กรุงเทพฯ--3 ต.ค.--
เรื่องราวกำลังดำเนินไปอย่างเข้มข้น ทั้งดราม่าและบู๊สำหรับละครเรื่อง "บัลลังก์หงส์" ทางช่อง 7 สี ที่ไม่ใช่บู๊กันแค่ในเมืองไทย ทางผู้จัดฯ และผู้กำกับฯ "ตั้ว-ศรัณยู วงษ์กระจ่าง" ยกกองไปถ่ายทำกันที่ประเทศเกาหลีในช่วงเวลาที่อากาศกำลังหนาวเหน็บอย่าบอกใคร แต่ไม่ได้ไปเก็บแค่มุมภาพสวยๆ เหมือนละครทั่วไป ยังพานางเอก "ใบเฟิร์น-พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์" และพระเอก "ไมค์-ภัทรเดช สงวนความดี" ไปลุยบู๊ไกลถึงเกาหลีด้วย และยังกลับมาต่อดราม่าบ่อน้ำตาแตกกันต่อที่สตูดิโอที่เมืองไทยในฉากต่อเนื่อง เป็นการถ่ายทำฉากบู๊ที่หฤโหดและต่อเนื่องยาวไกลข้ามประเทศกันเลยทีเดียวกับฉากนี้
กับฉากที่ปริวัตร(ไมค์ ภัทรเดช)ที่เดินทางมาเกาหลีพร้อมกับคณะของคุณนาย"หลี่ซวง(เพ็ญพักตร์ ศิริกุล)และหลานสาวสิริวิมล (พลอย-รัญดภา มันตะลัมพะ)มาติดต่อธุรกิจกับมิสเตอร์คิม(สุเชาว์ พงษ์วิไล) จอมขวัญ (ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก) พาปริวัตรไปเดินเที่ยวที่คลองชองเกชอน เป็นคลองโบราณ ตั้งแต่สมัยราชวงศ์โชซอนของเกาหลี แต่กลับเจอกับสามนักฆ่าจากญี่ปุนที่ถูกส่งมาจากฝ่ายศัตรูบุกเข้าทำร้ายเธอ จอมขวัญสู้จนจนมุมเกือบพลาดท่าถูกฆ่า โชคดีปริวัตรพุ่งเข้าปกป้องเธอทำให้เค้าโดนลูกดอกอาบยาพิษขั้นรุนแรง จอมขวัญโทรหามิสเตอร์คิมให้ช่วยปริวัตร มิสเตอร์คิมให้จอมขวัญพาปริวัตรข้ามเรือไปหาหมอญี่ปุ่นที่เกาะ และลงไปหาที่เก็บยาถอนพิษที่ห้องใต้ดิน จอมขวัญลนลานสติแตกเมื่อปริวัตรอาการหนักถึงขั้นสุด มิสเตอร์คิมต้องคอยเตือนดึงสติทางโทรศัพท์ให้หายาถอนพิษให้เจอ จอมขวัญต่อยกำแพงจนทะลุเพื่อเอายาถอนพิษมาจุดเผาไฟล้อมรอบตัวปริวัตรเพื่อถอนพิษ เมื่ออาการหนาวของปริวัตรไม่ดีขึ้น จอมขวัญยอมถอดเสื้อตัวเองแล้วนอนโอบกอดปริวัตรไว้ทั้งคืนจนอาการดีขึ้น
เป็นฉากที่ผู้กำกับ ตั้ว ศรัญยู วงษ์กระจ่าง ที่รับหน้าที่เป็นคนเขียนบทเองด้วย แบ่งการทำงานฉากนี้เป็นสองส่วน โดยส่วนที่เป็นฉากบู๊ของพระนางจนได้รับบาดเจ็บและต้องเดินทางไปรักษาตัวเป็นฉากที่ต้องมีภาพสถานที่จริงในประเทศเกาหลีเป็นการยืนยันสถานที่
