กรุงเทพฯ--28 ธ.ค.--ทูเดย์อินไทยแลนด์
นายฉัตรชัย วิรัตน์โยสินทร์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ ผู้ผลิตและจำหน่ายเบียร์สิงห์ มิทไวด้า ลีโอ และซูเปอร์ลี โอ เปิดเผยว่า บริษัทปรับแนวทางการทำตลาดเบียร์ซูเปอร์ลีโอ เพื่อแบ่งแยก ตลาดระหว่างเบียร์ลีโอและซูเปอร์ลีโอให้ชัดเจนขึ้น โดยยกเลิกตรา “ซูเปอร์ลี โอ” เปลี่ยนชื่อใหม่เป็น “ซูเปอร์ไลอ้อน”
การแบ่งแยกการทำตลาด เพื่อผลักดันยอดขายและส่วนแบ่ง ตลาดซูเปอร์ไลอ้อนให้ประสบความสำเร็จเช่นเดียวกับลีโอเบียร์ ซึ่งจากการทำ ตลาดเพียง 2-3 ปีที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้ ลีโอเบียร์มีส่วนแบ่งตลาดถึง 20% ของตลาดรวมเบียร์โดยรวม ในขณะที่ซูเปอร์ลีโอมีส่วนแบ่งทางการตลาดเพียง 3% เท่านั้น
“ที่ผ่านมาบริษัทให้ความสำคัญกับการโฆษณาส่งเสริมการขาย ลีโอเบียร์เพียงอย่างเดียว ในขณะที่แบรนด์ซูเปอร์ลีโอมีการโฆษณาประชา สัมพันธ์เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ทำให้ผู้บริโภคสับสน เพราะเข้าใจว่าสินค้าทั้ง 2 แบรนด์คือแบรนด์เดียวกัน” นายฉัตรชัยกล่าว ปัจจุบัน ตลาดเบียร์คุณภาพดีและราคาถูกยังมีช่องว่างในการ ขยายตลาดได้อีกมาก เนื่องจากไม่มีสินค้าแบรนด์ใดนำเสนอจุดขายตรงกับ กลุ่มลูกค้าระดับล่าง หรือกลุ่มผู้ใช้แรงงาน ซึ่งเป็นฐานลูกค้าหลักในตลาดดัง กล่าว โดยซูเปอร์ไลอ้อนเป็นเบียร์แบรนด์เดียวที่นำเสนอจุดขายรสชาติเข้มข้น เพราะมีความเข้มข้นของแอลกอฮอล์ 6.5% สูงที่สุดในตลาดเบียร์
สำหรับแนวทางการทำตลาดซูเปอร์ไลอ้อนนั้น บริษัทตั้งงบ โฆษณาส่งเสริมการขายรวม 100 ล้านบาท ภายในระยะเวลา 1 ปี โดยมีเป้าหมายผลักดันแบรนด์ติดตลาดและสร้างความคุ้นเคยในกลุ่มผู้บริโภค โดยช่วง 3 เดือนแรกใช้งบโฆษณาส่งเสริมการขายประมาณ 50-60 ล้านบาท “ในปีแรกของการทำตลาดซูเปอร์ไลอ้อน บริษัทตั้งเป้าหมาย ส่วนแบ่งตลาด 4% ของมูลค่าตลาดเบียร์โดยรวมในปีหน้าที่คาดว่าจะมีมูลค่า รวม 40,000 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็นอัตราการเติบโต 3-5% จากปีนี้” นายฉัตร ชัยกล่าว และว่า ในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา คู่แข่งได้เตรียมรับมือการทำ ตลาดของซูเปอร์ไลอ้อนเบียร์ โดยเร่งทำตลาดเหล้าพ่วงเบียร์ เพิ่มปริมาณ เบียร์จากเดิมที่ขายเหล้า 1 เท ต้องซื้อเบียร์พ่วง 3 โหล เป็นเหล้า 1 เท พ่วงเบียร์ 8 โหล เพราะต้องการให้สินค้าล้นตลาดแล้วดัมพ์ราคาขาย--จบ--
-สส-