กรุงเทพฯ--19 พ.ย.--ปตท.
ปตท.ประกาศปิดการจองซื้อหุ้นผ่านธนาคารแล้ว ประชาชนสนใจจองซื้อเต็มจำนวนทั้ง 220 ล้านหุ้นตามที่จัดสรร และหุ้นส่วนที่สำรองไว้ ผู้สนใจจองซื้อมาจากทุกระดับกลุ่ม และ มีจำนวนใกล้เคียงกันในแต่ละภาค ปตท. ขอขอบคุณประชาชนที่ให้ความสนใจเกินคาด เผยเหตุที่จองซื้อเต็มจำนวนในเวลาอันรวดเร็ว เพราะใช้ระบบออนไลน์ผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์ประมาณ 10,000 เครื่อง ทั่วประเทศในเวลาพร้อมกัน
นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่กลุ่มธุรกิจก๊าซธรรมชาติ ปฏิบัติงานแทน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในวันนี้ซึ่งเป็นวันแรกของเปิดจองซื้อหุ้น ปตท.ผ่านทุกสาขาของ 5 ธนาคารใหญ่ ประชาชนได้ให้ความสนใจอย่างล้นหลาม ทำให้จำนวนหุ้นที่เตรียมไว้จำนวน 220 ล้านหุ้นครบจำนวนอย่างรวดเร็วภายใน 1-2 นาทีแรก และทางธนาคารได้เปิดให้ผู้สนใจจองซื้อต่อ และขึ้นเป็นบัญชีสำรอง ( waiting list )ไว้อีกประมาณ140 ล้านหุ้น ซึ่งส่วนนี้ก็หมดภายในเวลาอันรวดเร็วเช่นกัน ดังนั้น ปตท.จึงขอประกาศปิดรับการจองซื้อในส่วนของนักลงทุนรายย่อยผ่านธนาคาร ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
สำหรับสาเหตุที่การจองซื้อหุ้นใช้เวลาสั้นมากเป็นประวัติการณ์นี้ เนื่องจากประชาชนให้ความสนใจเกินความคาดหมาย ขณะเดียวกันในการขายหุ้นครั้งนี้ ปตท.ได้ดำเนินการผ่าน 5 ธนาคารใหญ่ ซึ่งมีสาขารวมกันประมาณ 2,500 สาขา โดยใช้ระบบออนไลน์ ผ่านจอคอมพิวเตอร์รวมทั้งสิ้นประมาณ 10,000 เครื่อง ซึ่งกระจายไปรอการจองซื้อในทุกสาขาเวลาเดียวกัน
นายประเสริฐ กล่าวว่า สำหรับหุ้นที่อยู่ใน waiting list นั้น จะมีการมีการพิจารณาโดย คณะกรรมการระดมทุน ในวันที่ 21 พ.ย. ศกนี้ ทั้งนี้คาดว่าหุ้นที่จะจัดสรรให้ กลุ่ม waiting list อาจมาจาก 2 ส่วน คือ 1. หุ้นที่ผู้ได้รับการจัดสรรแล้ว แต่ไม่ปฏิบัติตามแนวทางการจองซื้ออย่างครบถ้วน เช่นจำนวนเงินไม่ครบ หรือขาดเอกสาร 2. หุ้นบางส่วนที่สามารถดึงมาจากส่วนที่เสนอขายให้นักลงทุนต่างประเทศ และ 3 หุ้นในส่วนของกระทรวงการคลังที่สำรองไว้เสนอขายเพิ่มเติมอีกจำนวน 120 ล้านหุ้น ซึ่งปตท.จะแจ้งให้ผู้จองซื้อที่อยู่ในบัญชีรายชื่อสำรองทราบต่อไปสำหรับรายงานสรุปการจองซื้อหุ้นผ่านธนาคาร ครั้งนี้ พบว่ามีการกระจายไปทุกกลุ่มทั้งรายย่อย รายขนาดกลาง และขนาดใหญ่ และในแต่ละภาคมีจำนวนที่ใกล้เคียงกัน ยกเว้นในภาคกลาง(รวมกรุงเทพ)จะมีจำนวนที่มากกว่า โดยมีจำนวนที่จองซื้อ ดังนี้
ระดับ 1,000 - 5,000 หุ้น รวม 4,373 รายการ คิดเป็นประมาณ 35%
ระดับ 5,001 - 10,000 หุ้น รวม 2,489 รายการ คิดเป็นประมาณ 20%
ระดับ 10,001 - 3 0,000 หุ้น รวม 2,237 รายการ คิดเป็นประมาณ 18%
ระดับ 30,001 - 60,000 หุ้น รวม 1,130 รายการ คิดเป็นประมาณ 9 %
ระดับ 60,001 - 100,000 หุ้น รวม 2,299 รายการ คิดเป็นประมาณ 18 %
ทางด้านม.ล.ชโยทิต กฤดากร กรรมการผู้จัดการ บริษัท หลักทรัพย์ไทยพาณิชย์ ในฐานะตัวแทนที่ปรึกษาทางการเงิน ปตท. ชี้แจงว่า แผนการจำหน่ายหุ้น ปตท. นี้อยู่ในความรับผิดชอบของทีมที่ปรึกษาทางการเงิน 6 แห่ง โดยทางทีมได้วางแผนให้นักลงทุนรายย่อย จองผ่านระบบออนไลน์ของธนาคาร โดยใช้หลักการมาก่อนจ่ายเงินก่อน ก็จะได้หุ้นก่อน เนื่องจากก่อนวางแผน คือประมาณเกือบ 2 เดือนที่ผ่านมา เราได้ทำการวิจัยตลาดผ่านธนาคารโดยใช้ฐานลูกค้า ที่มีบัญชีเงินฝากกับธนาคารพาณิชย์ ทั่วประเทศจำนวน 8,000 ตัวอย่าง และพบว่า กำลังความต้องการซื้อหุ้น ปตท. เฉลี่ยอยู่ที่ ประมาณ 200,000- 300,000 บาทต่อราย ส่วนกระแสความต้องการอย่างมากเพิ่งจะมีเข้ามาก่อนหน้านี้ไม่นาน ในขณะที่ทีมที่ปรึกษายังต้องวางแผนจัดสรรหุ้นให้บรรลุเป้าหมาย 4 ข้อตามที่ ปตท. และรัฐบาลต้องการ คือ 1.จำหน่ายหุ้นให้หมด 2. ให้ได้ระดับราคาที่เหมาะสม 3.ระดับราคาหลังเข้าตลาดต้องเป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่าย และ4. เกิดผลดีต่อเศรษฐกิจของประเทศโดยรวม ดังนั้นจึงต้องกระจายกลุ่มที่จะขายหุ้นให้มีทั้งประชาชนทั่วไป ทั้งนักลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ และสถาบันทั้งในและต่างประเทศ แต่รวมแล้วจะให้ความสำคัญกับในประเทศมากกว่า--จบ--
-สส-