กรุงเทพฯ--30 พ.ค.--กทม.
นายเชนทร์ วิพัฒน์บวรวงศ์ โฆษกกระทรวงมหาดไทย ฝ่ายราชการประจำ แถลงผลการประชุมกระทรวงมหาดไทย ประจำเดือนพฤษภาคม 2543 ว่า นายบัญญัติ บรรทัดฐาน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้มอบนโยบาย และแนวทางการปฏิบัติราชการ ต่อผู้บริหารระดับสูงของ กระทรวมหาดไทย และผุ้ว่าราชการจังหวัด โดยมีการประชุมผ่านระบบวิดีทัศน์ทางไกล (video conference) ไปยังทุกจังหวัด ดังนี้
1. ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติ ได้จัดประชุมระดมความเห็นเกี่ยวกับ "วิสัยทัศน์และยุทธศาสตร์ การพัฒนาประเทศไทย ในช่วสงแผนพัฒนาเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 9" ซึ่จะใช้ในปี พ.ศ.2545-2549 โดยกระทรวงมหาดไทยจะมีผู้แทน ไปเข้าร่วมประชุมด้วยนั้น ขอให้ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ เพราะจะเป็นแผนพัฒนาประเทศ ที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ที่จะมีสาระความสำคัญ ตามบทบัญญัติ ตามรัฐธรรมนูญ พุทธศักราช 2540 มากำหนดแนวทางการปฏิบัติ ของส่วนราชการ อย่างเป็นรูปธรรมอย่างแท้จริง และจะต้องติดตามการจัดทำแผนนี้ เพื่อเตรียมการนำมาตรการที่กำหนดขึ้นมา เป็นแนวทางปฏิบัติของกระทรวงมหาดไทย ในส่วนที่เกี่ยวข้องด้วย
2. นโยบายของกระทรวงมหาดไทยในส่วนเพิ่มเติมขึ้นมา คือ "ปฏิรูปการปกครองอย่างต่อเนื่อง และส่งเสริมเรื่องประชาชน" นั้น ขอให้กำหนดแนวทางปฏิบัติ ให้เป็นรูปธรรมที่ชัดเจน และมีการรายงานผลการดำเนินงานให้ทราบด้วย
3. เรื่องสืบเนื่องมาจากมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2543 ที่ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งรัดการดำเนินงาน ภายใต้กรอบนโยบาย และมาตรการเศรษฐกิจ ในช่วง 5 เดือนสุดท้ายของปีงบประมาณ 2543 ซึ่งเกี่ยวข้องกับกระทรวงมหาดไทย 2 ส่วน คือ - การเร่งรัดการดำเนินงาน ด้านการบรรเทาปัญหาการว่างงาน เพื่อให้สามารถสร้างงานในตลาดได้ไม่ต่ำว่า 1.3 ล้านคนในปีนี้ ซึ่งจะต้องเร่งรัด กำกับดูแลงานด้านมาตรการ การจ้างงานในชนบท ที่อยู่ในความรับผิดชอบของกระทรวงมหาดไทย ให้เป็นไปตามเป้าหมายของรัฐบาล - การเร่งรัดการดำเนินการ ด้านการกระจายอำนาจ ให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยเฉพาะในส่วนของรายได้ ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในปีงบประมาณ 2544 ที่จะเพิ่มขึ้น คิดเป็นสัดส่วนไม่น้อยกว่าร้อยละ 20 ของรายได้รัฐบาล ตาม พ.ร.บ. แหนดแผน และขั้นตอนการกระจายอำนาจ ให้แก่องค์กรส่วนท้องถิ่น พ.ศ.2542 ซึ่งงบประมาณปี 2544 ของกระทรวงมหาดไทย จำนวน 114,753 ล้านบาท เป็นงบประมาณที่อุดหนุน และถ่ายโอนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เกือบ้อยละ 50 (56,000 ล้านบาท) ดังนั้น กระทรวงมหาดไทย ต้องมีบทบาทเป็นตัวกลางประสานกระทรวงอื่น รวมทั้งกำหนดแนวทางปฏิบัติ ในการบริหารหารใช้จ่ายเงิน ของท้องถิ่นให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และตรงกับความต้องการของประชาชน โดยให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการทำงาน รวมทั้งการประสานนโยบายการพัฒนาประเทศของรัฐบาล เข้ากับการทำงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
4. เรื่องบทบาทของผู้ว่าราชการจังหวัด ในการกำกับดูแลองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ของให้มีการกำหนดแนวทางปฏิบัติของผู้ว่าราชการจังหวัด ซึ่งจะต้องมีบทบาทของการเป็น ตัวแทนของรัฐบาลกลาง ในการกำกับดูแล การบริหารงบประมาณของ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอย่างจริงจัง ภายใต้หลักการที่ว่าการกำกับดูแลนั้น ทำเพื่อส่งเสริมประสิทธิภาพการทำงาน ขององค์กรปกครองสส่วนท้องถิ่น และเพื่อส่งเสริมให้ประชาชนในท้องถิ่น เข้ามามีส่วนร่วมในการทำงาน รวมทั้งการประสานแนวนโยบาย การพัฒนาประเทศของรัฐบาล เข้ากับการทำงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
5. เรื่องการแก้ไขปัญหา การชุมชนุมเรียกร้อง ของพี่น้องเกษตรกร เนื่องจากราคาพืชผลการเกษตรตกต่ำ มีการปิดถนนสายหลัก ที่เป็นเส้นทางการจราจรที่สำคัญ ของให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด ได้ประเมินสถานการณ์ปัญหา ราคาพืชผลการเกษตรหลักของจังหวัด และหากมีแนวโน้มว่าจะก่อให้เกิดการชุมนุม ให้รายงานให้รัฐบาลทราบ เพื่อจะได้เตรียมกำหนดมาตรการแก้ไขปัญหาไว้ล่วงหน้า แล้วแจ้งให้พ่น้องเกษตรกรทราบ ทั้งนี้ กระทรวงมหาดไทย เป็นแกนกลางในการประสานกับทุกส่วนราชการ ที่เกี่ยวข้อง กำหนดมาตรการเพื่อป้องกันปัญหาล่วงหน้า โดยอาจจัดตั้งศูนย์ประสานงาน หรือรูปแบบต่างๆ ตามสมควร รวมทั้งจะต้องมีการประชาสัมพันธ์ ให้พี่น้องประชาชนทราบว่า เป็นการเตรียมการช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกร มิใช่จะเป็นการสะกัดกั้นการชุมนุมแต่อย่างใด--จบ--
-อน-