหน้าที่กำกับภาพยนตร์เรื่องนี้ ทีมผู้อำนวยการสร้างรู้ว่าพวกเขาต้องการ แบร์รี่ เลวินสัน ไมเคิล นาธานสัน ประธานและ COO ของ MGM Motion Picture Corp., ทำหน้าที่เป็นสื่อกลางในการนำเลวินสันมาร่วมงานนี้ "เราทุกคนผูกพันกับโปรเจ็คนี้มาก" ริฟกิ้นส์กล่าว "บรู๊ซและผมรู้สึกขอบคุณไมเคิลอย่างเหลือเกิน ในความกรุณาของเขาที่ช่วยนำเลวินสันมาทำหน้าที่เป็นผู้กำกับงานของเรา"
เลวินสันเป็นหนึ่งผู้กำกับซึ่งเป็นที่ยอมรับมากที่สุดของวงการ เขาเคยถูกเสนอชื่อชิงรางวัลออสการ์ 6 ครั้ง และได้รับรางวัลในสาขาผู้กำกับยอดเยี่ยมจาก Rainman "เมื่อคุณมองดูที่เนื้องานของแบร์รี่" เบิร์นบัมกล่าว "มันมักจะเกี่ยวข้องกับ ตัวละคร และนั่นเป็นสิ่งที่เราต้องการ Bandits มีบทที่ดี ถ้านักแสดงเล่นไปตามบทแบบทื่อๆ หรือทุ่มเทกับมันไม่เพียงพอ งานก็จะล้มเหลว ดังนั้นด้วยสายตาอันแหลมคมของแบร์รี่และวิธีการของเขาในการพัฒนาเนื้องานและตัวละครทำให้เขาเหมาะสมที่สุดสำหรับเนื้อเรื่องของเรา"
"การได้ร่วมงานกับ แบร์รี่ ใน Good Morning,Vietnam และ Tin Men" โฮเบอร์แมนกล่าว "ทำให้ผมคุ้นเคยกับงานของเขา เขาจึงมักจะเป็นตัวเลือกแรกสำหรับผมในการมองหาผู้กำกับ"
"ผู้กำกับส่วนใหญ่ ที่กำกับภาพยนตร์คอมเมดี้ มักจะเน้นที่มุขตลก" เพย์-ตั้นกล่าว "แบร์รี่เริ่มเรื่องกับความสมจริง สิ่งแรกที่บรู๊ซ วิลลิส พูดกับผมคือ ภาพยนตร์ให้ความรู้สึกที่วิเศษณ์สำหรับเขา เพราะมันมีความสมจริง แบร์รี่เข้าถึงหัวใจของทุกๆซีนเขาปล่อยให้มันดำเนินไป และนักแสดงก็ให้การตอบรับการทำงานแบบนี้ มันเป็นทีมเวิร์ค"
สำหรับเลวินสัน การทำงานภาพยนตร์คือร่วมแรงร่วมใจกันในทุกขั้นตอนการทำงาน เขารู้ว่าเขาต้องการอะไร แต่ก็ยังพอใจที่ได้เห็นสิ่งที่เขาสามารถค้นพบเกี่ยวกับช่วงเวลาสำคัญหรือคาแร็คเตอร์ "ผมทดลองอยู่ตลอดเวลา" เลวินสันกล่าว "ผมมักจะดูว่า สามารถดึงอะไรออกมาได้บ้างในการถ่ายทำซีนนั้นๆ ความผิดพลาดมักเกิดขึ้นอยู่เสมอ และจากความผิดพลาดคุณสามารถนำมาปรับปรุงแก้ไข การทำภาพยนตร์เป็นขั้นตอนของการค้นพบ และมักจะมีที่ว่างสำหรับสิ่งที่ไม่คาดคิดที่อยู่ภายในโครงร่างของสคริปต์