ซึ่งในการทำงานส่วนนี้เป็นการเดินทางไปถ่ายทำละครและการทำงานกำกับในต่างประเทศครั้งแรกของผู้กำกับ ตั้ว ศรัญยู และครั้งแรกของสองนักแสดง "ใบเฟิร์น-พิมพ์ชนก" และ "ไมค์-ภัทรเดช" ด้วยเช่นกัน ซึ่งแต่ละคนเป็นมือใหม่กับการทำงานต่างประเทศ และในวันที่ถ่ายทำฉากบู๊ฉากนี้ ทีมงานและนักแสดงยังต้องเจอกับสภาพอากาศที่หนาวติดลบของเกาหลีที่แตกต่างจากเมืองไทยโดยสิ้นเชิง แต่ละคนคนมีอาการหนาวสั่นต้องหาเสื้ออย่างหนามาห่อตัวกันไป และที่หนักยิ่งกว่าทางทีมงานต้องร่วมงานกับทีมสตั้นแมนจากเกาหลีอีกด้วย ใบเฟิร์นนั้นยิ่งหนักกว่าหลายขั้นเพราะคิวบู๊มาหนักอยู่ที่ใบเฟิร์นมากกว่าไมค์ ใบฟิร์นต้องซ้อมคิวบู๊กับสตั้นแมนชาวเกาหลีผ่านล่ามแปลกันอีกทอดนึง
และเมื่อซ้อมคิวบู๊กันแล้วยิ่งไม่ใช่บู๊ธรรมดา เพราะตามบทสตั้นแมนทั้งสามรับบทเป็นนินจานักฆ่าจากญี่ปุ่น คิวบู๊นี่ต้องผาดโผนมีให้ใบเฟิร์นกระโดดขี่คอและหักคอนักฆ่า เรียกว่าเห็นคิวบู๊บวกกับความหนาวทำเอาสาวใบเฟิร์นเกือบท้อ แต่ก็ขอสู๊ตาย ยิ่งซ้อมและถ่ายทำได้ออกกำลังเริ่มหายหนาวขึ้น สาวเฟิร์นเลยสู้ตาย ฝ่ายไมค์บทไม่ต้องบู๊เยอะเน้นคอยหลบเพราะไม่ใช่เป้าหมายของนักฆ่า เป็นคิวบู๊ที่ถ่ายกันหนักหน่วงกว่าจะผ่านไปได้ และยังมีไปถ่ายต่อเนื่องที่จอมขวัญนางเอกต้องแบกร่างที่เกือบหมดสติเพราะไปรับลูกดอกอาบยาพิษแทนจอมขวัญของปริวัตรไปหาหมอชาวญี่ปุ่นรักษา เป็นการถ่ายทำซีนดราม่าสติแตกของนางเอกที่กลัวพระเอกตายขณะแบกพระเอกไปหาหมอท่ามกลางวิวบ้านโบราณในฤดูหนาวของเกาหลี เป็นซีนดราม่าท่ามกลางอากาศหนาวเหน็บที่ดูแล้วสวยซึ่งแปลกตา ที่การัณตีภาพสวยโดยผู้กำกับตั้ว
และการัณตีความหนาวเหน็บในการถ่ายทำโดย "ใบเฟิร์น-พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์"
"บัลลังก์หงส์เป็นละครเรื่องแรกที่หนูได้ไปถ่ายทำต่างประเทศ เพิ่งรู้ค่ะว่าเหนื่อยมาก (ลากเสียงยาว) ทีแรกคิดเอาไว้ว่า อุ้ย ไปเกาหลีต้องสวยแน่ๆ รักโรแมนติกแน่ แต่พอเห็นบทออกมาบู๊ไปซะครึ่งแล้ว (หัวเราะ) ด้วยเนื้อเรื่องจะประมาณว่า เราไปเป็นคนใหม่ที่นั่น ไปฝึกวิชาบู๊ ฝึกสภาพจิตใจทุกอย่างที่เกาหลี เพื่อจะได้กลับมาแก้แค้น เบื้องหลังการถ่ายทำก็อย่างที่บอก เหนื่อยมาก พวกเรามีเวลานอนกันวันนึงไม่กี่ชั่วโมง ช่วงที่เดินทางไปถ่ายละครอากาศหนาวประมาณลบ 6 องศาได้ค่ะ หนาวจนพูดไม่รู้เรื่อง แล้วต้องมีถ่ายทำซีนบู๊ๆ ที่เกาหลีด้วย ในการถ่ายทำฉากนี้หนูก็หนาวมาก ขานี่ยกไม่ขึ้นเลย คือ มันหนาวจนขามันแข็งไปหมด แล้วหนูต้องวิ่งขึ้นไปนั่งพาดคอสตั๊น หักคอสตั๊น บู๊นี่คือบู๊แบบจริงจังเลย เล่นกับสตั๊นด้วยมือเปล่า ปืน มีด และดาบมาครบ ต้องทำให้ได้หมด คือในเรื่องนี่เก่งกว่าผู้ชาย เตะต่อยแทนพระเอก อุปสรรคในการถ่ายทำฉากนี้ คือ พี่ตั้ว (ศรัณยู วงษ์กระจ่าง) ชอบให้เล่นคิวยาว แล้วสตั๊นเค้าก็ใส่คิวเต็มมา เราก็ต้องจำหลบซ้ายหลบขวา แล้วหลบไรต่อนะ คือลุ้นฉี่จะราดทุกคิวเลย กลัวผิดคิว แต่สนุกดีค่ะ ได้ทำอะไรแบบที่ไม่เคยทำมาก่อน ได้อารมณ์ไปอีกแบบ พี่ตั้วเลือกไปถ่ายทำในที่ที่ไม่ค่อยมีคนไปถ่าย เป็นสถานที่ที่แบบยากมาก แล้วกันคนก็ยาก เพราะที่เกาหลีเค้าเคารพเรื่องสิทธิกันมาก เราก็ต้องหาจังหวะถ่ายกันเอาเอง แต่ทุกอย่างก็ผ่านไปได้ด้วยดีค่ะ เพราะทุกคนร่วมแรงร่วมใจกัน"
เสร็จจากการถ่ายทำในส่วนของฉากที่ต้องยืนยันสถานที่ถ่ายทำในเกาหลีแล้ว ผู้กำกับแบ่งส่วนของฉากที่ถ่ายทำในห้องใต้ดินช่วงที่จอมขวัญพาปริวัตรมารักษาตัวถอนพิษจากลูกดอกนินจาที่บ้านหมอชาวญี่ปุ่นที่มาอาศัยอยู่ในเกาหลี แต่หมอไม่อยู่จอมขวัญเลยถือวิสาสะพาปริวัตรลงไปในห้องใต้ดินของบ้านตามคำแนะนำทางโทรศัพท์จากมิเตอร์คิม เป็นซีนต่อเนื่องที่มายกมาถ่ายทำกันที่เมืองไทย โดยจัดฉากห้องใต้ดินกันที่สตูดิโอพญานาค ย่านเลียบด่วนเอกมัย-รามอินทรา เป็นซีนที่บทดราม่าหนักอยู่ที่ใบเฟิร์นที่เกิดอาการสติแตกลนลานหาตัวยาถอนพิษในที่ซ่อนให้ทันการก่อนพระเอกจะตาย ต้องมีการทุบกำแพงเพื่อเอาตัวยาที่ซ่อนมาจุดไฟเผายารมควันพระเอกตามขั้นตอนการถอนพิษ ระหว่างรักษาก็ต้องดราม่าร้องไห้หนักเพราะกลัวพระเอกตาย ซึ่งได้ผู้กำกับตั้วคอยบิ้วอารมณ์ใกล้ชิดทุกชอตเลยทีเดียว และที่เด็ดสุดตอนท้ายของซีนที่นางเอกต้องถอดเสื้อเปลือยท่อนบนและกระชากเสื้อพระเอกออกจากตัวแล้วโผเข้ากอดใช้ร่างกายสร้างความอบอุ่นให้พระเอกที่กำลังลังหนาวสั่นเพราะฤทธิ์ของยาพิษ เป็นอีกซีนเซ็กซี่ของพระนางท่ามกลางบรรยากาศดราม่า ภาพที่ถ่ายออกมาดราม่าซึ้งและเซ็กซี่ทีเดียว แต่เบื้องหลังรับประกันการเซฟตี้ป้องกันโป้ให้นักแสดงแบบสุดๆ ใบเฟิร์นโดนจับใส่เกาะอกสีเนื้อ พร้อมมีฝ่ายเสื้อผ้าถือเสื้อคลุมตามประกบให้ตลอด ตอนถ่ายทำผู้กำกับตั้วก็ให้อยู่หน้าฉากเฉพาะทีมงานที่จำเป็นเท่านั้น ซึ่งการถ่ายทำก็เป็นไปอย่างราบรื่น ถ่ายเสร็จสาวใบเฟิร์นนั้นตาช้ำเบาๆ ฝ่ายหนุ่มไมค์รับบทป่วยหนักในฉาก ถ่ายทำวันนี้เลยนอนเป็นคนป่วยอย่างเดียว บทพูดก็ไม่มี ทำเอาวันนี้เจอนางเอกแอบค้อนไปหลายตลบ เพราะบทหนักอยู่ที่ใบเฟิร์นคนเดียวจริงๆวันนี้
ติดตามวิวสวยๆของเกาหลีและเรื่องราวความเข้มข้นของคิวบู๊และความดราม่าของฉากนี้ได้ในละคร บัลลังก์หงส์ วันอังคารที่ 5 ตุลาคม นี้ เวลา 20.30 น.ทางช่อง7