กรุงเทพฯ--5 ต.ค.--โซนี่ไทย
บริษัท โซนี่ ไทย จำกัด ตอกย้ำจุดยืนผู้นำเทคโนโลยี และผลิตภัณฑ์ ออดิโอ ล่าสุดแนะนำสุดยอดนวัตกรรมใหม่ล่าสุดกว่า 14 รุ่น เดินหน้ายกระดับประสบการณ์อันสุนทรีย์ในการฟังเพลงคุณภาพสุดคมชัดไปอีกขั้น ประเดิมด้วยผลิตภัณฑ์ในกลุ่มไฮเรสออดิโอเรือธงรุ่นล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัว และสร้างความฮือฮาในงาน IFA 2016 ที่ประเทศเยอรมนีเมื่อต้นเดือนกันยายน ที่ผ่านมา ภายใต้ชื่อ "Signature Series" สุดยอดผลิตภัณฑ์ในกลุ่มไฮเรสออดิโอที่ผสานสุดยอดเทคโนโลยีขั้นสูง และความเชี่ยวชาญกว่าครึ่งทศวรรษของโซนี่ สู่ความสมบูรณ์แบบของการฟังเพลง ประกอบด้วยหูฟัง เครื่องเล่นเพลงพกพา และแอมปลิไฟเออร์สำหรับหูฟัง สร้างประสบการณ์ดนตรีอย่างลึกซึ้งเป็นธรรมชาติ เสมือนได้รับฟังจากการแสดงสด หรือต้นฉบับการบันทึกเสียง รวมทั้งผลิตภัณฑ์ไฮเรสออดิโออื่น ๆ ครบครัน อาทิ หูฟังไฮเรสออดิโอแบบ Noise Cancelling หูฟังแบบ Hybrid เครื่องเล่นเพลงแบบพกพา (วอล์คแมน) รวมทั้งผลิตภัณฑ์หูฟังในกลุ่ม Extra Bass ที่จัดเต็มกับพลังเสียงเบส เพื่อคอเพลงแนวแด๊นซ์ หรือ EDM โดยเฉพาะ รวมถึงหูฟังมีสไตล์สำหรับผู้ชื่นชอบการฟังเพลงในระหว่างการออกกำลังกายที่สามารถกันความชื้นและเหงื่อได้ พร้อมแนะนำ PS-HX500 เครื่องเล่นแผ่นเสียงเครื่องแรก ที่สามารถริปสัญญาณเสียงออกมาเป็นไฮเรสออดิโอ ให้ผู้ใช้สามารถฟังเพลงโปรดจากคลังแผ่นเสียงได้อย่าง เต็มคุณภาพในทุกที่ทุกเวลา โดยผลิตภัณฑ์ไฮเรสออดิโอรุ่นใหม่จะเริ่มทยอยวางจำหน่ายตั้งแต่เดือน ตุลาคม-ธันวาคม ศกนี้ เป็นต้นไป
มร. ยูโซะ ชิบะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โซนี่ ไทย จำกัด เปิดเผยว่า "โซนี่ยังคงตอกย้ำในจุดยืนอย่างชัดเจนในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ และเทคโนโลยีด้านเสียงที่โซนี่ได้สั่งสมความเชี่ยวชาญมาอย่างยาวนานนับกว่าครึ่งศตวรรษ และเดินหน้าพัฒนาคุณภาพ และการใช้งานของผลิตภัณฑ์ให้เข้าถึงความต้องการของนักฟังเพลงทุกกลุ่มอย่างครอบคลุม ไม่ว่าจะเป็นออดิโอไฟล์ ผู้ที่ชื่นชอบการฟังเพลงคุณภาพสูง ตลอดจนนักฟังเพลงที่ชื่นชอบแนวเพลงแดนซ์ ปาร์ตี้ รวมทั้งผู้ที่ชอบฟังเพลงในระหว่างออกกำลังกาย หรือเล่นกีฬา ทั้งนี้ โซนี่ยังได้ยึดมั่นในเรื่องของคุณภาพเป็นหลักมาอย่างต่อเนื่อง จึงนำมาสู่ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มไฮเรสออดิโอซีรีส์ระดับเรือธงล่าสุดที่มีคุณภาพอันเป็นเลิศในทุกด้านภายใต้ชื่อ "Signature Series" ซึ่งประกอบไปด้วยวอล์คแมนรุ่น NW-WM1Z หูฟังรุ่น