"ความเป็นธรรมชาติของภาพยนตร์" เขากล่าวต่อ "เป็นที่สิ่งสำคัญ ยกตัวอย่างเช่น เรากำลังถ่ายทำฉากที่ตัวละครของบรู๊ซ และ เคต เจอกันและต้องนอนในห้องเดียวกัน เพื่อให้เคตรู้สึกเป็นส่วนตัว โจจึงแขวนผ้าห่มกั้นไว้ตรงกลาง เช่นเดียวกับใน It Happened One Night ระหว่างนั้นผ้าห่มตกลงมา เขาดึงมันขึ้นไป เธอเข้ามาช่วยเขา พวกเราเข้าใจได้ถึงความใกล้ชิดของคนที่อยู่แต่ละด้านของผ้าห่ม และผมก็ชอบมัน ดังนั้นเราจึงสร้างฉากที่เกิดขึ้นจากความไม่ตั้งใจนั้นอีกครั้ง ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความรู้สึกระหว่างคนทั้งสอง มันเป็นช่วงเวลาสำคัญที่สคริปต์และนักแสดงรวมเข้าด้วยกันโดยไม่คาดคิด เป็นส่วนที่ทำให้ภาพยนตร์น่าสนใจยิ่งขึ้น ถ้าภาพยนตร์ไม่มีช่วงเวลาเหล่านั้น มันคงไม่สร้างความพึงพอใจให้กับผม และถ้าเป็นเช่นนั้น สำหรับคนอื่นๆก็คงรู้สึกเช่นเดียวกัน"
ผู้อำนวยการสร้าง เบิร์นบัม มาดูการถ่ายทำทุกวันและเป็นสามารถยืนยันความสามารถของเลวินสันในการนำช่วงเวลาที่ไม่คาดคิดมาใช้ให้เกิดประโยชน์ "มันน่าตื่นเต้นที่ได้ดูการกำกับของแบร์รี่ เขาได้ในสิ่งที่เขาต้องการ - และมากไปกว่านั้น"นักแสดงและตัวละคร
เมื่อได้นักแสดงสำหรับ Bandits แล้ว เลวินสันกล่าว " มีสิ่งที่น่าประหลาดใจมากมายสำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้ ผมไม่คิดว่าจะได้เห็นบิลลี่ บ็อบ แสดงอะไรอย่างนี้มาก่อน และผมก็ไม่เคยเห็น เคต แบลเช็ต แสดงบทแบบนี้ สำหรับบรู๊ซก็เช่นเดียวกัน ไม่ใช่เพราะว่าเขาไม่เคยทำงานคอมเมดี้ หรือ โรแมนติก แต่ผมคิดว่ามันเป็นคอมเมดี้และโรแมนติกที่มีคาแร็คเตอร์ที่น่าสนใจ เป็นการผสมผสานที่ดี"
สำหรับคาแร็คเตอร์ของ บรู๊ซ วิลลิส ผู้เขียนบท เพย์ตั้นกล่าวว่า "โจเป็นคนที่คุณรู้ว่าเขามักทำสิ่งที่ถูกต้องเสมอ เขาไม่ค่อยรู้จักตัวของตัวเองมากสักเท่าไร และเขาก็ไม่ค่อยจะคิดไตร่ตรองอะไรให้รอบคอบเสียก่อน เขาเป็นนักบู๊รูปหล่อ ตกหลุมรักหญิงสาวหลายคนพร้อมๆกันแล้วก็ผ่านไป จนเมื่อเขาได้พบกับผู้หญิงที่ใช่เป็นครั้งแรก"
สำหรับ บิลลี่ บ็อบ ธอร์นตั้น "บทเทอร์รี่ที่ธอร์นตั้นแสดงเป็น ตัวละครที่ตรงข้ามกับบท โจ ที่วิลลิสแสดง" เพย์ตั้นกล่าวเสริม "หากโจเป็นคนที่ไม่คิดหน้าคิดหลัง เทอร์รี่ก็จะเป็นคนที่คิดแล้วคิดอีก โลกเป็นปริศนาที่เขาพยายามที่จะแก้ และเขาพอใจที่จะแก้มัน นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงเต็มไปด้วยความกลัว"
"สคริปต์" บิลลี่ บ็อบ ธอร์นตั้น กล่าวเขาเคยได้รับรางวัลออสการ์จากการเขียนบท "เป็นสิ่งที่ผมอยากเขียน ความคิดแรกของผมคือ 'บทอะไรที่เพอร์เฟ็กที่สุดในการแสดงและภาพยนตร์อะไรดีที่สุดที่ได้แสดง"
