กรุงเทพฯ--28 ก.ย.--ฟิทช์ เรทติ้งส์
บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศปรับลดอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว (National Long-term Rating) บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) หรือ Makro เป็น A(tha) จาก A+(tha) แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ ในขณะเดียวกัน ฟิทช์ประกาสคงอันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้น (National Short-term Rating) ที่ F1(tha)
การปรับลดอันดับเครดิตดังกล่าวเนื่องจากการปรับลดอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CP ALL ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ Makro ในสัดส่วนร้อยละ 98 เป็น A(tha) จาก A+(tha)
ปัจจัยที่มีผลต่ออันดับเครดิต
ความเชื่อมโยงกับ CP ALL : การปรับลดอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ CP ALL ทำให้อันดับเครดิตในปัจจุบันของ CP ALL อยู่ในระดับเดียวกันกับอันดับเครดิตที่พิจารณาจากสถานะทางเครดิตโดยลำพังของ Makro (Stand-alone Credit Profile) ดังนั้นการปรับเพิ่มอันดับเครดิตขึ้นหนึ่งอันดับจากอันดับเครดิตที่พิจารณาจากสถานะทางเครดิตโดยลำพังของ Makro เพื่อสะท้อนถึงความสำคัญในเชิงกลยุทธ์ของ Makro ต่อสถานะของกลุ่ม CP ALL จึงไม่สามารถนำมาใช้ได้ในกรณีนี้
ผู้นำในธุรกิจค้าส่งประเภทอาหาร: Makro เป็นผู้ประกอบการเพียงรายเดียวในธุรกิจค้าส่งสมัยใหม่ประเภทอาหาร (Modern-Trade Food Wholesale) ในประเทศไทยมานานกว่า 25 ปี Makro มีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่แตกต่างจากผู้ประกอบการค้าปลีกรายใหญ่รายอื่น โดย Makro มุ่งจำหน่ายสินค้าให้แก่ผู้ประกอบการ ซึ่งได้แก่ ผู้ค้าปลีกรายย่อยแบบดั้งเดิม ผู้จัดจำหน่าย ผู้ประกอบการโรงแรม ร้านอาหาร และธุรกิจจัดเลี้ยง รวมถึงลูกค้าที่เป็นองค์กร ซึ่งรายได้จากลูกค้าเหล่านี้มีสัดส่วนประมาณร้อยละ 75 ของรายได้รวม
อัตราส่วนหนี้สินที่ต่ำแต่เพิ่มสูงขึ้น: อัตราส่วนหนี้สินของ Makro ซึ่งวัดจากอัตราส่วนหนี้สินที่ปรับปรุงแล้วสุทธิต่อกระแสเงินสดจากการดำเนินงานก่อนการเปลี่ยนแปลงของเงินทุนหมุนเวียน (FFO adjusted net leverage) น่าจะเพิ่มสูงขึ้นเป็น 1.6 เท่าถึง 1.7 เท่า ณ สิ้นปี 2559 เนื่องจากการขยายสาขาเป็นจำนวนมากอย่างต่อเนื่อง ฟิทช์คาดว่าอัตราส่วนหนี้สินดังกล่าวจะลดลงในปี 2560 เนื่องจากการลดการขยายจำนวนสาขาขนาดใหญ่ ตามแผนของบริษัทฯ Makro เริ่มมีการขยายสาขาเป็นจำนวนมากหลังจากที่ CP ALL ได้เข้าซื้อกิจการของ Makro ในกลางปี 2556 อัตราส่วนหนี้สินสุทธิดังกล่าวของ Makro ได้เพิ่มสูงขึ้นเป็น 1.1 เท่า ณ สิ้นปี 2558 จากก่อนการถูกเข้าซื้อกิจการที่บริษัทฯ มีเงินสดมากกว่าหนี้สิน
อัตราการเติบโตของยอดขายที่แข็งแกร่ง: ฟิทช์คาดว่าอัตราการเติบโตของยอดขายของ Makro น่าจะอยู่ที่ระดับร้อยละ 9-10 ต่อปีในช่วง 2 ปีข้างหน้า โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากยอดขายของสาขาที่เปิดใหม่ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาและที่จะเปิดในปี 2559 Makro มีแผนที่จะเปิดสาขาขนาดใหญ่ใหม่จำนวน 13-14 สาขาในปี 2559 ก่อนที่จะลดการขยายจำนวนสาขาขนาดใหญ่ลงในปี 2560 นอกจากนี้ อัตราการเติบโตของยอดขายยังน่าจะได้รับการสนับสนุนจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศและการเติบโตอย่างต่อเนื่องของการท่องเที่ยวในประเทศไทย
