กรุงเทพฯ--9 มิ.ย.--กฟน.
การไฟฟ้านครหลวง ได้นำแนวพระราชดำริ เศรษฐกิจพอเพียง ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาประยุกต์ใช้ร่วมกับแนวความคิดในการดำรงชีวิตให้สอดคล้องกับธรรมชาติ และสภาพเศรษฐกิจปัจจุบัน โดยนำเสนอ บ้านประหยัดพลังงาน ซึ่งมีคุณลักษณะที่โดดเด่น คือ เป็นบ้านอยู่อาศัยที่สามารถก่อสร้างได้จริง มีการเลือกเฟ้นวัสดุก่อสร้าง อาศัยพลังงานจากธรรมชาติ เพื่อลดการใช้พลังงานไฟฟ้า นอกกจากนี้ยังมุ่งเน้นไปที่การพยายามที่จะลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้ได้มากที่สุด
การไฟฟ้านครหลวงได้สร้างบ้านตัวอย่าง "ทรงไทยประยุกต์" พร้อมเข้าอยู่อาศัยได้จริง เกิดจากการผสมผสานระหว่าง แนวความคิดในการพึ่งพาธรรมชาติ กับ แนวความคิดในการออกแบบด้านสถาปัตยกรรมตามลักษณะบ้านที่เกิดจากภูมิปัญญาท้องถิ่น ซึ่งเหมาะสมกับสภาพภูมิอากาศ ภูมิประเทศและวิถีการดำเนินชีวิตแบบไทย โดยบ้านประหยัดพลังงานของการไฟฟ้านครหลวงหลังนี้จะแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพในการป้องกันความร้อนโดยเฉพาะสภาพอากาศร้อนในประเทศไทย และการดัดแปลงนำเอาพลังงานลมและแสงแดดมาใช้ประโยชน์เพื่อลดการใช้ไฟฟ้าแสงสว่างและการติดตั้งเครื่องปรับอากาศ
บ้านประหยัดพลังงานของการไฟฟ้านครหลวง มีการปลูกพืชผักสวนครัว สวนสมุนไพรรอบบ้าน ตามแนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียง และมีการปลูกต้นไม้ใหญ่เพื่ออาศัยร่มเงา ช่วยลดความร้อนรอบๆ บ้าน นอกจากนี้ในการเลือกใช้วัสดุอุปกรณ์ในการก่อสร้าง จะเน้นวัสดุที่สามารถป้องกันความร้อนและระบายความร้อนได้ดีอีกทั้งมีราคาไม่แพงสามารถประดิษฐ์ขึ้นได้ภายในประเทศ รวมถึงวัสดุตกแต่งภายในที่ประดิษฐ์ขึ้นจากธรรมชาติ กระบวนการผลิตไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม และไม่เกิดสารพิษในการใช้งาน ส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ติดตั้งภายในบ้านจะคำนึงถึงประสิทธิภาพการใช้งานและความปลอดภัยเป็นหลัก
ด้านต่างๆของอาคาร ลักษณะการรับแสงแดด การใช้สอย
ทิศตะวันออก รับแดดในช่วงเช้าตลอดปี ร้อนในช่วงสายแต่จะเย็นลงในตอนเย็น ห้องนอน (อาจเป็นทิศตะวันออกเฉียงเหนือ หรือทิศตะวันออกเฉียงใต้ก็ได้)
ทิศตะวันตก รับแดดช่วงบ่ายตลอดปีเป็นด้านที่จะมีความร้อนสูง มากที่สุดในแต่ละวัน โรงรถ ห้องเก็บของ ห้องที่ใช้งานในระยะเวลาสั้นๆ เช่น ห้องซักผ้า ห้องน้ำ ครัว ที่จอดรถ
ทิศใต้ รับแดดในช่วงสายถึงบ่ายหรือเกือบตลอดทั้งวัน เป็นระยะเวลาถึง 6 เดือน (กันยายน-มีนาคม)ทำให้ร้อนมากในตอนกลางวันและบ่าย นอกจากจะมีการบังร่มเงาให้อาคาร ห้องนอน มีระเบียงยื่นยาว
ทิศเหนือ ส่วนใหญ่จะได้รับร่มเงาเกือบตลอดทั้งปี โดยจะรับแดดเพียง ปีละ 2 เดือนเท่านั้น (กลางพฤษภาคม - กลางกรกฎาคม)อากาศทางทิศนี้จึงเย็นกว่าทางทิศอื่น ห้องที่มีการใช้กันมากในตอนกลางวัน เช่น ห้องพักผ่อนและรับประทานอาหาร ห้องรับแขก
ทั้งนี้ หลังจากที่ได้มีการประชาสัมพันธ์ออกไปมีผู้สนใจสอบถามเป็นจำนวนมาก บางรายเดินทางมาจากต่างจังหวัด เพื่อติดต่อขอซื้อแบบนำไปสร้างเนื่องจากมีความสวยงามราคาการก่อสร้างไม่แพงมากนักและยังสามารถประหยัดพลังงานได้อีกด้วย ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ดี เนื่องจากประชาชนให้ความสนใจในเรื่องการประยัดพลังงาน แบบบ้านประหยัดพลังงานมีหลายแบบ ทั้งชั้นเดียวและสองชั้น ผู้สนใจสามารถติดต่อขอแบบก่อสร้างได้ที่ สำนักงานนโยบายพลังงานแห่งชาติ หรือโทรศัพท์สอบถามได้ที่หมายเลข 612-1555 ต่อ 201-5 ในวันและเวลาทำการ--จบ--
-อน-