"บางครั้ง เมื่อเราอ่านสคริปต์" เขากล่าว "คุณเห็นถ้อยคำที่อยู่บนหน้ากระดาษ แล้วคุณคิดว่า 'ว้าว เป็นงานที่ดีจริง' แต่นี่เป็นภาพยนตร์ที่สมจริงมาก มีความสนุกสนานอยู่ในสคริปต์ แต่ทุกสิ่งมีเหตุมีผล บางครั้งขณะที่กำลังจะถ่ายทำ ผมจะคิดว่า 'เราจะดึงตัวละครนี้ออกมาได้อย่างไร' นั่นเป็นเพราะตัวละครเหล่านี้เป็นเพียงคนธรรมดาทั่วไป มันสนุกที่ได้แสดงอะไรที่ไม่เสแสร้ง"
ธอร์นตั้น ยังเป็นผู้กำกับที่ประสบความสำเร็จคนหนึ่ง แต่เขาพอใจที่ได้ เลวินสันมานั่งเก้าอี้ผู้กำกับ "อะไรที่ทำให้แบร์รี่เป็นผู้กำกับมหัศจรรย์" ธอร์นตั้นกล่าว "เขาเป็นผู้กำกับที่มีแฟนมากมาย เขารักที่จะอยู่ตรงนั้นกับคุณ ผมคิดว่าสิ่งที่สร้างผู้กำกับที่ดี ก็คือใครสักคนที่ทำให้คุณรู้สึกว่าเขาอยู่ในฉากกับคุณด้วย เช่นเดียวกัน เขาเป็นหนึ่งในหมู่คนรอบๆโต๊ะ ที่กำลังฟังและเพลิดเพลินกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในการถ่ายทำ
"แม้ว่าผมเคยกำกับภาพยนตร์ของตัวเองมาก่อน" เขากล่าวต่อ "ผมก็ไม่คิดว่าผมเองเก่งพอๆกับแบร์รี่ ยิ่งไปกว่านั้นเขายังเป็นต้นแบบให้กับผม ผมมักประหลาดใจที่เขาดูเหมือนจะมีความสุขอยู่ตลอดเวลา เขาทำให้ฉากเต็มไปด้วยความสนุกสนาน นอกจากนี้เขายังเข้าใจจังหวะในการเล่นมุขและอารมณ์ขันที่น่ามหัศจรรย์
เนื่องด้วยความเบื่อหน่ายในตัวสามีและความพยายามที่จะหลักหนีจากชีวิตที่ปราศจากความสุข เคต วีลเลอร์เป็นแม่บ้านที่ก้าวเข้ามาอยู่ตรงกลางระหว่างชายสองคนนี้ เมื่อเธอเข้ามาในชีวิตของพวกเขา เคตกลายเป็นผู้หญิงที่พวกเขาไม่สามารถปฏิเสธ "มันเป็นบทที่หนัก" เพย์ตั้นกล่าว "เราให้เธอตัดสินใจเลือกระหว่างชายสองคนนี้ ดังนั้นเราต้องระมัดระวังมากในการเลือกนักแสดงหญิงที่จะมารับบทนี้ ถ้าตัวเลือกของเคตเกี่ยวข้องกับความปรารถนาทางเพศ ภาพยนตร์ก็จะไม่มีอะไรน่าสนใจ มันเป็นการตัดสินใจที่แปลกประหลาดมากโดยใครคนหนึ่งที่มีจิตใจที่บริสุทธิ์
เคตเป็นหนึ่งในคนเหล่านั้นที่ไม่เคยรู้ว่า ตัวเองกำลังมองหาอะไร และไม่เคยรู้เลยจริงๆว่ามีสิ่งใดที่ขาดหายไป จนกระทั่งเธอค้นพบมัน ผู้กำกับเลวินสันรู้ว่าเขาต้องการนักแสดงคนใดมาสวมบทตัวละครที่เต็มไปด้วยความซับซ้อนนี้ เขาต้องการ เคต แบลนเช็ต นักแสดงสาวที่เลวินสันเรียกว่า "นักแสดงหญิงแถวหน้าของรุ่น"
