กรุงเทพฯ--29 ก.ย.--อาซิแอม เบอร์สัน-มาร์สเตลเลอร์
ทรูมูฟ เอช ผู้ให้บริการเครือข่าย 4G+ อันดับ 1 ครอบคลุมทั่วไทย โดยมีคลื่นมากที่สุด ให้ความเร็วอัพโหลด/ดาวน์โหลดสูงที่สุด ตอกย้ำความเป็นผู้นำเครือข่ายตัวจริง ด้วยมาตรฐานระดับโลก คว้ารางวัล "ผู้ให้บริการเครือข่าย LTE เชิงพาณิชย์ที่มีพัฒนาการเด่นชัดที่สุด" (Most Significant Development of a Commercial LTE Network) จากเวทีสุดยอดการประชุมระดับโลก 5G & LTE Asia Awards จัดขึ้นโดย Informa Telecoms & Media ระหว่างวันที่ 26 – 28 กันยายน 2559 ณ ประเทศสิงคโปร์ โดยมีนางณัฎฐา พสุพัฒน์ ผู้อำนวยการ ธุรกิจโมบายล์ โพสต์เพย์ บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น เป็นตัวแทนรับมอบรางวัล
ทั้งนี้ รางวัล "ผู้ให้บริการเครือข่าย LTE เชิงพาณิชย์ที่มีพัฒนาการเด่นชัดที่สุด" ได้รับเกียรติจากคณะกรรมการอิสระ ประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิในอุตสาหกรรมจากทั่วโลกเป็นผู้ตัดสินและให้คะแนน โดยพิจารณาจากผู้ให้บริการ LTE เชิงพาณิชย์ที่มีการพัฒนาเครือข่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสบความสำเร็จในการส่งมอบประสบการณ์การใช้งานให้กับผู้บริโภค ซึ่งทรูมูฟ เอช เป็นผู้ให้บริการรายเดียวในไทยที่มีพัฒนาการอย่างเด่นชัด และมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องจนก้าวขึ้นเป็นผู้ให้บริการ 4G ที่มีคลื่นความถี่มากที่สุด โดยมุ่งสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับเทคโนโลยี 4G และอุตสาหกรรมโทรคมนาคมไทย ด้วยคุณภาพการให้บริการที่เหนือชั้นยิ่งกว่าในทุกมิติ บนเทคโนโลยี 4G รายแรกและรายเดียวในประเทศ ที่มีทั้งคลื่น 900 MHz. ที่มีคุณสมบัติพิเศษที่ครอบคลุมทะลุทะลวงและไปได้ไกลกว่าคลื่นความถี่ย่านที่สูงกว่าถึง 3 เท่า และได้นำคลื่นความถี่หลากหลายแบนด์มารวมกัน หรือที่เรียกว่า Carrier Aggregation (CA) เสริมด้วยเทคโนโลยี 4x4 MIMO เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพความเร็วในการอัพโหลด/ดาวน์โหลดสูงที่สุด ยิ่งคลื่นมากขึ้นยิ่งเร็วขึ้น โดยสามารถให้บริการความเร็วสูงสุดถึง 300 Mbps - 1 Gbps และมีเครือข่ายที่ครอบคลุมแล้วกว่า 98% ของประชากรไทย โดยมุ่งเน้นคุณภาพการให้บริการในทุก ๆ ด้าน ทั้งเทคโนโลยีที่ดีที่สุด และมั่นใจในบริการหลังการขายที่ได้มาตรฐาน เพื่อมอบประสบการณ์การที่ดีที่สุดให้กับคนไทย
นอกจากพัฒนาการของทรูมูฟ เอชในด้านเครือข่ายแล้ว ยังได้พิจารณาถึงพัฒนาการด้านการเติบโตเชิงธุรกิจที่โดดเด่น โดยผลประกอบการในไตรมาส 2 ที่ผ่านมา ทรูมูฟ เอช มียอดลูกค้าในระบบรายเดือนเพิ่มสูงถึง 30% และระบบเติมเงินเพิ่มขึ้น 41% จากไตรมาสเดียวกันปีก่อนหน้า ส่งผลให้รายได้จากการให้บริการในธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่เพิ่มขึ้นเป็น 14.3 พันล้านบาท และมีส่วนแบ่งตลาดรายได้เพิ่มขึ้นเป็น 23.6% มีผู้ใช้บริการรายใหม่สุทธิเพิ่มขึ้น 1.1 ล้านราย ส่งผลให้ฐานลูกค้ามีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็น 21.5 ล้านรายในครึ่งปีแรก