กรุงเทพฯ--5 ต.ค.--สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
นายสุรพล จารุพงศ์ โฆษกกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ภายหลังคณะรักษาความสงบแห่งชาติ มีคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 36/2559 ลงวันที่ 5 กรกฎาคม 2559 เรื่อง มาตรการในการแก้ไขปัญหาการครอบครองที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมโดยมิชอบด้วยกฎหมาย เพื่อตรวจสอบการถือครองที่ดินและยึดที่ดิน ส.ป.ก. คืนจากผู้ครอบครองที่ดินโดยมิชอบด้วยกฎหมาย โดยพลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้เห็นชอบและกำหนดแผนปฏิบัติการยึดคืน พัฒนา และจัดสรรพื้นที่ ส.ป.ก. ที่มีการครอบครองโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งมีขั้นตอนการปฏิบัติ 5 ขั้นตอน ประกอบด้วย 1) ขั้นตอนเตรียมการ 2) ขั้นตอนแจ้งเตือน 3) ขั้นตอนการยึดที่ดินและรื้อถอน 4)ขั้นตอนปรับปรุงพัฒนาที่ดิน และ 5) ขั้นตอนการจัดสรรที่ดินให้เกษตรกร ส.ป.ก.
นายสมปอง อินทร์ทอง เลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ดำเนินการมาถึงขั้นตอนที่ 3 คือ ขั้นตอนการยึดและรื้อถอนเสร็จสิ้นแล้ว ทั้งนี้ผลสรุปการตรวจสอบการถือครองที่ดินที่ ส.ป.ก. ชี้พื้นที่เป้าหมายแปลงที่ดินที่มีผู้ครอบครองที่ดิน ส.ป.ก. เกินกว่า 500 ไร่ ทั้งสิ้น จำนวน 431 แปลง เนื้อที่ 441,054ไร่ ในพื้นที่ 27 จังหวัด มีผู้ยื่นคัดค้าน จำนวน 362,865 ไร่ ผลการพิจารณาจาก ส.ป.ก. จังหวัดมีเอกสารคำคัดค้านฟังขึ้น จำนวน 289,482 ไร่ แบ่งเป็นที่ดินตามประมวลกฎหมายที่ดิน จำนวน 109,531 ไร่ และที่ดินที่ครอบครองเดิม 179,591 ไร่ สำหรับคำคัดค้านฟังไม่ขึ้น จำนวน 15,816 ไร่ ยึดคืนมาได้ 151,572 ไร่ และหลักฐานทั้งหมดที่ฟังขึ้นได้ส่งต่อให้ ส.ป.ก. ส่วนกลางตรวจสอบความถูกต้องอีกครั้งหนึ่ง เพื่อให้ผลการตรวจสอบมีมาตรฐานเดียวกัน อย่างไรก็ตามขณะนี้ ส.ป.ก. ได้วางแผนนำพื้นที่ที่ยึดคืนได้มาพัฒนาตามขั้นตอนที่ 4 คือ ขั้นตอนปรับปรุงและพัฒนาดินแล้ว คาดว่า มีเนื้อที่ที่สามารถนำพื้นที่มาพัฒนาได้กว่า 111,642 ไร่ โดยเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2559 ที่ผ่านมา ส.ป.ก. ได้จัดประชุมคณะกรรมการการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ครั้งที่ 4/2559 และอนุมัติหลักการใช้เงินกองทุนการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมเป็นวงเงินจำนวน960 ล้านบาท เพื่อใช้จ่ายตามโครงการพัฒนาแปลงที่ดินที่ได้จากการยึดคืนพื้นที่ดังกล่าว
ทั้งนี้ เลขาธิการ ส.ป.ก. กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ได้รับรายงานถึงผลความคืบหน้าการใช้มาตรา 44 ยึดคืนพื้นที่ ส.ป.ก. โดยมิชอบแล้วว่า นายสรรเสริญ อัจจุตมานัส อดีตเลขาธิการ ส.ป.ก. ได้ตรวจสอบเอกสารเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทั้งสิ้น 431 แปลง แต่มีข้อมูลบางส่วนที่คลาดเคลื่อนไปสำหรับพื้นที่ที่ไม่มีผู้ยื่นคัดค้าน จากเดิม 28 แปลง เหลือเพียง 23แปลง สาเหตุเพราะ 5 แปลงนี้ มีการนำเอกสารตามประมวลกฎหมายที่ดิน นส3. ยื่นเต็มแปลง จำนวน 3 แปลง เป็นพื้นที่ ที่มีความลาดชันเกินกว่า 15% ไม่เหมาะแก่การประกอบเกษตรกรรม จำนวน 1 แปลง และเป็นพื้นที่ที่มีการออกหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในที่ดิน ส.ป.ก. 4-01 แล้วแต่เกิดความคลาดเคลื่อนในการกำหนดพื้นที่เป้าหมายตั้งแต่แรก จำนวน1 แปลง สำหรับพื้นที่ที่มีการคัดค้านเต็มแปลง จำนวน 403 แปลง ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องประมวลข้อมูลลงระบบเพื่อประเมินผล เพราะมีพื้นที่ที่ให้ยึดเพิ่ม พื้นที่ที่ต้องการตรวจสอบเพิ่มเติม ทั้งพื้นที่ที่อ้างด้วย นส3. และ ภบท.5 ซึ่งคาดว่ากระบวนดังกล่าวจะแล้วเสร็จภายในอาทิตย์นี้