"Bandits เป็นหนึ่งในสคริปต์ที่เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ "สิ่งอื่นที่ทำให้ผมหัวเราะคือการปูพื้นเรื่องกับความเป็นจริง แม้ว่ามันจะเกินจริง เป็นอะไรที่เหลวไหลน่าขันที่สุด แต่ก็ยังมีความเป็นจริงอยู่ นั่นเป็นสิ่งที่เลวินสันทำได้ดี เช่นเดียวกับใน Diner
เป็นผลงานที่เต็มไปด้วยความสนุกสนาน แต่มีความมืดมนด้วย คนส่วนใหญ่มักจับตาดูงานที่ไม่ใช่ดราม่าก็คอมเมดี้ แบร์รี่มีการทำงานในแบบของเขา เป็นความสนุกสนานอย่างไม่น่าเชื่อ แต่ยังให้ข้อคิดด้วย"
เช่นเดียวกับนักแสดงที่เหลือ แบลนเช็ตรู้สึกยินดีที่ได้ร่วมงานกับเลวินสัน "ฉันรู้สึกสบายใจที่ได้ทำงานร่วมกับแบร์รี่ เพราะเขาเป็นผู้ชมที่ดี ตอนเริ่มต้นการทำงาน พวกเรามีปัญหาเรื่องภาษาเล็กน้อย และฉันคิดว่า มันเป็นเพราะว่าเขามาจากบัลติมอร์ และฉันมาจากซิดนีย์
เกี่ยวกับตัวละครที่เธอแสดง แบลนเช็ตกล่าว "เคต วีลเลอร์ เข้ามาในเรื่องโดยอุบัติเหตุ ปัญหาของเคตคือ ชีวิตเหมือนฝันของเธอน่าสนใจมากกว่าและน่าตื่นเต้นมากกว่าชีวิตจริงของเธอ เธอยอมเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในมุมที่เล็กมากๆของโลกและเธอก็พยามยามดิ้นให้หลุดออกมาอย่างสุดกำลัง"
ฉันคิดว่าเคตมักจะฝันเกี่ยวกับการออกไปใช้ชีวิตข้างนอก" แบลเช็ตกล่าวต่อ "เธอสานความสัมพันธ์กับชายสองคนนี้ ซึ่งคนส่วนใหญ่จะพบว่ามันเป็นสิ่งที่ขัดแย้งอย่างไม่น่าเชื่อ แต่สำหรับเธอดูเหมือนว่าเป็นสิ่งที่ชัดเจนที่สุด สำหรับฉัน บรรยากาศของภาพยนตร์ราวกับรักแรกแย้ม…เว้นแต่ว่ามันเกิดขึ้นเป็นครั้งที่สอง"
"ในที่สุด" แบลเช็ตสรุป "เคตพบว่ามีอะไรมากกว่าที่เธอกำลังมองหา ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าตื่นเต้นเสมอ ในขณะที่แต่ละหน้ากระดาษพลิกไป เธอได้เข้าไปเกี่ยวข้องกับสถานะการณ์ที่เธอไม่เคยคาดฝันมาก่อน แม้แต่ในตอนจบก็ยังมีเรื่องประหลาดใจ ฉันคิดว่าเป็นเรื่องน่าประหลาดใจสำหรับพวกเขาทุกคน"
สมาชิกคนที่สี่ของ Bandits ได้แก่ ญาติผู้น้องของโจ , ฮาร์วี่ย์ เจ. พอล-ลาร์ด รับบทโดย ทรอย แกริตี้ พอลแลนด์ฝันที่จะย้ายไปอยู่ที่ฮอลลีวูดและเป็นสตั้นแมนที่มีชื่อเสียง แต่เขาได้รับการชักชวนจากโจให้เข้าร่วมแก๊ง โดยทำหน้าที่เป็นคนดูต้นทางให้