MDR-Z1R และแอมปลิไฟเออร์สำหรับหูฟังรุ่น TA-ZH1ES รวมถึงผลิตภัณฑ์ไฮเรสออดิโออีกหลากหลายรุ่น ตอบรับแนวโน้มการเติบโตของตลาดไฮเรสออดิโอที่ทะยานสูงขึ้นถึง 5 เท่าในปีนี้ โดยเทียบกับปี 2013 ซึ่งเป็นปีที่โซนี่ได้เริ่มแนะนำผลิตภัณฑ์ในกลุ่มไฮเรสออดิโอเป็นเจ้าแรก สะท้อนให้เห็นถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคในปัจจุบันที่นิยมฟังเพลงโดยให้ความสำคัญกับคุณภาพรายละเอียด และความคมชัดมากยิ่งขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับคุณภาพเสียงระดับไฮเรสออดิโอที่สามารถถ่ายทอดรายละเอียดของเสียงเพลงออกมาได้อย่างคมชัดเป็นธรรมชาติใกล้เคียงกับต้นฉบับเป็นอย่างมาก"
ในฐานะผู้นำเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ Hi-Resolution Audio โซนี่จึงมุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อให้ได้มาซึ่งนวัตกรรมที่ถ่ายทอดเสียงที่มีคุณภาพสูงสุด นอกเหนือจาก Signature Series วันนี้ โซนี่ยังได้แนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ในกลุ่ม Hi-Res Audio ที่หลากหลายยิ่งขึ้น อาทิ หูฟังไร้สายในกลุ่ม Noise Cancelling ที่มาพร้อมเทคโนโลยีอัจฉริยะ Sense Engine ในรุ่น MDR-1000X และกลุ่มหูฟังแบบอินเอียร์ Extra Bass รุ่นล่าสุดที่ออกแบบให้ผู้ใช้สามารถฟังเพลงไปพร้อมๆ กับการออกกำลังกายได้อย่างคล่องตัว รวมถึงเครื่องเล่นแผ่นเสียงที่สามารถแปลงสัญญาณจากแผ่นเสียงเป็นสัญญาณไฮเรสออดิโอที่นำมาเปิดตัวในเมืองไทยครั้งแรก นับเป็นการต่อยอดเทคโนโลยีเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคอย่างแท้จริง"โซนี่มั่นใจว่าผลิตภัณฑ์ในกลุ่มเครื่องเสียงแบบพกพารุ่นใหม่ที่โซนี่ได้เปิดตัวในครั้งนี้จะยกระดับคุณภาพการฟังเพลงให้ก้าวล้ำไปอีกขั้น ด้วยเทคโนโลยีที่คิดค้น และสร้างสรรค์ขึ้นเพื่อส่งมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุด และตอบรับไลฟ์สไตล์การใช้งานที่หลากหลายของนักฟังเพลงได้อย่างตรงใจยิ่งขึ้น สมดังสโลแกน "For and By Music Lovers" มร. ชิบะ กล่าวสรุป
ผลิตภัณฑ์ Hi-Resolution Audio ในกลุ่ม Signature Series
เป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่สร้างสรรค์ขึ้นมาเพื่อเฉลิมฉลองในวาระครบรอบ 70 ปีของโซนี่ ซึ่งโซนี่เดิมมีจุดกำเนิดมาจากผลิตภัณฑ์ในกลุ่มเครื่องเสียง ดังนั้น ผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม Signature Series จึงได้รับการออกแบบ และพัฒนาขึ้นด้วยประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญ และเทคโนโลยีสูงสุดของโซนี่ในปัจจุบัน เพื่อให้ได้มาซึ่งผลิตภัณฑ์เครื่องเสียงพกพาที่ดีที่สุด และมีความโดดเด่นในทุกมิติ ด้วยการออกแบบอย่างพิถีพิถัน สวยหรู คัดเลือกวัสดุ ชั้นเยี่ยม และหัวใจสำคัญคือคุณภาพเสียงที่เป็นเลิศ โดยในผลิตภัณฑ์ใหม่นี้จะใช้มาตรฐานการเชื่อมต่อหูฟังแบบ Balanced ด้วยหัวปลั๊กขนาด 4.4 ม.