กรุงเทพฯ--3 ต.ค.--นิสสัน มอเตอร์
เมื่อเร็วๆนี้ พันธมิตรเรโนลต์-นิสสัน ร่วมลงนามกับไมโครซอฟท์ ผู้ผลิตระบบปฏิบัติการด้านไอทีระดับโลก ในการบรรลุข้อตกลงการร่วมพัฒนาระบบเชื่อมต่อของการขับขี่รถยนต์เพื่อสร้างประสบการณ์ในยุคหน้า
ภายใต้ข้อตกลงที่สำคัญนี้ ทุกบริษัทจะทำงานร่วมกันในการพัฒนาบริการเชื่อมต่อสำหรับรถยนต์ในอนาคตด้วย Microsoft Azure ระบบปฏิบัติการในรูปแบบคลาวด์อัจฉริยะ สำหรับบริการใหม่ในรูปแบบต่างๆเหล่านี้จะช่วยสร้างประสบการณ์ของลูกค้ามากมาย อาทิ ระบบนำทางขั้นสูง, การคาดการณ์ของการบำรุงรักษารถยนต์ตามระยะที่แม่นยำสูงจากข้อมูลที่ได้จากตัวรถยนต์เป็นหลัก บริการตรวจสอบระยะไกลในอุปกรณ์ต่างๆของรถยนต์, การใช้รถยนต์ร่วมกับอุปกรณ์สื่อสารเช่น สมาร์ทโฟนต่างๆ ไปจนถึงการอัพเดทข้อมูลต่างๆของรถแบบไร้สาย
มร. โอกิ เรดซิค (Ogi Redzic) รองประธานอาวุโสของพันธมิตรเรโนลต์นิสสันด้านการเชื่อมต่อและอุปกรณ์สื่อสาร (Senior Vice-President, Connected Vehicles and Mobility Services, Renault-Nissan Alliance) "รถยนต์ในอนาคตจะเชื่อมต่อได้อย่างอัจฉริยะ มีความเป็นส่วนตัว และยังมีหลากหลายรูปแบบมากขึ้น ด้วยการร่วมมือกับไมโครซอฟท์ จะช่วยให้เราสามารถบรรลุถึงการพัฒนาเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง ตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าของเรามากขึ้น รวมถึงโอกาสในการแนะนำบริการรูปแบบใหม่ๆที่นอกเหนือจากความคาดหมายของลูกค้า ซึ่งทั้งหมดนี้เกิดจากความมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้ให้บริการที่สามารถเชื่อมต่อต่างๆ ภายใต้แพลตฟอร์มเดียวกันทั่วโลก"
พันธมิตรเรโนลต์-นิสสัน ถือเป็นผู้ผลิตรถยนต์ที่บุกเบิกระบบขับขี่อัจฉริยะอัตโนมัติ หรือ Autonomous Driving สำหรับตลาดรถยนต์ในปัจจุบัน โดยมีเป้าหมายการพัฒนาเทคโนโลยีการเชื่อมต่อต่างๆเพื่อรองรับการเปิดตัวรถยนต์อีกกว่า 10 รุ่นภายในปี 2020 และด้วยความมุ่งมั่นนี้ พันธมิตรเรโนลต์-นิสสัน ได้พัฒนาบริการในรูปของระบบเชื่อมต่อและแอพพลิเคชัน ที่จะช่วยให้ลูกค้าสามารถเชื่อมต่อทั้งด้านการทำงาน การใช้ชีวิตส่วนตัว ผ่านศูนย์กลางที่เป็นรถยนต์ ในขณะที่ระบบปฏิบัติการ Microsoft Azure ที่ทำงานผ่านระบบคลาวน์ จะทำให้ทั้งเรโนลต์และนิสสันสามารถนำเสนอรูปแบบของการให้บริการลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น ด้วย ข้อเด่นของระดับของการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดตามมาตรฐานของไมโครซอพต์ ระบบปฏิบัติการ Azure ยังสนับสนุนระบบปฏิบัติการในโปรแกรมอีกหลายภาษาผ่านเครื่องมือต่างๆ ที่มีความยืดหยุ่น พร้อมเสนอทางเลือกในการสร้างแพลตฟอร์มร่วมกันเฉพาะสำหรับทั้งเรโนลต์และนิสสันเพื่อปรับแต่งการบริการให้กับทั้งสองแบรนด์พันธมิตรอีกด้วย