ในการคัดตัว แกริตี้ เลวินสันกล่าว " ผมเห็นเทปออดิชั่นและคิดว่าทรอยมีคุณสมบัติที่คาดเดายากที่สุด และมีความเป็นธรรมชาติ ทรอยเป็นคนที่มีมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เราพยายามใช้ประโยชน์จากสิ่งนี้ในทุกๆทางที่สามารถจะทำได้"
ในส่วนคาแร็คเตอร์ของเขา แกริตี้กล่าว "เขามักจะผิดหวังในเรื่องความรัก เป็นฮีโร่ที่พยายามจะออกมาจากเปลือก ผมกำหนดให้พอลลาร์ดเป็นส่วนผสมระหว่างโกลเด้น รีทรีฟเวอร์ ของแม่ผม กับ คลิ้นท์ อีสต์วูด เพราะ พอลลาร์ดต้องการเป็นฮีโร่ที่เก่งเกินคนอื่น"
โลกของพอลลาร์ดถูกสั่นคลอนเมื่อเคตก้าวเข้ามา "เธอเข้ามาแย่งที่ของเขา" แกริตี้ กล่าว "และเขาเริ่มรู้สึกเหมือนถูกดูแคลน เขากลายเป็นพวกขี้อิจฉา"
สำหรับภาพยนตร์ แกริตี้กล่าว "โดยทั่วไป ผมคิดว่า Bnadits เป็นดรามาที่มีตัวละครเป็นตัวเดินเรื่องในสังคมที่ไม่เป็นระเบียบ มี บิลลี่ บ็อบ ธอร์นตั้น แสดงเป็นคนวิตกจริตว่าตัวเองป่วยอยู่ตลอดเวลา , ตัวละครของเคตอยู่ตรงกลางในการตัดสินใจ , บทของ โจ ที่แสดงโดยบรู๊ซ เป็นคนที่มีปัญหาในการควบคุมอารมณ์และไม่ไว้ใจใคร ส่วนผมมีความรักที่ไม่มีวันตายสำหรับใครสักคนที่จะรับฟังผม มันน่าสนใจ เหมือนกับซุปข้นครบเครื่อง"สถานที่ถ่ายทำ
ฮาร์ลีย์ เพย์ตั้น เติบโตในแถบตะวันตกเฉียงเหนือ ดังนั้นสถานที่จึงเป็นที่คุ้นเคยสำหรับเขา และดูเหมือนว่าจะเป็นฉากที่เหมาะที่สุดสำหรับ Bandits "ผมชอบแนวคิดของการเดินทางจากที่ที่เขียวชอุ่มมากๆ" เพย์ตั้นกล่าว "จากนั้นค่อยๆเปลี่ยนเป็นแห้งแล้งขึ้นทุกที จนกระทั่งพวกเขามาถึงลอสแองเจลิส ดังนั้นเพื่อความรู้สึกสมจริง เราจำเป็นต้องใช้เมืองเล็กๆเป็นที่พักสำหรับโจรกลุ่มนี้"
ยังไม่รวมถึงการทำงานในโรงถ่ายที่ลอสแองเจลิส , Bandits เป็นภาพยนตร์ที่เกี่ยวกับการเดินทาง - เลวินสันและลูกทีมของเขาถ่ายทำตามสถานที่ต่างๆกว่า 60 แห่งตลอดทั่วทั้งโอเรกอนและแคลิฟอร์เนีย
สถานที่แรกคือ สถานดัดสันดานประจำรัฐโอเรกอน (Oregon State Penitentiary) ในซาเล็ม ซึ่งทีมงานได้รับความร่วมมืออย่างมาก สำหรับการถ่ายทำฉากแหกคุก โดยมีนักโทษ 150 คน แสดงเป็นตัวประกอบ ที่อยู่ในบริเวณใกล้ๆกับถนนภายในคุกที่ทอดยาวออกไปประตูข้างนอก เมื่อทีมสตั้นท์แมน ขับรถบันทุกซีเมนต์ พุ่งชนประตู (ภายใต้การกำกับของ คอนราด พาลมิซาโน ซึ่งทำหน้าที่เป็นผู้ประสานงานสตั้นท์ให้กับเลวินสัน) เลวินสันไม่มีปัญหาในการกำกับพวกนักโทษให้ส่งเสียงเชียร์สองพระเอก ในขณะที่พวกเขาผ่านออกไปข้างนอก แม้ว่าจะต้องถ่ายทำหลายเทคก็ตาม"