ม. เพื่อการถ่ายทอดเสียงอย่างสมบูรณ์แบบกว่าเดิม ซึ่งผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม Signature Series จะประกอบไปด้วยผลิตภัณฑ์ระดับไฮเรสออดิโอครบครันทั้งหูฟัง เครื่องเล่นเพลงพกพา (วอล์คแมน) และแอมปลิไฟเออร์สำหรับหูฟัง เพื่อตอบโจทย์คนรักเสียงเพลงที่ต้องการสุดยอดคุณภาพเสียงดนตรีอย่างแท้จริง
MDR-Z1R
เป็นหูฟังสเตอริโอไฮเรสออดิโอแบบครอบหูระดับเรือธง กับคุณสมบัติอันเป็นเลิศเพื่อความสุนทรีย์ในการฟังเพลง อย่างเต็มอรรถรส คมชัดในทุกรายละเอียดอย่างเป็นธรรมชาติในทุกย่านเสียง สัมผัสได้ถึงมิติ และเวทีเสียงที่ชัดเจน มาพร้อมไดร์เวอร์ขับเสียงตัวใหม่ล่าสุดที่คัดสรรวัสดุคุณภาพเยี่ยม ใช้ไดอะแฟรมทรงโดมขนาด 70 ม.ม. ซึ่งผลิตจาก Liquid Crystal Polymer เคลือบด้วยอลูมิเนียม พร้อมใช้แมกนีเซียมตรงบริเวณของส่วนโดมพร้อมปิดด้วยตะแกรงฉลุลายแบบโปร่งด้วยลวดลาย Fibonacci Pattern Grill เพื่อถ่ายทอดรายละเอียดเสียงที่มีความถี่สูงได้ถึง 120KHz นอกจากนี้ MDR-Z1R ยังได้รับการออกแบบที่พิถีพิถันในทุกรายละเอียดที่ประกอบขึ้น ทั้งคัพหูฟัง และแผ่นกรองตัวอะคูสติกเพื่อให้ได้เสียงที่นุ่มนวล ทำจากเยื่อกระดาษจากต้นสนแคนาดาโดยใช้กรรมวิธีการถักทอเส้นใยเช่นเดียวกับการทำกระดาษ Washi ของญี่ปุ่นที่มีความคงทน และส่งผ่านเสียงอย่างเป็นธรรมชาติและถูกปรุงแต่งน้อยที่สุด แล้วปิดด้วยตะแกรงที่ทำจาก Stainless Steel อย่างดี จึงช่วยให้ลดเสียงสะท้อนและสัญญาณรบกวนภายในหูฟังได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขณะที่ตัวแพดหูฟังหุ้มหนังแท้ และแถบคาดศีรษะทำจากไทเทเนียมน้ำหนักเบา จึงสวมใส่สบายและทนทาน มาพร้อมสายสัญญาณแบบสเตอริโอมินิแจ๊คขนาด 3.5 ม.ม. และสายสัญญาณแบบบาลานซ์แจ็คขนาด 4.4 ม.ม. พร้อมวางจำหน่ายในเดือน กลางเดือนคุลาคม ในราคา 69,990 บาท พร้อมสายอัพเกรดที่ได้พัฒนาร่วมกับ Kimber Kable®
Walkman® NW-WM1
