กรุงเทพฯ--16 ธ.ค.--สำนักงานเลขานุการกองทัพเรือ
วันนี้ (๑๖ ธันวาคม ๒๕๔๘) เวลา ๑๔.๐๐ น. พลเรือเอก นพพร อาชวาคม ผู้บัญชาการ กองเรือยุทธการ เป็นประธานในพิธีต้อนรับเรือหลวงปัตตานี ณ ท่าเรือแหลมเทียน ฐานทัพเรือสัตหีบ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี
เรือหลวงปัตตานี เป็นเรือตรวจการณ์ไกลฝั่ง ซึ่งกองทัพเรือ สั่งต่อจากสาธารณรัฐ ประชาชนจีน โดยได้ว่าจ้าง บริษัท ไชน่าชิป บิวดิ้ง เทรดดิ้ง จำกัด สร้างโดยวิธีพิเศษในลักษณะรัฐบาล ต่อรัฐบาล ผูกพันงบประมาณข้ามปี ระหว่างปีพุทธศักราช ๒๕๔๕ ถึง ๒๕๔๙ เพื่อใช้ปฏิบัติภารกิจ ในการรักษาอธิปไตยและผลประโยชน์ของชาติทางทะเล รวมไปถึงการค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัย การปราบปราม การกระทำผิดทางทะเลตามที่กฎหมายให้อำนาจเจ้าหน้าที่ทหารเรือ ซึ่งรวมถึงการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด โดยในการปฏิบัติภารกิจดังกล่าวที่ผ่านมา กองทัพเรือได้จัดเรือ และอากาศยานปฏิบัติการอย่างต่อเนื่อง แต่ปัญหาที่มักพบคือ เมื่อต้องปฏิบัติการบริเวณไกลฝั่ง ความจำเป็นต้องใช้ เรือขนาดใหญ่ที่มีความคงทนทะเลสูง ซึ่งปกติจะใช้เรือฟริเกตเป็นหลัก แต่เนื่องจากเรือฟริเกตเป็นเรือ ที่ถูกออกแบบเพื่อใช้ในการรบโดยตรง จึงมียุทโธปกรณ์และกำลังพลจำนวนมาก ทำให้เกิดความสิ้นเปลืองสูงทั้งการใช้งานและการบำรุงรักษา กองทัพเรือจึงได้ดำเนินการจัดหาเรือตรวจการณ์ไกลฝั่ง จำนวน ๒ ลำ ซึ่งเป็นเรือที่มีขนาดใกล้เคียงกับเรือฟริเกตเข้าปฏิบัติงานแทน
สำหรับเรือตรวจการณ์ไกลฝั่งทั้ง ๒ ลำ ได้รับพระราชทานชื่อจาก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ว่า เรือหลวงปัตตานี และ เรือหลวงนราธิวาส โดยเรือหลวงปัตตานี เป็นเรือลำแรกที่ต่อเสร็จและมีพิธี รับมอบเมื่อวันที่ ๗ พฤศจิกายน ๒๕๔๘ และได้ออกเดินทางจากเมืองเซียงไฮ้ สาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อวันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๔๘ โดยใช้เวลาเดินทาง ๑๑ วันในการเดินทางถึงประเทศไทย สำหรับเรือหลวงนราธิวาส กำลังดำเนินการต่อใกล้แล้วเสร็จ และกำหนดจะเดินทางมาถึงประเทศไทยประมาณเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๔๙
เรือหลวงปัตตานี มีระวางขับน้ำสูงสุด ๑,๔๔๐ ตัน กว้าง ๑๑.๖๐ เมตร ยาว ๙๕.๕ เมตร มีความเร็วสูงสุด ๒๕ นอต ระยะปฏิบัติการ ๓,๕๐๐๐ ไมล์ มีความคงคนทนทะเลสูงและมีดาดฟ้าสำหรับจอดเฮลิคอปเตอร์แบบซูเปอร์ลิงซ์ ๓๐๐ และสามารถปรับปรุงขีดความสามารถให้เท่าเรือฟริเกต เพื่อทดแทนเรือฟริเกตที่ปลดประจำการไปแล้ว
(ที่มา: ข่าวแจก กองประชาสัมพันธ์ สลก.ทร.)--จบ--