Bandits ถ่ายทำต่อเนื่องในโอเรกอนเป็นเวลาร่วมเดือนตามสถานที่ต่างๆ : การทำงานธนาคารในเมืองซิลเวอร์ตั้น ; บริเวณย่านที่เงียบสงบใน เลค ออสวีโก ; บ้านสไตล์โคโลเนียลในโอเรกอน ซิตี้ (ซึ่งประกาศตัวอย่างภาคภูมิใจว่า "เป็นจุดสิ้นสุดของ โอเรกอน เทรล") ; คราวน์ พ็อยท์ โอเวอร์ลุค พื้นที่สงวนของ พอร์ตแลนด์ , ที่มีวิวที่สวยงาม สามารถมองเห็นทั้งส่วนล่างและส่วนบนของ โคลัมเบีย ริเวอร์ จอร์จ ; ภาพอันงดงามของกลาส-ริเวอร์สโตนและบ้านในป่าที่สามารถมองเห็นวิลลาแม็ต ริเวอร์ใน เวสต์ ลินน์ ซึ่งใช้เป็นบ้านของเคต ; และบรอดเวย์ บริดจ์ สถานที่ประวัติศาสตร์ของพอร์ตแลนด์
ย้ายจากทางใต้ไปทางเหนือของแคลิฟอร์เนียร์ ทีมงานตั้งกองถ่ายที่ ซานตา โรซา ใน โซโนมา เค้าน์ตี้ ถ่ายทำสถานที่ตามข้างทางในเซบาสตาโปล , โทมาเลส เบย์ , ดิลลอน บีช และสถานที่ที่หายากอย่าง โบดีก้า เบย์ การถ่ายทำยังใช้สถานที่ใน มาริน เค้าน์ตี้ ในซาน อันเซลโม ,มิลล์ วัลเลย์ และ อ่าวเล็กๆในเมืองนิค
ทีมสร้างยังปักหลักถ่ายทำในเบอร์ลินเกม , แคลิฟอร์เนีย สำหรับซีนที่ถ่ายทำที่ พ็อยท์ มอนทาร่า ไลท์เฮาส์ โฮสเทล ใน ฮาล์ฟ มูน เบย์ ซึ่งใช้เป็น โมเต็ล ซิกซ์ ที่สองโจรใช้ซ่อนตัวหลังการปล้นครั้งหนึ่ง ประภาคารมอนทาร่า สร้างขึ้นในปี 1875 คอยส่องไฟนำทางให้เรือตามชายฝั่งตลอดช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ในขณะนั้นทำหน้าที่เป็น ฐานฝึกกำลังทางเรือ (Naval Training Base) และต่อมาก็กลายมาเป็นโรงแรมในปี 1980
ก่อนย้ายกองถ่ายกลับไปที่ลอสแองเจลิสสองสัปดาห์ สถานที่สุดท้ายสำหรับการถ่ายทำ Bandits นักแสดงและทีมงานถ่ายทำที่ ซาลินาส , แคลิฟอร์เนีย บ้านของ จอห์น สไตน์เบ็ค และตัวละครที่รู้จักกันดีจากนวนิยายและภาพยนตร์ของเขา East of Eden , Tortilla Flat และ Cannery Row เป็นต้น
เลวินสันอธิบายให้ฟังเกี่ยวกับสถานที่ต่างๆที่เขาใช้ในการถ่ายทำ Bandits ว่า "สิ่งที่ผมต้องการในภาพยนตร์ไม่ใช่เพียงแค่ภาพของ 'ซิทคอม' ที่ผมเห็นอยู่ประจำในภาพยนตร์คอมเมดี้และโรแมนซ์ ในแง่หนึ่งผมต้องการภาพที่ดูสมจริงสำหรับภาพยนตร์ และในอีกแง่หนึ่งผมต้องการงานคุณภาพ ผมโชคดีที่ได้ ดังเต้ สปิน็อตติ และ วิคเตอร์ เคมพ์สเตอร์ มาร่วมงานด้วย ทำให้เราได้อารมณ์อย่างที่ต้องการ"การถ่ายภาพ
