กรุงเทพฯ--3 ต.ค.--All Success PR
"อาหารไทย" บ่งบอกวิถีชีวิตและวัฒนธรรมความเป็นไทย อาหารแต่ละภาคล้วนมีเรื่องราวของวิถีชีวิต และวัฒนธรรมจากโบราณจนถึงยุคปัจจุบันที่แฝงไว้ ถือเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้มาลิ้มลอง ล่าสุดจังหวัดภูเก็ตได้รับการยกย่องจาก "ยูเนสโก" ให้เป็น 1 ใน 18 เมืองสร้างสรรค์ด้านวิทยาการอาหารของโลกเป็นเมืองแรกของไทยและอาเซียน เพื่อต่อยอดธุรกิจการท่องเที่ยว พร้อมยกระดับอาหารไทยพื้นเมืองให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายมากขึ้น การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จึงได้ร่วมกับ เทศบาลนครภูเก็ต จัดงาน "Phuket Tasty Fest 2016" ภายใต้แนวคิด "ที่กินที่เที่ยว ที่เดียวกัน" ณ ถนนถลาง และสวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา มหาราชินี จังหวัดภูเก็ต พร้อมเชิญชวนนักท่องเที่ยว ร่วมลิ้มลองและท้าพิสูจน์อาหารถิ่นจานเด็ดของจังหวัดภูเก็ต และจานดังจานเด็ดจากภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วประเทศ ส่งเสริมนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจสอดรับกับปีที่รัฐบาลจัดให้เป็นปีท่องเที่ยววิถีไทย
นายมรกต สุดดี ผู้อำนวยการกองสร้างสรรค์กิจกรรม การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จัดงาน "เทศกาล Phuket Tasty Fest 2016" มุ่งหวังเป็นงานที่รวบรวมสุดยอดอาหารพื้นเมืองดั้งเดิมของภูเก็ต ผนวกกับเมนูอาหารที่ได้รับการผสมผสานทางวิทยาศาสตร์และศิลปะเข้าด้วยกัน จนเกิดเป็นเมนูใหม่ ๆ ที่น่าลิ้มลอง โดยใช้วัตถุดิบพื้นเมือง อีกทั้งยังได้รวบรวมร้านอาหารดังจากทั่วประเทศมาในงานนี้ อาหารถือเป็นสิ่งที่บ่งบอกเอกลักษณ์ของท้องถิ่นไม่ว่าจะเป็นเชิงกายภาพ เช่น การเกษตร ภูมิประเทศ และภูมิอากาศ หรือจะเป็นเชิงจิตใจ เช่น วิถีชีวิต ขนบธรรมเนียม การแสดงออกของท้องถิ่นผ่านวัฒนธรรมด้านอาหาร ถือเป็นหัวใจสำคัญที่จะเชื่อมโยงระหว่างคนท้องถิ่น กับบุคคลจากภายนอก ซึ่งนั่นหมายความว่าวัฒนธรรมอาหารนั้นมีความสามารถที่จะเป็นสินค้าด้านการท่องเที่ยว ให้แก่ชุมชนท้องถิ่นได้เป็นอย่างดี ทำให้การท่องเที่ยวเพื่อการเรียนรู้ด้านอาหาร (Gastronomy Tourism) จะเป็นอีกแนวทางหนึ่งในการพัฒนาการท่องเที่ยวในท้องถิ่นให้มีรายได้เพิ่ม โดยที่ชุมชนท้องถิ่นไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนวิถีการดำรงชีวิตของตนเองไป สอดคล้องต่อที่ตนเองก็ได้รับนโยบายจากท่านนายกรัฐมนตรี ให้ส่งเสริมการค้าการลงทุน และสร้างมูลค่าเพิ่มจากเมืองท่องเที่ยวเพื่อนำรายได้เข้าประเทศ จึงอยากขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวเข้ามาท้าพิสูจน์อาหารพื้นเมืองของจังหวัดภูเก็ตที่หาทานได้ยาก"