NW-WM1 เป็นเครื่องเล่นเพลงแบบพกพาระดับเรือธงตัวใหม่ล่าสุด ที่จะปลุกโสตประสาทของคุณด้วยรายละเอียดของดนตรีที่สมบูรณ์แบบยิ่งกว่าที่เคย โดยจุดเด่นของ Walkman WM1 คือการเลือกใช้วัสดุอย่างพิถีพิถันมาผลิตโครงสร้างของเครื่องซึ่งมีความหรูหรา และให้คุณภาพเสียงที่ดีที่สุดในระดับไฮเรสโซลูชั่นออดิโอ นอกจากนี้ ยังมาพร้อมเทคโนโลยีชั้นยอดที่ปรับปรุงขึ้นใหม่ล่าสุด ไม่ว่าจะเป็น S-Master HX™ digital amplifier ภาคขยายเสียงอันทรงพลังที่มีประสิทธิภาพสูงในการลดสัญญาณเสียงรบกวนและค่าความเพี้ยนให้น้อยที่สุด ที่รองรับไฟล์ DSD แบบ native (11.2 MHz) ผ่านการเชื่อมต่อแบบ Balanced ร่วมกับตัวเก็บประจุ FT CAP ในภาคจ่ายไฟเพื่อให้สามาถถ่ายทอดแบนด์วิธที่กว้างขวางของไฟล์ระดับไฮเรสออกมาได้อย่างคมชัดบริสุทธิ์และมีชีวิตชีวา ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีตัวประมวลผลเสียงใหม่ๆ อาทิ DC Phase Linearizer ซึ่งเป็นการจำลองลักษณะเฟสของวงจรขยายอนาล็อก DSEE HX รุ่นใหม่ ซึ่งทำให้ผู้ใช้สามารถเลือกโหมดการทำงานที่เหมาะสมกับแนวเพลงที่ฟังได้ถึง 5 โหมดด้วยกัน ได้แก่ Standard, Female Vocal, Male Vocal, Percussion และ Strings
สำหรับเครื่องเล่นเพลงพกพา Walkman MW1 จะมีรุ่นย่อยให้เลือก 2 รุ่นด้วยกัน คือ รุ่น NW-WM1Z และ NW-WM1A สำหรับรุ่น WM1Z นั้น เป็นเครื่องเล่นเพลงแบบพกพารุ่นเรือธงที่โดดเด่นด้วยดีไซน์ตัวเครื่องสีทองซึ่งทำจากทองแดงปลอดอ๊อกซิเจน (Oxygen-free copper) และเคลือบด้วยทองคำอีกชั้น ซึ่งทำให้ตัวเครื่องมีความแข็งแกร่งและยังให้เสียงย่านสูงและย่านต่ำที่มีพลังและบริสุทธิ์ยิ่งขึ้นด้วย และยังใช้สายเคเบิล 4 เส้นถักรวมกัน โดยเทคโนโลยีนี้ได้พัฒนาร่วมกับ KIMBLE KABLE ในการเชื่อมต่อระหว่างวงจรขยายเสียงและแจ๊คหูฟัง โดยมาพร้อมความจำในตัวเครื่อง 256 GB ขณะที่รุ่น NW-WM1A ตัวเครื่องผลิตจากอลูมิเนียม และใช้สายสัญญาณทองแดงปลอดอ๊อกซิเจน เชื่อมต่อระหว่างวงจรขยายเสียงและแจ๊คหูฟัง โดยมาพร้อมความจำในตัวเครื่องขนาด 128 GB ทั้ง 2 รุ่น สามารถเล่นเพลงได้ยาวนานถึง 26 ชม. เมื่อฟังเพลงในรูปแบบ FLAC ความละเอียด 24 bit 96 kHz และนานถึง 33 ชม. เมื่อฟังเพลงในรูปแบบ MP3 NW-WM1Z พร้อมวางจำหน่ายใน ราคา 109,990 บาท และ NW-WM1A จำหน่ายในราคา 39,990 บาท
TA-ZH1ES
TA-ZH1ES เป็นแอมปลิไฟเออร์สำหรับหูฟังแบบตั้งโต๊ะ เพื่อช่วยเสริมประสิทธิภาพในการฟังเพลงผ่านหูฟังได้ถึงระดับ DSD 22.4MHz/PCM 768kHz/32bit ตัวผลิตภัณฑ์ใช้วงจรขยาย D.A. Hybrid Amplifier Circuit ซึ่งเป็นการนำวงจรขยายดิจิทัล S-Master HX มาใช้ร่วมกับวงจรขยายอนาล็อก ช่วยถ่ายทอดทุกความละเอียดของเสียงเพลงและลดความเพี้ยนของเสียง ในส่วนของโครงสร้างผลิตภัณฑ์เป็นแบบ Frame Beam Wall (FBW) ทำจากอะลูมิเนียม เพื่อลดการสั่นสะเทือนที่จะไปยังแผงวงจร และยังมี Acoustically Tuned Panel เพื่อลดสัญญาณเสียงรบกวนภายในตัวเครื่อง