ผู้กำกับภาพ ดังเต้ สปิน็อตติ เคยถูกเสนอชื่อชิงรางวัลออสการ์สองครั้ง (L.A. Confidential , The Insider) "ตอนที่ผมเริ่มต้น Bandits" สปิน็อตติกล่าว "ผมรู้สึกว่ามันเป็นภาพยนตร์เต็มไปด้วยพลัง มีความกล้าหาญเป็นฉากหลัง เนื้อเรื่องแนวนี้ต้องมีน้ำหนัก ถ้าเล่นกับแบล็คกราวด์ที่คุ้นเคย เนื่องจากสถานที่ที่เราใช้ในการถ่ายทำ ภาพยนตร์เล่นกับสิ่งแวดล้อมบริเวณตะวันตกเฉียงเหนือของสหรัฐ จากป่าลึกและทะเลสาปใน โอเรกอน ไปจนถึงชายฝั่งทะเลและเมืองเล็กๆทางตอนเหนือของแคลิฟอร์เนียร์
สปิน็อตติรู้สึกว่า มันไม่มีกฎตายตัวในการให้แสง แต่เขากล่าวว่า "มากเท่าที่จะเป็นไปได้ในการให้แสงในทุกๆซีน ดังนั้นผมไม่ต้องกลับไปและแก้ไขในขณะที่เราย้ายจากช็อตหนึ่งไปอีกช็อตหนึ่ง วิธีนี้ทำให้เราไม่ต้องหยุดเมื่อนักแสดงมาเข้าฉาก
"ผมคิดว่าการทำงานภาพยนตร์ควรค่อยๆทำอย่างช้าๆ" เขาเสริม "ไม่เพียงแค่ความสวยงามเท่านั้น แต่ยังให้ความสัมพันธ์กับเนื้อเรื่อง"
สำหรับการให้สี สปิน็อตติกล่าว "สำหรับผมสีสำคัญของภาพยนตร์คือสีผมของเคต แบลนเช็ต เป็นสีค็อปเปอร์เรดตัดกับสีเหลืองและป่าเขียวของฉากหลังใน โอเรกอน และสีฟ้าเข้มของชายฝั่งแคลิฟอร์เนีย มันทำให้ผมนึกถึงวิถีของพวกเอ็กซ์ - เพรสชั่นนิส เยอรมัน การออกแบบฉาก
ผู้ออกแบบฉาก วิคเตอร์ เคมพ์สเตอร์ ทำงานอย่างใกล้ชิดกับ สปิน็อตติ และ เลวินสัน เพื่อสร้างความรู้สึกให้กับภาพยนตร์ "ผมรู้สึกสบายใจมากที่ได้ทำงานร่วมกับเลวินสัน" เคมพ์สเตอร์กล่าว "เพราะเขาชัดเจนในสิ่งที่เขาต้องการ เขาไม่พูดมากในเรื่องของการออกแบบ แต่ปล่อยให้คุณรู้เองเมื่อคุณพลาด งานของผมคือการสร้างสิ่งที่เหมาะสำหรับภาพยนตร์ การออกแบบเป็นขั้นตอนของการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง คุณสามารถยืดหยุ่น ; ยอมรับว่ามันเป็นขั้นตอนการทำงานร่วมกัน
"ในการพูดคุยครั้งแรกระหว่างผมกับเลวินสัน เขาบอกว่า 'ทุกคนรู้ว่าภาพของโมเต็ลเป็นเช่นไร ผมต้องการเช่นนั้น' นั่นเป็นจุดเริ่มต้นให้เราทำงานที่แตกต่างออกไป เราเลือกที่จะเล่นกับภาพที่ดูมีสไตล์มากกว่า ด้วยการใช้กราฟฟิกหรืออิมเมจที่ได้แนวคิดจากซีนนั้นๆและเสริมอะไรเข้าไป
"ยกตัวอย่าง หลังจากที่พวกเขาขโมยรถบันทุกซีเมนต์ และใช้มันหนีออกจากคุก แล้วลงเอยด้วยการหลงในป่า เราได้ทำวอลเปเปอร์ 'ภาพป่า' สำหรับตกแต่งภาพในธนาคารแรกที่พวกเขาปล้นในซิลเวอร์ตั้น , โอเรกอน"