ในการนี้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จึงได้จัด Media Fam Trip พาสื่อมวลชนลงพื้นที่ ร่วมสัมผัสแหล่งอาหารและมรดกโลก ที่จังหวัดภูเก็ต 2 วัน 1 คืน มื้อแรกต้อนรับคณะกันด้วยติ่มซำฮาลาล ร้านระฟ้า อาหารเช้าที่คนภูเก็ตนิยมรับประทาน จากนั้นควงแขนเซเลบริตี้เชฟชื่อดัง เชฟปิง-สุรกิจ เข็มแก้ว เจ้าของฉายาเชฟกระทะหล่อ ที่จะพาเหล่าลูกทริปมาร่วมจ่ายตลาดช้อปอาหารและวัตถุดิบสดใหม่ กันที่ตลาดสดเทศบาลเทพกระษัตรี พร้อมเผยเคล็ดลับการเลือกซื้อวัตถุดิบแต่ละชนิด เพื่อนำมาปรุงอาหารมื้อค่ำสุดพิเศษกันบนเรือยอร์ช นอกจากนี้ยังพาคณะ เยี่ยมชมบ้านบางโรง ชุมชนเก่าแก่ที่นับถือศาสนาอิสลาม ชาวบ้านประกอบอาชีพประมงพื้นบ้าน ทำสวนและรับจ้าง หมู่บ้านตั้งอย่ระหว่างภูเขากับทะเล มีน้ำตก พร้อมทั้งทรัพยากรธรรมชาติที่สมบูรณ์ เป็นแหล่งดึงดูดนักท่องเที่ยวทีชื่นชมในธรรมชาติให้เข้ามาเที่ยวในชุมชน ชาวชุมชนบ้านบางโรงได้จัดตั้งกลุ่ม "ท่องเที่ยวเกษตรเชิงอนุรักษ์บ้านบางโรง" ขึ้นเพื่อจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ภายในชุมชน ด้วยเสน่ห์และศักยภาพของชุมชนรวมถึงการบริหารจัดการที่ดี ทำให้ชุมชนแห่งนี้ได้รับรางวัลชุมชนดีเด่นด้านการอนุรักษ์ป่าชายเลนจากการประกวดรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย หรือรางวัลกินรี ประจำปี 2553 จากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และยังกวาดรางวัลชนะเลิศและเกียรติคุณดีเด่นอีกหลายสถาบัน โดยมีกิจกรรมหลากหลายให้ผู้ที่มาท่องเที่ยวได้ร่วมสนุก อาทิ ชมวิถีชุมชนบางโรง ชมการเลี้ยงปลากะพงขาว กะพงแดง ปลาเก๋าในกระชังปลาที่ชาวบ้านเลี้ยงไว้ในทะเล เยี่ยมชมฟาร์มแพะ ดูวิธีการเลี้ยง สาธิตการรีดนมแพะ และชิมนมแพะกันสดๆ มื้อค่ำพาคณะไปล่องเรือสุดชิล ที่ Phuket Yacht Haven Marina พร้อมปาร์ตี้สนุกสนานบนเรือ และรับประทานอาหารที่เซเลบบริตี้เชฟได้ครีเอทเมนูพิเศษไว้ต้อนรับคณะ
นอกจากนี้ยังได้พาคณะสื่อมวลชนเดินทางสู่ชุมชนบ้านท่าฉัตรไชย ชมการเลี้ยงกุ้งมังกร 7 สี ในกระชังที่ชาวบ้านเพาะเลี้ยงโดยวิธีธรรมชาติ รวมทั้งเยี่ยมชมดูวิถีชีวิตของชุมชนบ้านท่าฉัตรไชย บ้านท่าฉัตรไชยนั้นนอกจากจะมีคนในพื้นที่มีชาวเลแล้ว ที่นี่ยังเป็นที่รวมของคนจากทุกจังหวัด ทำให้มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม และมีกลุ่มอาชีพต่างๆ เกิดขึ้นจำนวนมาก เช่น กลุ่มรักบาติก กลุ่มทำปลาเค็มที่อร่อยที่สุด นอกจากนั้น ยังมีวิถีชีวิตอื่นๆ อีกหลายอย่างที่ทางชาวบ้านเตรียมไว้ต้อนรับนักท่องเที่ยว
แวะซื้อของฝาก ณ ร้านคุณแม่จู้ "สุดยอดของฝากจากภูเก็ต" ที่มีทั้งของที่ระลึก หัตถกรรม และอุตสาหกรรมแปรรูปอาหารพื้นเมือง ที่มีชื่อเสียง จนเป็นสัญลักษณ์ของชาวใต้ โดยเฉพาะชาวจังหวัดภูเก็ต ร้านคุณแม่จู้ภูเก็ต สืบทอดมาจากบรรพบุรุษมายาวนาน กว่า 70 ปี จากผลิตภัณฑ์แกงไตปลา และน้ำพริกกุ้งเสียบ กับร้านเล็กๆ ของผู้หญิงชาวบ้านสะปำที่ชื่อ คุณแม่หงวดจู้ สันติกุล จนถึงปัจจุบัน ได้มีการคิดค้นพัฒนาอาหารพื้นเมือง ที่มากด้วยคุณค่าทางโภชนาการอย่างหลากหลาย อาทิ น้ำพริกสูตรคุณแม่จู้ภูเก็ต กว่า 50 ชนิด ขนมเต้าส้อกว่า 10 รสชาติ ปิดทริปเพื่อโปรโมทแหล่งอาหารและมรดกโลก ที่กินที่เที่ยวที่เดียวกันที่ จ.ภูเก็ตอย่างสนุกสนานประทับใจ