อัตราส่วนกำไรที่ต่ำแต่มั่นคง: อัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา ค่าตัดจำหน่ายและค่าเช่าต่อรายได้ (EBITDAR Margin) ของ Makro อยู่ในระดับค่อนข้างต่ำที่ร้อยละ 5.5 ถึงร้อยละ 6.0 เมื่อเทียบกับผู้ประกอบการค้าปลีกรายใหญ่รายอื่นที่มีอัตราส่วนกำไรดังกล่าวอยู่ในระดับสูงกว่าร้อยละ 10 เนื่องจาก Makro จำหน่ายสินค้าแบบขายส่งเป็นหลัก อย่างไรก็ตาม อัตราส่วนกำไรของ Makro มีความผันผวนน้อย เนื่องจากลักษณะธุรกิจของ Makro ที่ขายอาหารเป็นหลัก ฟิทช์คาดว่าอัตราส่วนกำไรดังกล่าวของ Makro จะเคลื่อนไหวอยู่ในช่วงร้อยละ 5.6 ถึง ร้อยละ 5.7 ในช่วง 3 ปีข้างหน้า
ความเสี่ยงจากการกระจุกตัว: จากการที่ Makro ประกอบธุรกิจค้าส่ง ทำให้ Makro มีการกระจายตัวของจำนวนลูกค้าและจำนวนสาขาน้อยกว่าผู้ประกอบการค้าปลีกรายใหญ่รายอื่นในตลาด นอกจากนี้ หนึ่งในกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของ Makro ซึ่งได้แก่ ผู้ค้าปลีกรายย่อยแบบดั้งเดิม มีแนวโน้มที่จะมีจำนวนลดลงในระยะยาว เนื่องจากการเปลี่ยนผ่านของการค้าปลีกแบบดั้งเดิมไปสู่การค้าปลีกสมัยใหม่เช่น ซูเปอร์มาร์เก็ต และร้านสะดวกซื้อ อย่างไรก็ตาม นโยบายของ Makro ที่เน้นลูกค้ากลุ่มผู้ประกอบการโรงแรม ร้านอาหาร และธุรกิจจัดเลี้ยงมากขึ้น น่าจะช่วยบรรเทาความเสี่ยงดังกล่าวลงได้ในระดับหนึ่ง
เครื่องหมายการค้าที่เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง: Makro เป็นเครื่องหมายการค้าของผู้ประกอบการค้าส่งแบบ Cash & Carry ในกลุ่มตลาดประเทศเกิดใหม่ที่เป็นที่รู้จักในระดับโลก CP ALL ได้รับสิทธิในการใช้เครื่องหมายการค้าดังกล่าวนี้ใน 11 ประเทศในทวีปเอเชีย รวมถึงประเทศไทย และประเทศจีน จาก SHV Group แห่งประเทศเนเธอร์แลนด์ ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่เดิมของ Makro การได้สิทธิดังกล่าวเป็นการสนับสนุนแผนธุรกิจในอนาคตของ Makro ในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า ในการขยายสาขาไปในประเทศอื่นๆ ในกลุ่มประเทศ ASEAN นอกจากนี้ Makro ยังมีการจำหน่ายสินค้าภายใต้เครื่องหมายการค้าของตนเองอีกหลายประเภท
สมมุติฐานที่สำคัญ
สมมุติฐานที่สำคัญของฟิทช์ที่ใช้ในการประมาณการ
- การเปิดสาขาขนาดใหญ่จำนวน 13 สาขาในปี 2559 และ 4 สาขาในปี 2560
- อัตราการเติบโตของยอดขายที่ร้อยละ 9 ถึงร้อยละ 10 ต่อปีในปี 2559-2560
-อัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา ค่าตัดจำหน่ายและค่าเช่าต่อรายได้ (EBITDAR Margin) อยู่ที่ร้อยละ 5.6-5.7 ในปี 2559-2560
- ไม่มีค่าใช้จ่ายเพื่อการลงทุนสำหรับการขยายสาขาไปยังประเทศอื่น ในช่วงปี 2559-2561
ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต
ปัจจัยบวก:
• การปรับเพิ่มอันดับเครดิตของ CP ALL
ปัจจัยที่อาจมีผลต่อการปรับลดอันดับเครดิตโดยลำพังของ Makro รวมไปถึง:
• การลงทุนที่สูงโดยใช้แหล่งเงินทุนจากการกู้ยืม ซึ่งส่งผลให้อัตราส่วนหนี้สินที่ปรับปรุงแล้วสุทธิต่อกระแสเงินสดจากการดำเนินงานก่อนการเปลี่ยนแปลงของเงินทุนหมุนเวียน (FFO adjusted net leverage) เพิ่มขึ้นสูงกว่า 2.5 เท่า อย่างต่อเนื่อง (ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2559: 1.6 เท่า) หรือ
• การลดลงของอัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา ค่าตัดจำหน่ายและค่าเช่าต่อรายได้ (EBITDAR Margin) มาอยู่ในระดับต่ำกว่าร้อยละ 4.5 อย่างต่อเนื่อง (ครึ่งปีแรกของปี 2559: ร้อยละ 5.2)