มร. ฌองน์-ฟิลิปเป กูร์ตัว รองประธานบริหารและ ประธานบริษัท ไมโครซอฟท์ โกลบอล เซลส์และมาเก็ตติ้ง (Jean-Philippe Courtois, executive vice president and president, Microsoft Global Sales, Marketing and Operations) กล่าวเสริมว่า "ปัจจุบันรูปแบบของการเชื่อมต่อยังอยู่ในระยะเริ่มต้น แต่เราเชื่อว่าสิ่งเหล่านี้จะเป็นก้าวกระโดดที่สำคัญของการพัฒนาและสามารถเปลี่ยนแปลงรูปแบบของการใช้รถยนต์ได้อย่างรวดเร็ว การพัฒนาร่วมกันของเรโนลต์-นิสสันและไมโครซอฟต์ จะนำประสบการณ์ใหม่ๆมาสู่ลูกค้าของทั้งเรโนลต์และนิสสัน รวมถึงมาตรฐานใหม่ในการเชื่อมต่อระหว่างรถยนต์และอุปกรณ์สื่อสารต่างๆ"
เทคโนโลยีเด่นสำหรับการเชื่อมต่อและการสื่อสารในยุคหน้า: ด้วยความร่วมมือครั้งนี้จะนำไปสู่การพัฒนาในรูปแบบของอินโฟเทนเมนต์ (Infotainment) ที่ดีที่สุดรวมถึงการให้บริการบนพื้นฐานของสถานที่ไม่ว่าจะเป็น:
· ลูกค้าสามารถปรับแต่งและวางระบบป้องกันการตั้งค่าต่างๆ
ลูกค้าสามารถปรับแต่งการตั้งค่าของพวกเขาได้อย่างปลอดภัย รวมถึงมีตัวเลือกในการถ่ายโอนการตั้งค่าจากรถคันนึงไปสู่คันอื่นๆ หรือเลือกที่จะไม่ให้มีการถ่ายโอนข้อมูลก็ได้ ด้วยการเพิ่มข้อมูลจากการใช้รถแบบรวมศูนย์ การขับขี่ต่างๆจะมีความเป็นส่วนบุคคลมากขึ้นและช่วยสำหรับให้คำแนะนำในเส้นทางและระบบนำทางขั้นสูงอีกด้วย
· สามารถพัฒนาเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าที่หลากหลาย
ด้วยความร่วมมือกับ Microsoft, ทั้งเรโนลต์และนิสสันจะขยายขอบเขตของการพัฒนาเข้าไปในสู่ฟังก์ชันของรถ เปลี่ยนการเดินทางทุกวันเป็นประสบการณ์ดีๆอย่างต่อเนื่องรวมถึงบูรณาการประสบการณ์บนโลกดิจิตอลไม่ว่าจะอยู่ในที่ต่างหรือระหว่างการใช้รถ
· เข้าถึงและอัพเดตตลอดเวลา .
ลูกค้าจะสามารถอัพโหลด ดาวน์โหลดหรืออัพเดตข้อมูลต่างๆตลอดเวลา ตัวอย่างเช่น ระบบซอฟต์แวร์ของการขับเคลื่อนระบบขับขี่อัจฉริยะอัตโนมัติ (Autonomous Drive Software) หรือแอพพลิเคชันที่ช่วยหลีกเลี่ยงการชนกันตัวล่าสุด
· ติดต่อลูกค้าได้อย่างใกล้ชิด
ลูกค้าจะสามารถตรวจสอบและสื่อสารในกำหนดการต่างๆหรือแจ้งเตือนเพื่อการปรับเปลี่ยนแผนการเดินทาง นอกจากนี้ยังสามารถใช้การชำระเงินแบบอัตโนมัติในการใช้ทางพิเศษหรือโทลเวย์ต่างๆ รวมไปถึงชำระค่าที่จอดรถได้ภายในรถ
· ตรวจสอบรถยนต์ได้จากระยะไกล
เจ้าของรถยนต์สามารถตรวจสอบรถของตัวเองได้ผ่านทางอุปกรณ์สื่อสารต่างเช่น สมาร์ทโฟน และยังถ่ายโอนการควบคุมไปยังเพื่อนหรือญาติที่ต้องการใช้รถของพวกเขา โดยไม่ต้องมีการเข้าถึงรถยนต์คันจริง พวกเขาจะใช้แอพพลิเคชันที่ช่วยให้พวกเขาทราบถึงตำแหน่งที่อยู่ของรถ หรือการล็อคและปลดล็อครถคันนั้นๆได้
· ปกป้องรถยนต์ในรูปแบบใหม่ๆ
ซอฟต์แวร์ติดตามรถที่ถูกขโมย สามารถปิดระบบต่างๆขณะใช้งาน รวมถึงเทคโนโลยี "Geofencing" ที่จะสร้างรั้วที่มองไม่เห็นรอบๆ รถคันนั้นขณะเคลื่อนที่ เข้าหรือออกจากพื้นที่ที่กำหนดไว้ล่วงหน้าหรือแนวเส้นทาง
· เพิ่มประสบการณ์ของการใช้รถยนต์
ด้วยการเพิ่มจำนวนของการเชื่อมต่อ ลูกค้าจะสามารถเข้าถึงบริการตรวจสอบวินิจฉัยอย่างทันที ที่จะช่วยให้ผู้ผลิตรถยนต์มอบการบริการและการแก้ปัญหาทางเทคนิคต่างๆ รวมถึงการเก็บรวบรวมข้อมูลการใช้งานจริง ในการปรับปรุงคุณภาพการออกแบบ วิจัยและผลิตรถยนต์ เป็นต้น