กรุงเทพฯ--20 ก.ย.--สถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7
ช่อง 7 สี ร่วมกับ กรมพลศึกษา และ บริษัท คิง เพาเวอร์ จัดการแข่งขันฟุตบอลนักเรียน 7 คน "แชมป์กีฬา7 สี แชมเปียน คัพ 2016" พร้อมเปิดศึกฟาดแข้ง เฟ้นหานักเตะแข้งทองดาวรุ่ง เพื่อสร้างรากฐานกีฬาฟุตบอลระดับเยาวชนสู่ทีมชาติ ชิงทุนการศึกษามูลค่ารวม 1.93 ล้านบาท พร้อมถ้วยเกียรติยศ ในปีนี้มีทีมโรงเรียนสมัครจากทั่วประเทศทั้งสิ้น 176 โรงเรียน ซึ่งได้มีพิธีจับสลากแบ่งสายรอบคัดเลือก โดยมีคุณพลากร สมสุวรรณ กรรมการผู้จัดการ สถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย คุณชัชชัย วงศ์บางโพ ผู้อำนวยการกลุ่มกีฬาส่วนภูมิภาค กรมพลศึกษา และคุณสุขฤดี พงศ์พันธุ์วัฒนา ผู้อำนวยการส่วนงานสร้างสรรค์องค์กร กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ร่วมเป็นเกียรติในพิธี เมื่อวันอังคารที่ 20 กันยายน 2559 ณ สตูดิโอ 1 สถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7
คุณพลากร สมสุวรรณ กรรมการผู้จัดการ สถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 เปิดเผยว่า "ทางช่อง 7สี ได้มีการจัดการแข่งขันแชมป์กีฬา 7 สีทั้งปี ซึ่งฟุตบอลนักเรียน 7 คน แชมป์กีฬา 7 สี แชมเปียน คัพ 2016 ปีนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 14 แล้ว โดยตลอดระยะเวลา 14 ปีที่ผ่านมา ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายไปทั่วประเทศ จนได้เห็นผลผลิตเป็นเยาวชนดาวรุ่งมากมายที่ผ่านการแข่งขันรายการนี้ กลายเป็นนักฟุตบอลในระดับแถวหน้าของประเทศไทยหลายคน ทั้งในระดับสโมสรจนถึงในระดับชาติ ซึ่งช่อง 7 สีมีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมให้เยาวชนได้แสดงศักยภาพ และเป็นเวทีแจ้งเกิดนักฟุตบอลระดับเยาวชน สู่สู่การแข่งขันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดอย่างฟุตบอลโลกในอนาคต"
"การแข่งขันในรอบคัดเลือกจะทำการแข่งขันในช่วงเดือนตุลาคมนี้ เริ่มวันที่ 6-9 ต.ค. วันที่ 15-16ต.ค. และวันที่ 22-23 ต.ค. ที่สนามเฉลิมพระเกียรติ คลอง 6 ปทุมธานี แข่งขันระบบน็อกเอาท์ หรือ แพ้คัดออก โดยคัดจนเหลือ 8 ทีมผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายรวมกับแชมป์เก่าทีมโรงเรียนสุรศักดิ์มนตรี และรองแชมป์เก่าทีมโรงเรียนท่าข้ามพิทยาคม เป็น 10 ทีม การแข่งขันรอบสุดท้ายจะแข่งขันระบบเหย้า-เยือน แบ่งเป็น 2 สายๆ ละ 5 ทีม ในเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม 2559 ทีมที่ได้ที่ 1 และที่ 2 ของสายจะผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศและรอบชิงชนะเลิศซึ่งจะทำการแข่งขันในเดือนมกราคม 2560 รวมระยะเวลาการแข่งขัน 4 เดือน"