ทีมออกแบบยังทำวัสดุที่พวกเขาใช้ในการสร้างและเสริมฉาก ในช่วงไคลแม็กซ์ของภาพยนตร์ ใน ธนาคาร อลาโม เป็นตัวอย่าง พื้นของล็อบบี้ที่เราใช้ถ่ายทำ "ทำมาจากวัสดุที่มีรูเล็กๆ , เป็นส่วนผสมของหินชนวน , แกรนิต และหินอ่อน เรารู้ว่าต้องมีการเลือดตกอย่างออกในซีนนั้น ดังนั้นเราต้องทำพื้นปลอมเพื่อให้เลือดปลอมไหลผ่านไม่ได้
"เราได้ไอเดียของการถ่ายภาพและสแกนวัสดุที่ใช้ทำพื้น จากนั้นก็เอาพรมน้ำมันมาวางเรียงซ้อนกันเป็นชั้นๆเหนือพื้นเดิม ทำซ้ำกันแบบนี้ให้ทั่วพื้น เป็นงานที่แผนกศิลป์เข้ามาร่วมด้วยโดยที่ไม่มีใครรู้มาก่อน"เครื่องแต่งกาย
กลอเรีย เกรแชม ผู้ออกแบบเครื่องแต่งกาย เคยร่วมงานภาพยนตร์กับ แบร์รี่ เลวินสัน มาแล้วเก้าเรื่อง และเธอเคยถูกเสนอชื่อชิงรางวัลออสการ์จากการทำงานให้เลวินสันใน Avalon "ฉันมักรู้สึกอยู่เสมอว่า ตัวเองทำงานร่วมกับเลวินได้ดีที่สุด เกรแชมกล่าว "สิ่งมหัศจรรย์ในการทำงานร่วมกับเขาคือการที่เขาปล่อยให้คุณทำในสิ่งที่คุณรู้ว่าจะต้องทำอย่างไร ถ้าเขาเห็นคุณกำลังทำสิ่งที่ผิดผลาดหรือไม่ชอบสิ่งที่คุณกำลังวางแผนอยู่ เขาก็จะดึงคุณกลับมา แต่ส่วนใหญ่แล้วเขามักจะให้ฉันบอกว่ากำลังคิดอะไรอยู่ในใจ"
เกรแชมพยายามที่จะเข้าให้ถึงจิตใจของตัวละคร เมื่อเธอออกแบบเครื่องแต่งกายและทำงานร่วมกับนักแสดงในการสร้างภาพให้กับตัวละครแต่ละตัว สำหรับบทเทอร์รี่ที่ธอร์นตั้นแสดง "จำเป็นต้องงดูเหมือนอัจฉริยะปัญญานิ่ม ดังนั้น ฉันจึงให้เขาสวมเชิ้ตปกโปโล ภาพของเขาจะพิเศษกว่า ตรงที่ดูสะอาดสะอ้าน เพราะเทอร์รี่เป็นโรควิตกจริตว่าตัวเองป่วย
"นี่เป็นภาพยนตร์เรื่องที่สามที่ฉันได้ร่วมงานกับบรู๊ซ" เธอเล่าต่อ "ดังนั้นฉันจึงมีไอเดียอยู่ในหัวแล้วว่าภาพของเขาควรเป็นเช่นไร เราเข้าใจว่าอะไรน่าจะดูดี และแบบไหนที่ไม่เหมาะ"
สำหรับ เคต แบลนเช็ต "ฉันรู้สึกพอใจอย่างมาก" เกรแชมกล่าว "จากครั้งแรกที่ได้พูดคุยกัน เราต่างก็เห็นตรงกัน เธอรู้ว่าเธอจะต้องเป็นสีสันในกลุ่มคนสามคนนี้ เคตเป็นมืออาชีพอย่างไม่น่าเชื่อ เธอเปลี่ยนชุด 16-18 ชุด ในภาพยนตร์ ส่วน วิลลิส และ ธอร์นตั้น เปลี่ยน 23-24 ครั้ง การออกแบบและการเลือกเครื่องแต่งกายสำหรับภาพยนตร์เป็นงานหนัก และ เกรแชมก็สามารถจัดการกับมันให้ลุล่วงไปได้--จบ--
-อน-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