(ต่อ 1) รายงานอันดับหนังทำเงินประจำสัปดาห์ (17-19 มิถุนายน 2543)

ข่าวทั่วไป Wednesday June 21, 2000 16:09 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--21 มิ.ย.--www.landofsmile.com
สัปดาห์นี้ ดาราผิวสี Samuel L. Jackson สามารถพาหนังที่เขาแสดงนำเดี่ยว ขึ้นอันดับที่ 1 หนังทำเงินได้ โดยภาพยนตร์เรื่องล่าสุดของเขา Shaft ทำรายได้เปิดตัวมากกว่าหนังใหม่อีก 3 เรื่องรวมกันอีก หลังจากหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา อันดับเปลี่ยนแปลงน้อยมาก มาสัปดาห์มีการเปลี่ยนแปลงกันไม่น้อยเลยทีเดียว แต่รายได้รวมยังน้อยกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งปีก่อนมีหนังทำเงิน มากกว่า $30M+ ถึง 2 เรื่องคือ Tarzan และ Austin Powers
Shaft เป็นหนังที่ดัดแลงมาสร้างใหม่ของหนังเมื่อปี 1971 สามารถเปิดตัวครองอันดับที่ 1 ด้วยรายได้น่าพอใจที่ $21.1M. โดยมี Samuel L. Jackson เด่นอยู่คนเดียว ซึ่งเป็นการพิสูจน์บารมีดาราของเขาได้ในระดับหนึ่ง ว่าสามารถพาหนังที่ตนเองแสดงนำ ทำเงินเปิดตัวได้ดี โดยทำรายได้เฉลี่ย $9,029 ต่อโรง จากการฉาย 2,337 โรง โดยในเรื่อง Jackson รับบทเป็นฮีโรที่ต่อสู้เพื่อความยุติธรรมของกรุงนิวยอร์ค โดยมี Vanessa Williams, Christian Bale, และ "bad mutha" Richard Roundtree ร่วมแสดงนำ
รายได้เปิดตัวของ Shaft มีลักษณถใกล้เคียงกับหนังเรท R อยู่ 2 เรื่อง คือ หนังของ John Travolta เรื่อง The General's Daughter และของ Mel Gibson เรื่อง Payback. โดย Daughter เปิดตัวได้ $22.3M และทำรายได้สุดท้ายที่ $102.7M ขณะที่ Payback เปิดตัวได้ $21.2M และทำเงินไปได้ $81.5M จากรายงานทุนสร้างจำนวน $45M ของ Shaft น่าจะทำกำไรได้ แต่ต้องรอดูรายได้ในสัปดาห์ที่ 2 ก็จะพอมองเห็นว่า จะไปได้ไกลแค่ไหน และมีโอกาศเป็นหนังภาคต่อ อันทรงคุณค่าเรื่องใหม่ได้หรือไม่
แชมป์สัปดาห์ก่อน Gone in 60 Seconds รายได้ลดลง 42% ซึ่งเป็นภาพยนตร์ที่รายได้ลดลงมากที่สุดในบรรดา 10 อันดับแรก ทำเงินเพิ่มอีก $14.7M หลังจาก 10 วันที่ฉาย หนังขโมยรถของ Nicolas Cage ทำรายได้รวมแล้ว $51.9M. ซึ่งเมื่อเทียบกับหนังของ Cage ที่สร้างโดย Jerry Bruckheimer เรื่องก่อนหน้านี้ คือหนังปี 1996 เรื่อง The Rock และหนังปี 1997 เรื่อง Con Air ซึ่งทั้ง 2 เรื่อง ทำราไยด้ในสัปดาห์ที่ 2 ลดลงจากสัปดาห์แรกน้อยกว่า คือ 26% และ 35% ตามลำดับ เมื่อดูจากสถาณการ์ปัจจุบัน คาดว่า Gone in 60 Seconds น่าจะทำรายได้สุดท้ายประมาณ $85-90M.
Martin Lawrence ยังคงสามารถรักษาอันดับที่ 3 ไว้ได้ กับหนังตลกเรื่องฮิต Big Momma's House ที่ทำเงินได้อีก $11.3M หลังจากฉายไป 3 สัปดาห์ 17 วัน หนังเก็บเงินได้แล้ว $70.8M ซึ่งจะกลายเป็นหนังที่ทำเงินสูงสุด ในอาชีพการแสดงของ Lawrence และมีโอกาสอย่างสูง ที่จะทำรายได้เกิน $100M
Tom Cruise กับ Mission: Impossible 2 รายได้ลดลงตามปกติ 37% ทำเงินเพิ่มได้อีก $10.9M. ทำให้หนังจากค่าย Paramount เรื่องนี้ ทำรายได้รวมแล้วสูงถึง $176.1M รายได้แซงหน้า Rain Man ที่ทำได้ $172.8M กลายเป็นหนังทำรายได้สูงสุดเป็นอันดับที่ 3 ของ Cruise และภายในสัปดาห์นี้ รายได้ก็จะแซงหน้า Top Gun ที่ทำได้ $176.8M และท้ายที่สุด เชื่อได้เลยว่ารายได้จะแซงหน้า Mission: Impossible ภาคแรกที่ทำได้ $180.9M กลายเป็นหนังที่ทำราไยด้สูงสุดของ Cruise ได้อย่างสบายๆ ที่สำคัญ น่าจะทำรายได้ผ่านหลัก $200M ได้อีกด้วย
หนังการตูนเรื่องล่าสุดจากค่าย Fox เรื่อง Titan A.E. เปิดตัวด้วยรายได้ $9.5M หนังกำกับโดย Don Bluth และ Gary Goldman หนังว่าด้วยเรื่องราวการผจญภัยของกลุ่มคนหนุ่ม ที่รอดชีวิตจากสงครามผลาญพันธ์มนุษย์ (เอ๊ะ คุ้นๆมั้ย หนังที่เจ๊งๆหนะ) เปิดตัวในวงกว้างถึง 2,733 โรง มากที่สุดในบรรดาหนังใหม่ในสัปดาห์นี้ด้วยกัน ทำรายได้เฉลี่ยไม่ดีนัก เพียง $3,476 ต่อโรงเท่านั้น ทาง Fox คงได้แต่หวังว่าช่วงปิดเทอมนี้ จะช่วยให้รายได้ของหนัง ทำเงินได้มากกว่านี้ แต่ Titan A.E. ทำเงินในวันเสาร์ เพิ่มจากวันศุกร์เพียง 15% เท่านั้น (สงสัยติดโรคร้ายจาก Battlefield Earth เพราะเนื้อหาใกล้เคียง) เมื่อเทียบกับการตูนจากค่ายเดียวกันเรื่อง Anastasia ที่เปิดตัวได้ $14.1M และทำเงินรวม $58.4M ในอเมริกา และ $139M ทั่วโลก ดูแล้ว Titan A.E. น่าจะสู้ Anastasia ไม่ได้ เพราะต้องเจอกับคู่แข่งมากผิดปกติ ทั้ง Chicken Run, The Adventures of Rocky and Bullwinkle และ Pokemon 2 ที่กำลังจะเข้าฉายเร็วๆนี้ แถมด้วยหนังที่ฉายอยู่ ทั้ง Dinosaur และ Fantasia 2000 หนังการตูนของ Disney รุมกินโต๊ะอยู่.