คุณพลากร สมสุวรรณ ได้เพิ่มเติมว่า "รางวัลทุนการศึกษา คือทีมชนะเลิศได้รับทุนการศึกษา300,000 บาท พร้อมถ้วยเกียรติยศ ทีมรองชนะเลิศได้รับทุนการศึกษา 150,000 บาท ส่วนทีมอันดับ 3 ทั้ง 2 ทีม รับทุนการศึกษาทีมละ 30,000 บาท ด้านนักฟุตบอลยอดเยี่ยม และผู้ทำประตูสูงสุด ได้รับทุนการศึกษาคนละ 25,000บาท ผู้ฝึกสอนยอดเยี่ยม รับเงินรางวัล 20,000 บาท ทีมมารยาทยอดเยี่ยม และทีมเชียร์ยอดเยี่ยม ได้รับทุนการศึกษาทีมละ 30,000 บาท และรางวัลพิเศษจาก บริษัท คิง เพาเวอร์ มอบรางวัลเยี่ยมชมสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ ณ ประเทศอังกฤษ พร้อมกับชมการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก จำนวน 2 รางวัล ให้แก่นักฟุตบอลยอดเยี่ยม 1 รางวัล และ ผู้ฝึกสอนยอดเยี่ยม 1 รางวัล นอกจากนี้ยังมีผู้ให้การสนับสนุนอื่นๆ ได้แก่ บริษัท เดฟโฟ สปอร์ต(ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท โรงงานสยามบอลสปอร์ตจำกัด,บริษัท มิตรไมตรีการแพทย์ จำกัด, บริษัท ศรีอยุธยา เจเนอรัล ประกันภัย จำกัด ส่วนทีมที่ผ่านเข้าสู่รอบแบ่งสายทั้ง 10 ทีม จะได้รับเงินบำรุงทีมๆ ละ 70,000 บาท ส่วนการแข่งขันในรอบแบ่งสายทีมโรงเรียนที่ชนะจะได้รับทุนการศึกษา 10,000 บาท ทีมที่เสมอได้รับทุนการศึกษา 5,000 บาท และทีมที่แพ้ได้รับทุนการศึกษา 3,000 บาท รวมทุนการศึกษาและเงินรางวัลพิเศษทั้งสิ้น 1.93 ล้านบาท"
โดยทางกรมพลศึกษาได้ให้การสนับสนุนและเตรียมความพร้อมสนามเฉลิมพระเกียรติคลอง 3จำนวน 3 สนาม ไว้รองรับทั้ง 176 โรงเรียน นอกจากนี้ ยังจัดเตรียมสนามสำหรับรอบรองชนะเลิศ และ รอบชิงชนะเลิศอีกด้วย
ทำเนียบแชมป์ การแข่งขันฟุตบอลนักเรียน 7 คน "แชมป์กีฬา 7 สี แชมเปียน คัพ" ปี 2003โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย / ปี 2004 โรงเรียนพาณิชยการราชดำเนิน / ปี 2005 โรงเรียนราชวินิตบางแก้ว / ปี2006 โรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัย / ปี 2007 โรงเรียนราชวินิตบางแก้ว / ปี 2008 โรงเรียนสารวิทยา / ปี 2009 และ2010 โรงเรียนอัสสัมชัญศรีราชา / ปี 2011 โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย ปทุมธานี / ปี 2012-2014 โรงเรียนอัสสัมชัญ ธนบุรี / ปี 2015 โรงเรียนสุรศักดิ์มนตรี
นอกจากนั้น การแข่งขันรายการนี้ยังสร้างดาวรุ่งเสริมทัพทีมชาติไทยหลายคน อาทิ ปกเกล้า อนันต์, นูรูล ศรียานเก็ม, อดิศักดิ์ ไกรษร, ธีราทร บุญมาทัน, กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์, ชนินทร์ แซ่เอียะ, ปกรณ์ เปรมภักดิ์, วิศรุต อิ่มอุระ และ วรชิตกนิตศรีบำเพ็ญ เป็นต้น