กรุงเทพฯ--22 ก.ย.--BANGKOK AUTUMN
บริษัท ออพท์เอเชีย แคปิตอล จำกัด ในฐานะ ที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ ของบริษัท แมกซ์ เมทัล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ MAX ได้จัดทำรายงานความเห็นเกี่ยวกับรายการได้มาซึ่งสินทรัพย์ จากที่ประชุมคณะกรรมการของ MAX ครั้งที่ 8/2559 เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2559 ที่มีอนุมัติให้นำเสนอต่อที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาการเข้าลงทุนในหุ้นสามัญของบริษัท พีพีทีซี จำกัด หรือ PPTC ซึ่งป็นผู้ผลิตพลังงานไฟฟ้าขนาดเล็กระบบ Cogeneration กำลังการผลิตสูงสุดรวม120 เมกะวัตต์ และไอน้ำกำลังการผลิตสูงสุดรวมประมาณ 30 ตันต่อชั่วโมง ตั้งอยู่ในเขตนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร เป็นจำนวนหุ้นทั้งสิ้น ไม่เกิน 3,190,600 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท คิดเป็นสัดส่วนไม่เกินร้อยละ 21.50 ของจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว ในราคาหุ้นละ 142.333 บาท รวมเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้นไม่เกิน 454.128 ล้านบาท โดย เมื่อพิจารณาข้อดี ข้อด้อยและความเสี่ยงข้างต้น ที่ปรึกษาทางการเงินอิสระจึงสรุปว่าการเข้าทำรายการได้มาซึ่งสินทรัพย์ในครั้งนี้มีความสมเหตุสมผล
ทั้งนี้ข้อดีของการเข้าทำรายการ ขยายการลงทุนในธุรกิจที่มีการเติบโตอย่างมั่นคงและลดความเสี่ยงจากการพึ่งพารายได้จากการประกอบธุรกิจเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เหล็ก โดยการได้มาซึ่งหุ้นบริษัท PPTC จะเป็นการลงทุนในกลุ่มธุรกิจพลังงานที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องและมั่นคง มีความผันผวนของธุรกิจต่ำ โดย MAX จะได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนแบบต่อเนื่องในรูปแบบเงินปันผล คาดว่าจะมีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล (Dividend Yield) ซึ่งอ้างอิงตามประมาณการทางการเงินอยู่ในช่วงร้อยละ 6 – 10 ต่อปี ส่งผลต่อการสร้างมูลค่าเพิ่มและผลตอบแทนให้แก่ MAX ในระยะยาว เป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำ เนื่องจาก PPTC ได้มีการทำสัญญาขายไฟฟ้ากับ กฟผ. และสัญญาขายไฟฟ้าและไอน้ำกับลูกค้าอุตสาหกรรมบางราย ที่มีโรงงานตั้งอยู่ใกล้โรงไฟฟ้า บริเวณนิคมอุตสาหกรรม เรียบร้อยแล้วและการลงทุนครั้งนี้จะทำให้บริษัทฯ ได้รับประสบการณ์ในการดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้ามากขึ้น ซึ่งจะช่วยสร้างโอกาสในขยายการลงทุนในกลุ่มธุรกิจนี้ต่อไปในอนาคต
นอกจากนี้ MAX ตกลงซื้อหุ้น PPTC จากผู้ขายในราคาหุ้นละ 142.333 บาท ในขณะที่ราคาประเมินของที่ปรึกษาทางการเงินอยู่ในช่างราคาระหว่าง 186.81 – 209.25 บาทต่อหุ้น ซึ่งซื้อได้ต่ำกว่าราคาประเมินถึง 44.48 – 66.92 บาทต่อหุ้น คิดเป็น 31.979% ถือเป็นข้อดีอย่างยิ่งในการลงทุนใน PPTC ครั้งนี้โดย MAX จะซื้อหุ้นสามัญของ PPTC ภายหลังจากที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 2/2559 ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 6 ตุลาคม 2559 เพื่อมีมติขออนุมัติการเข้าทำรายการดังกล่าว