เมื่อเข้าช่วงที่โรงเรียนมัธยมเปิดเทอม หนังแนววัยรุ่นก็เริ่มออกฉายทำเงิน ค่าย Miramax ส่งหนังตลกเรื่อง Boys and Girls ที่แสดงนำโดยขวัญใจวัยรุ่น Freddie Prinze Jr. และ Jason Biggs ทำรายได้ $7M จากการฉาย 1,983 โรง ทำรายได้เฉลี่ย $3,530 ต่อโรง โปรดสังเกตว่า รายได้ของ Boys and Girls ในวันเสาร์ น้อยกว่ารายได้ของวันศุกร์ นี่คือลางร้ายอย่างที่สุด เพราะนั่นแสดงว่าคนที่ดูแล้ว ไปบอกเพื่อนๆว่า อย่าไปดูเรื่องนี้เลย คาดว่ารายได้จะลดลงวูบวาบ และหายไปจากอันดับอย่างรวดเร็ว นับเป็นหนังที่ผิดหวังของ Freddie Prinze Jr. อีกครั้ง หลังจากล้มเหลวมากับ Down to You ที่เปิดตัวได้พอกัน $7.6M. คงต้องลุ้นกัยต่อไปว่าเขา จะประสบความสำเร็จอย่างที่ทำได้กับ I Know What You Did Last Summer และ She's All That อีกเมื่อไหร่
หนังการตูนจาก Disney เรื่อง Dinosaur รายได้ลดลง 34% รับ $5.8M มาอันดับที่ 7 ทำรายได้รวมแล้ว $120.5M ส่วนอันดับที่ 8 เป็นหนังที่ฉายตั้งแต่ต้นฤดู รายไดลดลงน้อยในแต่ละสัปดาห์ นั่นคือหนังของ Russell Crowe เรื่อง Gladiator รายได้ลดลง 31% รับ $4.9M รายได้รวมสบายไปแล้วที่ $158.5M รายได้รวมแซงหน้า The Mummy. เรียบร้อยโรงเรียนโรมัน
เฉินหลง (Jackie Chan) กับ Shanghai Noon รายได้ลดลง 40% มาที่ 9 ด้วยรายได้ $3.6M. หนังของ Buena Vista เก็บเงินรวมได้แล้ว $47.8M จาก 24 วัน และปิดท้ายอันดับ 10 ด้วย Road Trip ทำเงิน $3.1M ลดลง 37% รวม $60.2M.
หลังจากประสบความสำเร็จอย่างสูง กับการฉาย 4 เดือนในระบบ IMAX หนังการตูนของ Disney เรื่อง Fantasia 2000 ก็เริ่มฉายในโรงภาพยนตร์ปกติ ทำรายได้ $2.8M จากการฉาย 1,313 โรง ทำรายได้เฉลี่ยเพียง $2,148 เท่านั้น หลังจากรายได้รวม $49.6M จากการฉาย 54 โรง Imax มาครั้งนี้ Fantasia 2000 จะฉายอีกเพียง 4 สัปดาห์ (ไม่รู้จะเรื่องมาก ฉายวงจำกัดอีกทำไม จะเปิดตัวจริงอีกหรือ คนดูรู้สึกสับสน พาลไม่อยากดู หรืออาจเป็นความรู้สึกผมคนเดียว)
เมื่อมีหนังใหม่เข้าอันดับมา 3 เรื่อง โดยสัจธรรมแล้ว ย่อมต้องมีหนัง 3 เรื่อง ที่หลุดออกจากอันดับไป ได้แก่ Frequency (รายรับรวม $42M. น่าจะทำได้ประมาณ $45-48M.) , Small Time Crooks (รายรับรวม $14.8M. น่าจะทำได้ประมาณ $17-20M.) และ U-571 (รายรับรวม $74.1M น่าจะทำได้ประมาณ $75-77M)
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและเยี่ยมชม web site ได้ที่ www.landofsmile.com-- จบ--
-อน-

แท็ก ภาพยนตร์  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