นอกจากนี้ TA-ZH1ES ยังมาพร้อมกับ DSEE HX รุ่นใหม่ และ DC Phase Linearizer เช่นเดียวกับ Walkman WM1 ทั้งยังมี DSD Remastering ที่จะแปลงสัญญาณเสียง PCM ให้เป็นสัญญาณ DSD 11.2 MHz ซึ่งการประมวลผลเสียงนั้นจะทำบนชิป FPGA โดยตัวเครื่องรองรับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่างๆ ที่หลากหลาย ทั้ง USB-B, Coaxial, Optical และ Line Input และรองรับการต่อกับหูฟัง ผ่านการเชื่อมต่อแบบ balanced ผ่านหัวแจ็ค 3.5 มม. ที่ใช้ใน PHA-3 เดิม หัวแจ็ค 4.4 มม. และหัวแจ็ค 6.3 มม. รวมไปถึงแจ็ค XLR แบบ 4 ขา
TA-ZH1ES ถูกออกแบบมาเพื่อใช้งานร่วมกันในกลุ่มผลิตภัณฑ์ Signature Series เพื่อมอบประสบการณ์การฟังเพลงที่ดีที่สุด อย่างไรก็ตาม TA-ZH1ES ยังสามารถใช้งานร่วมกับผลิตภัณฑ์หูฟังแบรนด์อื่นๆ เพื่อเป็นทางเลือกอีกทางหนึ่งให้นักฟังเพลง ผลิตภัณฑ์พร้อมวางจำหน่ายเดือนธันวาคม ศกนี้ ในราคา 75,990 บาท
ผลิตภัณฑ์ Hi-Resolution Audio อื่น ๆ
Noise Canceling Headphone, Beyond Compare
MDR-1000X เป็นหูฟังไฮเรสออดิโอรุ่นใหม่แบบไร้สายระดับพรีเมี่ยม ที่มาพร้อมพร้อมเทคโนโลยีระบบตัดเสียงรบกวน Digital Noise Cancelling ใหม่ล่าสุดเพิ่มประสิทธิภาพในการตัดเสียงรบกวน เพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งานด้วยสัมผัสใหม่ที่โดดเด่น "Sense Engine" สุดยอดเทคโนโลยีอัจฉริยะ เพื่อให้คุณเพลิดเพลินกับการฟังเพลงโปรดได้ดั่งใจปรารถนา เมื่อต้องการความเป็นส่วนตัว เลือกเปิดระบบตัดเสียงรบกวนจากภายนอกอย่างสิ้นเชิง (NC : ON/OFF) หรือ ปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ที่คุณต้องการ(Ambient) เช่นโหมด Normal คุณจะได้ยินทั้งเสียงเพลง และเสียงจากภายนอกด้วย หรือ โหมด Voice คุณจะได้ยินเสียงเพลง และเสียงประกาศ แต่ตัดเสียงรบกวนอื่นๆ เช่น กรณีที่อยู่ที่สนามบิน หรือที่สาธารณะ ในขณะที่ฟังเพลง จะยังคงได้ยินเสียงแตรรถ เสียงประกาศไฟลท์บิน เสียงประชาสัมพันธ์ นอกจากนี้ผู้ใช้ยังสามารถได้ยินบทสนทนาได้ทันที เพียงใช้มือสัมผัสหูฟังด้านนอกทางฝั่งขวามือ ความดังเสียงเพลงจะถูกลดระดับลงทันที เพื่อให้คุณได้ยินเสียงพูดและร่วมบทสนทนาได้ และเมื่อเอามือออก ระบบตัดเสียงรบกวนจะกลับมาทำงานตามปกติเพื่อการฟังเพลงต่อไป คุณจึงมั่นใจในความปลอดภัย และไม่พลาดอัพเดทสถานะการณ์ใดๆ ในขณะสวมใช้งานหูฟังโดยไม่จำเป็นต้องถอดหูฟังเข้าออก