อย่างไรก็ตาม ฟิทช์จะพิจารณาให้อันดับเครดิตเพิ่มขึ้นหนึ่งอันดับแก่ อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ Makro ในกรณีที่อันดับเครดิตโดยลำพังของ Makro ต่ำกว่าอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ CP ALL เพื่อสะท้อนถึงความสำคัญในเชิงกลยุทธ์ของ Makro ต่อสถานะของกลุ่ม CP ALL ในตลาดค้าปลีกประเภทอาหารในประเทศไทยและในภูมิภาค ตามหลักเกณฑ์การจัดอันดับเครดิตของฟิทช์ในเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างบริษัทใหญ่กับบริษัทย่อย (Parent and Subsidiary Linkage Methodology)
ติดต่อ: Primary Analyst สมฤดี ไชยวรรัตน์
Director +66 2108 0160
บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ชั้น 17, เลขที่ 57 อาคารปาร์คเวนเชอร์, ถนนวิทยุ, แขวงลุมพินี, เขตปทุมวัน
กรุงเทพฯ 10330
Secondary Analyst ณิชยา สีมานนทปริญญา
Associate Director
+66 2108 0161
Committee Chairperson Vicky Melbourne
Senior Director +612 8256 3025
หมายเหตุ: การจัดอันดับเครดิตภายในประเทศ (National Ratings) เป็นการวัดระดับความน่าเชื่อถือในเชิงเปรียบเทียบกันระหว่างองค์กรในประเทศนั้นๆ โดยจะใช้ในประเทศที่อันดับเครดิตแบบสากลของรัฐบาลในประเทศนั้นอยู่ในระดับที่ค่อนข้างต่ำและเมื่อมีความต้องการใช้อันดับเครดิตภายในประเทศ อันดับเครดิตขององค์กรที่ดีที่สุดของประเทศได้จัดไว้ที่ระดับ "AAA" และการจัดอันดับเครดิตอื่นในประเทศ จะเป็นการเปรียบเทียบความเสี่ยงกับองค์กรที่ดีที่สุดนี้เท่านั้น อันดับเครดิตภายในประเทศได้ถูกจัดทำขึ้นเพื่อใช้ในตลาดในประเทศเป็นหลักและจะมีสัญลักษณ์ที่กำหนดไว้ต่อท้ายจากอันดับเครดิตสำหรับประเทศนั้นๆ เช่น "AAA(tha)" ในกรณีของประเทศไทย ดังนั้นอันดับเครดิตภายในประเทศจึงไม่สามารถใช้เปรียบเทียบระหว่างประเทศได้
ข้อมูลเพิ่มเติมหาได้ที่ www.fitchratings.com
ในการจัดอันดับเครดิตฟิทช์ได้ใช้หลักเกณฑ์ตาม Corporate Rating Methodology: Including Short-term Ratings and Parent and Subsidiary Linkage ลงวันที่ 17 สิงหาคม 2558 , National Scale Ratings Criteria ลงวันที่ 30 ตุลาคม 2556 และ Parent and Subsidiary Linkage ลงวันที่ 31 สิงหาคม 2559 หลักเกณฑ์การจัดอันดับเครดิตดังกล่าวหาได้ที่
การจัดอันดับเครดิตในรายงานนี้เกิดจากความต้องการของบริษัทที่ถูกจัดอันดับ ดังนั้น ฟิทช์จึงได้รับค่าจ้างในการจัดอันดับเครดิตดังกล่าว
การใช้อันดับเครดิตที่จัดทำโดยฟิทช์เรทติ้งส์มีข้อจำกัดและขอบเขตการใช้ ซึ่งข้อจำกัดและขอบเขตของการใช้อันดับเครดิตดังกล่าวสามารถหาได้จาก HTTP://FITCHRATINGS.COM/UNDERSTANDINGCREDITRATINGS นอกจากนี้คำจำกัดความของอันดับเครดิตและการใช้อันดับเครดิตของ ฟิทช์ เรทติ้งส์ สามารถหาได้จาก www.fitchratings.com อันดับเครดิตที่ประกาศ หลักเกณฑ์และวิธีการจัดอันดับเครดิต ได้แสดงไว้ในเว็บไซต์ดังกล่าวตลอดเวลา หลักจรรยาบรรณ การรักษาข้อมูลภายใน ความขัดแย้งทางผลประโยชน์ที่อาจเกิดขึ้น แนวทางการเปิดเผยข้อมูลระหว่างบริษัทในเครือ กฎข้อบังคับรวมทั้งนโยบายและกระบวนการที่เกี่ยวข้องอื่นๆของฟิทช์ ได้แสดงไว้ในส่วน 'หลักจรรยาบรรณ' ในเว็บไซต์ดังกล่าวเช่นกัน ฟิทช์อาจจะมีการให้บริการจัดอันดับอื่น ๆ ที่ได้รับอนุญาตให้แก่บริษัทที่ฟิทช์จัดอันดับเครดิตอยู่หรือบริษัทที่เกี่ยวข้องกับบริษัทที่ฟิทช์จัดอันดับเครดิตอยู่ ซึ่งรายละเอียดสำหรับการให้บริการจัดอันดับอื่น ๆ ดังกล่าวโดยนักวิเคราะห์หลัก (Lead Analyst) ที่อยู่ในหน่วยงานของฟิทช์ที่จดทะเบียนในสหภาพยุโรป ได้แสดงไว้ที่หน้าแรกของบริษัทนั้น ๆ ในเว็ปไซต์ของฟิทช์ เรทติ้งส์ www.fitchratings.com