กรุงเทพฯ--5 ต.ค.--บลจ.กสิกรไทย
บลจ.กสิกรไทย ส่งกองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศอายุโครงการ 3 เดือน และ 6 เดือน เสนอขายต่อเนื่อง ชูโอกาสรับผลตอบแทน 1.45% - 1.55% ต่อปี เปิดเสนอขาย 4-10 ตุลาคมนี้
นายนาวิน อินทรสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการและประธานบริหารการลงทุนต่างประเทศ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ.กสิกรไทย) เปิดเผยว่า ในระหว่างวันที่ 4 - 10 ตุลาคม 2559 บลจ.กสิกรไทยจะเปิดเสนอขายกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ต่างประเทศ 6 เดือน ซีบี (KFF6MCB) ประมาณการผลตอบแทนที่ผู้ถือหน่วยลงทุนคาดว่าจะได้รับที่ 1.55% ต่อปี และกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ต่างประเทศ 3 เดือน เออี (KFF3MAE) ประมาณการผลตอบแทนที่ผู้ถือหน่วยลงทุนคาดว่าจะได้รับที่ 1.45% ต่อปี โดยทั้ง 2 กองทุนดังกล่าวมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน และสำหรับผู้ลงทุนบุคคลธรรมดาไม่ต้องเสียภาษี
สำหรับภาวะตราสารหนี้ในสัปดาห์ที่ผ่านมา นายนาวินกล่าวว่า "อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยปรับตัวลดลงในตราสารระยะยาว ซึ่งปรับตัวสอดคล้องตามอัตราผลตอบแทนพันธบัตรโลกที่ปรับลงเนื่องจากความกังวลของตลาดเกี่ยวกับข่าวธนาคารดอยซ์แบงก์ อย่างไรก็ตามสถานการณ์ล่าสุดวานนี้ นักลงทุนต่างชาติยังมีแรงเข้าซื้อในตลาดพันธบัตรไทย สะท้อนให้เห็นว่านักลงทุนเริ่มคลายความกังวลเกี่ยวกับดอยซ์แบงก์ภายหลังจากมีการออกมาเจรจาต่อรองลดค่าปรับและเตรียมบรรลุข้อตกลงกับทางการสหรัฐฯ ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ วานนี้ปรับตัวขึ้นหลังจากตัวเลขการผลิตเดือนกันยายนที่ออกมาดีกว่าที่ตลาดคาด ทำให้นักลงทุนเพิ่มการคาดการณ์เรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯ ปีนี้ อย่างไรก็ตามธนาคารกลางสหรัฐฯยังคงมีความระมัดระวังในการปรับขึ้นดอกเบี้ย พร้อมคาดว่าจะเป็นการปรับขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไปเนื่องจากยังมีปัจจัยเรื่องความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก"
นายนาวินกล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับนักลงทุนที่ยอมรับความเสี่ยงได้ไม่มากนัก หรือผู้ที่ต้องการแบ่งเงินลงทุนเพื่อกระจายความเสี่ยงมาลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ บลจ.กสิกรไทยได้เปิดเสนอขายกองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศประเภทกำหนดอายุโครงการเป็นประจำทุกสัปดาห์เพื่อเป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการล็อกผลตอบแทนที่แน่นอน โดยสามารถเลือกลงทุนเป็นเวลา 3 เดือน หรือ 6 เดือน ทั้งนี้สำหรับ กองทุน KFF6MCB ที่มีอายุโครงการ 6 เดือน เบื้องต้นคาดว่าจะเข้าไปลงทุนในเงินฝาก Bank of China, เงินฝาก Commercial Bank of Qatar, ประเทศกาตาร์, เงินฝาก First Gulf Bank และเงินฝาก Union National Bank, ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ นอกจากนี้ยังคาดว่าจะลงทุนในตราสารหนี้ Qatar National Bank ด้านกองทุน KFF3MAE ที่มีอายุโครงการ 3 เดือน เบื้องต้นคาดว่าจะลงทุนในเงินฝาก Bank of China, เงินฝาก China Construction Bank Corporation, เงินฝาก Union National Bank, ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และตราสารหนี้ Qatar National Bank นอกจากนี้ยังคาดว่าจะลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลประเทศญี่ปุ่น โดยทั้ง 2 กองทุนดังกล่าวมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน และผู้ลงทุนสามารถลงทุนด้วยเงินขั้นต่ำเพียง 5,000 บาท
ทั้งนี้ บลจ.กสิกรไทย ยังได้เพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนต่อเนื่องให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนกับกองทุนตราสารหนี้แบบที่มีกำหนดอายุโครงการ (Fixed Term Fund) ของบลจ.กสิกรไทย ซึ่งเมื่อกองทุนครบกำหนดอายุโครงการ บริษัทจัดการจะนำเงินค่าขายคืนอัตโนมัติไปซื้อหน่วยลงทุนที่ผู้ลงทุนเลือกได้กองทุนใดกองทุนหนึ่งใน 3 กองทุน คือ กองทุนเปิดเค ตลาดเงิน (K-MONEY) กองทุนเปิดเค ตราสารรัฐระยะสั้น (K-TREASURY) หรือกองทุนเปิดเค เอ็มพลัส (K-MPLUS) ซึ่งอยู่ในกลุ่มกองทุนรวมตราสารหนี้ ของบลจ.กสิกรไทย
สำหรับผู้ที่สนใจลงทุนกับกองทุน KFF6MCB และกองทุน KFF3MAE สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและขอรับหนังสือชี้ชวนเสนอขายได้ที่ธนาคารกสิกรไทยทุกสาขา หรือสอบถาม KAsset Contact Center 0 2673 3888 หรือที่ www.kasikornasset.com