นอกจากนี้ตัวหูฟังถูกออกแบบผลิตจากวัสดุอย่างดี สามารถใส่ฟังเพลงได้นานโดยไม่เจ็บหู และยังพับเก็บใส่กระเป๋าได้สบาย มีน้ำหนักเบาอยู่ที่ 275 กรัม และพับเก็บได้ง่าย ใช้งานได้ต่อเนื่องยาวนานถึง 20 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง โดยใช้ระยะเวลาชาร์จแบตเตอรี่ประมาณ 4 ชั่วโมง โดยมีให้เลือก 2สี สีดำ และครีม พร้อมวางจำหน่ายเดือนตุลาคม ศกนี้ ในราคา 15,990 บาท
Hybrid Balanced Armature in-Ear Headphone XBA-N1/N3
การออกแบบใหม่ล่าสุดผสานสองพลังขับ Dynamic Driver และ Balanced Armature Driver เพื่อการถ่ายทอดรายละเอียดเสียงแบบ ไฮเรสออดิโอได้อย่างดีเยี่ยม เบสแน่น ช่วงความถี่กลางและสูงที่ชัดเจน ส่งผลให้การถ่ายทอดเสียงมีความชัดเจนในทุกย่านเสียง ในขณะที่ดีไซน์ของตัวหูฟังสามารถทำให้เล็กลงด้วยไดรเวอร์ที่ออกแบบใหม่ มีขนาดเพียง 9 ม.ม. แต่ให้เนื้อเสียงเต็มตลอดย่านเสียงกลาง ถึงแหลม มาพร้อมดีไซน์เพื่อผู้ใช้งานจะรู้สึกสบายเมื่อสวมใส่ เอียร์บัดซิลิโคนเป็นแบบ Triple-Comfort Earbuds ออกแบบมาเพื่อให้ความรู้สึกนุ่มสบายไม่เจ็บหู แต่ยังคงปิดกระชับกันเสียงรบกวนจากภายนอกได้ และยังสามารถถอดล้างได้ด้วย มีไมค์พร้อมรีโมทบนตัวสายเพื่อใช้ร่วมกับสมาร์ทโฟนได้อย่างดี นอกจากนี้ XBA-N3AP ยังอัพเกรดใช้สายสัญญานแบบ Oxygen-Free Copper เคลือบเงิน เพื่อลดสัญญาณรบกวนและลดการผิดพี้ยนของเสียงให้น้อยที่สุดตามต้นฉบับ หูฟังรุ่น XBA-N1AP และ XBA-N3AP พร้อมวางจำหน่ายเดือน ตุลาคม ศกนี้ ในราคา 9,990 และ15,990 บาท ตามลำดับ
Walkman® NW-A30
เครื่องเล่นเพลงพกพาระดับไฮเรสออดิโอที่ออกแบบได้อย่างมีสไตล์โดดเด่นด้วยสีสัน และดีไซน์สุดล้ำนำเทรนด์ สะท้อนความเป็นตัวตนของผู้ใช้งานได้อย่างแท้จริง และยังให้อรรถรสในการฟังเสียงดนตรีชั้นเยี่ยมอีกระดับด้วยเทคโนโลยีชั้นยอดที่บรรจุในรุ่น NW-A30 อาทิ S-Master HX™ digital amplifier ที่มอบคุณภาพเสียงให้คมชัดบริสุทธิ์และมีชีวิตชีวามากที่สุดเท่าที่เคยมีมา พร้อมรองรับไฟล์ DSD แบบ native นอกจากนี้ยังใช้ POSCAP Capacitor คุณภาพสูงถึง 5 ชิ้น เพื่อช่วยลดสัญญาณเสียงรบกวน และค่าความเพี้ยนต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น มาพร้อมกับรูปทรง ขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเบาเพียง 98 กรัม และรองรับการเชื่อมต่อแบบไร้สาย Bluetooth และ NFC สำหรับ NW-A30 ซีรี่ส์มีรุ่นย่อยให้เลือก 2 รุ่น คือ NW-A35 และ NW-A36HN ที่มาพร้อมความจำในตัวเครื่อง 16GB และ 32GB ตามลำดับ พร้อมช่องใส่ micro SD memory card เพื่อเก็บคลังเพลงโปรดของคุณ สามารถเล่นเพลงเสียงไฟล์ Hi-Res Audio ได้ยาวนานต่อเนื่องถึง 30 ชั่วโมง และไฟล์ MP3 ได้นานถึง 45 ชั่วโมง โดยรุ่น NW-A36HN มาพร้อมหูฟังอินเอียร์แบบ Noise Cancelling รุ่น MDR-NW750N เหมาะสำหรับการฟังเพลงได้อย่างเต็มอรรถรส ปราศจากเสียงรบกวน ทั้ง 2 รุ่น มีให้เลือก5 สี ได้แก่ Viridian Blue, Cinnabar Red, Charcoal Black, Lime Yellow, Bordeaux Pink เพื่อให้เข้ากับสไตล์ของคุณได้อย่างลงตัว พร้อมวางจำหน่ายในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายนนี้ โดยรุ่น NW-A35 วางจำหน่ายราคา 7,190 บาท และรุ่น NW-A36HN ราคา 10,990 บาท
PS-HX500: High-Resolution Turntable
พร้อมกันนี้ โซนี่ยังได้จัดเตรียมเครื่องเล่นแผ่นเสียง Hi-Res Audio รุ่นใหม่ล่าสุด ที่สร้างขึ้นเพื่อตอบโจทย์ผู้ที่ชื่นชอบในแผ่นเสียงด้วยคุณภาพเสียงแบบอนาล็อกในแบบต้นฉบับมากที่สุด เพียงเชื่อมต่อ PS-HX500 เข้ากับระบบสเตอริโอ เสียงแบบ Analog ที่บันทึกมาบนแผ่นเสียง สัญญาณจะถูกแปลงให้กลายเป็นเสียงแบบดิจิตอล ที่มีคุณภาพเสียงสูงกว่าการฟังเพลงจากแผ่น CD Audio ธรรมดาทั่วๆไป โดยสามารถแปลงเป็นสัญญาณเสียงดิจิตอลได้ 2 รูปแบบคือ แบบ DSD ที่เป็นฟอร์แมตไฟล์เสียงระดับคุณภาพ และแบบ WAV ความละเอียดสูง 24-bit ทำให้ผู้ใช้สามารถจะเพลิดเพลินไปกับเสียงที่เป็นเอกลักษณ์จากแผ่นเสียงโปรดได้อย่างเต็มอรรถรส นอกจากนี้ PS-HX500 ยังมาพร้อมดีไซน์ตัวเครื่องที่ทันสมัย และเรียบหรู และยังมีแอพพลิเคชั่นที่สามารถตัดแต่งแก้ไขไฟล์เพลงที่แปลงมาแล้วได้อย่างง่ายดาย รวมถึงสามารถจะฟังเพลงโปรดได้จากอุปกรณ์เสียงความละเอียดสูงหลายชนิดได้อีกด้วยพร้อมวางจำหน่ายเดือนธันวาคม ศกนี้ ในราคา 19,990 บาท
ผลิตภัณฑ์กลุ่ม Extra Bass
โซนี่ยังมีหูฟังไร้สายบลูทูธรุ่นใหม่อีกหลากหลายรุ่นเพื่อเอาใจกลุ่มลูกค้าที่ ชื่นชอบการฟังเพลงในจังหวะเร้าใจ หรืออิเล็กทรอนิกส์ แดนซ์ มิวสิก (EDM) พร้อมๆ กับการออกกำลังกายได้เลือกสรรอีกด้วย อาทิ MDR-XB80BS หูฟังไร้สายบลูทูธแบบ in-ear ชั้นเยี่ยม ที่จะมอบประสบการณ์การฟังเพลงในจังหวะสุดมันส์อย่างเต็มอรรถรสยิ่งขึ้นแม้ขณะออกกำลังกาย ด้วยเสียงเบสที่หนักแน่น และทรงพลัง นอกจากนี้ ยังมาพร้อมเทคโนโลยีป้องกันน้ำตามมาตรฐาน IPX5 ทำให้สามารถป้องกันเหงื่อและละอองน้ำได้อย่างสบาย พร้อมไดรเวอร์ขับเสียงขนาดเล็ก 12 มม. ทำให้สามารถถ่ายทอด เสียงดนตรีได้อย่างคมชัด แบตเตอรี่ใช้งานได้นาน 7 ชม. และรองรับการเชื่อมต่อแบบไร้สายผ่าน Bluetooth® และ NFC One-Touch มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ ดำ แดง น้ำเงิน พร้อมวางจำหน่ายเดือน ตุลาคมศกนี้ ในราคา 4,990 บาท MDR-XB70BT