กรุงเทพฯ--8 มี.ค.--แสนสิริ
การปรับวิธีการประเมินมูลค่าสินทรัพย์ใหม่ตามระเบียบของตลาดหลักทรัพย์ฯเป็นไปตามนโยบายของบริษัทที่มุ่งสู่ความเป็นบรรษัทภิบาล
บริษัทแสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI ได้แถลงผลการดำเนินงานปี 2542 ซึ่งปรากฎว่าบริษัทรับรู้ผลการขาดทุนสุทธิลดลงจากปี 2541 ร้อยละ 20 แม้ว่าในปีที่ผ่านมาบริษัทได้ดำเนินการประเมินมูลค่าสินทรัพย์ใหม่ตามข้อกำหนดตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
นายเศรษฐา ทวีสิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานปี 2542 ที่ผ่านมาว่า แม้บริษัทจะมีผลประกอบการขาดทุนสุทธิ 1,293 ล้านบาท หรือ 7.44 บาทต่อหุ้น แต่เมื่อเทียบกับปี 2541 จะพบว่าบริษัทขาดทุนลดลงถึงร้อยละ 20 จากที่มีผลขาดทุน 1,610 ล้านบาท หรือ 24 บาทต่อหุ้น
ทั้งนี้การขาดทุนดังกล่าวเป็นผลจากการปฏิบัติตามมาตรฐานบัญชีใหม่เรื่องการด้อยค่าของสินทรัพย์ที่ใช้บังคับเมื่อปี 2542 ซึ่งตามมาตรฐานนี้ได้กำหนดให้บริษัทต้องประเมินมูลค่าสินทรัพย์ใหม่ส่งผลให้มูลค่าสินทรัพย์ของบริษัทด้อยค่าลงคิดเป็นมูลค่า 544.69 ล้านบาท อีกทั้งการตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญจากเงินให้กู้ยืมแก่บริษัทย่อยตามมาตรฐานบัญชี ซึ่งบริษัทได้กันสำรองไว้คิดเป็นมูลค่า 250 ล้านบาท ซึ่งผลจากการขาดทุนทั้งสองรายการนี้ได้ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารของบริษัทเพิ่มสูงขึ้นผิดปกติจากปีก่อนหน้าร้อยละ 138 หรือ 618 ล้านบาท แม้ว่าบริษัทจะดำเนินการลดต้นทุนขายและการบริการในปีที่ผ่านมาได้อย่างมีประสิทธิภาพถึงกว่าร้อยละ 95 แล้วก็ตาม
นอกจากนี้ บริษัทยังรับรู้ผลการขาดทุนจากการปรับโครงสร้างหนี้ด้วยวิธีการแปลงหนี้เป็น สินทรัพย์กับสถาบันการเงินหลายแห่ง อาทิ ธนาคารดีบีเอสไทยทนุ ธนาคารกสิกรไทย และบริษัท
เงินทุนทิสโก้ คิดเป็นมูลค่า 231.53 ล้านบาท แต่อย่างไรก็ตาม ผลจากการเร่งปรับโครงสร้างหนี้ ของบริษัทได้ทำให้ดอกเบี้ยจ่ายของบริษัทลดลงอย่างรวดเร็วจาก 371 ล้านบาทในปี 2541 เหลือเพียง 198 ล้านบาท
"เรายังคงมุ่งมั่นที่จะสร้างฐานะทางการเงินของบริษัทให้มีความแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่องด้วยการเร่งปรับโครงสร้างหนี้ให้หมดภายในปีนี้ ขณะเดียวกันบริษัทก็ยึดมั่นในหลักการบรรษัทภิบาล ซึ่งเน้นความโปร่งใสในการดำเนินงานและปฏิบัติตามกฎระเบียบของทางราชการอย่างเคร่งครัด อันเป็นแนวทางในการมุ่งสู่เป้าหมายของเราที่ได้วางไว้ นั่นคือ การเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำหนึ่งในสามของไทยที่สามารถให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่าแก่ผู้ถือหุ้น" นายเศรษฐากล่าว
ในปี 2542 บริษัทมีรายได้รวมมูลค่า 312 ล้านบาท โดยมีรายได้หลักมาจากค่าเช่าและค่าบริหารโครงการจำนวน 156 ล้านบาท ขณะที่มีรายได้จากการขายโครงการเป็นเงิน 77 ล้านบาท นอกจากนี้ บริษัทยังมีรายได้เสริมจากการยกเลิกสัญญาค่าก่อสร้างจากผู้รับเหมาที่รับรู้ในไตรมาสสามอีกกว่า 42 ล้านบาทด้วย
ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2541 สินทรัพย์ของบริษัท มีมูลค่า 2,950 ล้านบาท ลดลงจากปี 2541 ร้อยละ 23 ทั้งนี้เป็นผลสืบเนื่องจากการประเมินมูลค่าสินทรัพย์ตามมาตรฐานใหม่ของตลาดหลักทรัพย์ฯ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ:
บริษัท อาซิแอม เบอร์สัน-มาร์สเตลเลอร์ จำกัด วราพร สมบูรณ์วรรณะ หรือ สาธิดา ศรีธัญญาธรณ์ โทร.252-9871 E-mail: s_waraporn@bm.com
บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) วราลี สมศักดิ์สาธิดา ศรีธัญญาธรณ์ โทร. 201-3309 E-mail:Waralee@sansiri.com --จบ--