กรุงเทพฯ--5 ต.ค.--IR network
SUPER เดินหน้าเข้าลงทุนโซลาร์ฟาร์มสหกรณ์ 12 โครงการ กำลังการผลิตรวม 48.2 เมกะวัตต์ ใช้เงินกว่า 1.2 พันล้านบาท บิ๊กบอส "จอมทรัพย์ โลจายะ"ประกาศลั่นพร้อมขยายการลงทุนโรงไฟฟ้าทั้งในและต่างประเทศเต็มเหนี่ยว หนุนยอด COD ทะลุเป้า 1,000 MW ก่อนขยับเป็น 2,000 MW ในปี"60ดันรายได้-กำไร โตก้าวกระโดด
นายจอมทรัพย์ โลจายะ ประธานกรรมการ บริษัท ซุปเปอร์บล๊อก จำกัด (มหาชน) (SUPER) เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริษัทฯมีมติอนุมัติให้บริษัท ซุปเปอร์ โซลาร์ เอนเนอร์ยี จำกัด หรือ SSE บริษัทย่อยเข้าซื้อขายหุ้นโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ (โซลาร์ฟาร์ม) แบบติดตั้งบนพื้นดิน สำหรับหน่วยงานราชการและสหกรณ์ภาคการเกษตรจำนวน 12 โครงการ กำลังการผลิตติดตั้งรวม 48.20 เมกะวัตต์ ในสัดส่วนการลงทุน 49% ของทุนจดทะเบียนจำนวน 5 รายการ รวมเป็นเงินลงทุน 1,256.24 ล้านบาท
สำหรับสินทรัพย์ทั้ง 5 รายการ ซึ่งประกอบด้วย 1. บริษัท ไอ คิว เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด , บริษัท ไอ คิว โซล่า จำกัด, บริษัท เอ ไอ คิว เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด , บริษัท ไอคิว กรีน จำกัด , บริษัท แอสต้า พาวเวอร์ จำกัด ได้มีการลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้นเรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 6 กันยายน 2559 และผู้ขายได้ทำการโอนหุ้นมาให้กับบริษัท ซุปเปอร์ โซล่าร์ เอนเนอร์ยี จำกัด ("SSE") ซึ่งเป็นผู้ซื้อโดยได้มีการจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงทะเบียนรายชื่อผู้ถือหุ้นกับกระทรวงพาณิชย์เป็นที่เรียบร้อยแล้วในวันที่ 4 ตุลาคม 2559
"ผมยืนยันเป้าหมายในปีนี้ โรงไฟฟ้าทั้งหมดในกลุ่มจะมีการจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบ (COD) เพิ่มเป็น 1,000 เมกะวัตต์ เพราะที่ผ่านมาเราลุยงานอย่างเต็มที่ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ หรือแม้แต่การเข้าไปประมูลจากหน่วยงานราชการ และการร่วมมือกับพันธมิตร ดังนั้นก็จะเห็นการเติบโตแบบก้าวกระโดดไปจนถึงปี 2560 ที่ตั้งเป้าหมาย CODที่ 2,000 เมกะวัตต์ "นายจอมทรัพย์ กล่าว
ส่วนแผนการดำเนินงานในช่วงที่เหลือของปีนี้ บริษัทฯยังคงเน้นขยายธุรกิจโรงไฟฟ้า ทั้งในและต่างประเทศ เนื่องจากความต้องการยังมีสูง ซึ่งมั่นใจว่าจะช่วยผลักดันให้รายได้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง รวมทั้งยังคงเดินหน้าเข้าศึกษาเพื่อเข้าลงทุนในโซลาร์ฟาร์ม และโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม ในตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศในกลุ่ม CLMV อย่างต่อเนื่อง ทั้ง กัมพูชา สปป.ลาว และเวียดนาม เป็นต้น อย่างไรก็ตาม แนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/2559 คาดว่าจะเติบโตต่อเนื่องจากไตรมาสที่ 2/2559 เนื่องจากจะมีการรับรู้รายได้จากการขายไฟฟ้าเข้ามาในปริมาณที่เพิ่มขึ้นมาก
ขณะเดียวกันบริษัทฯ ยังมีโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ซึ่งคาดว่าจะเสร็จเรียบร้อยและเดินเครื่องจ่ายไฟ (COD) ได้ในช่วงเดือน พ.ย .- ธ.ค. 2559 ซึ่งจะช่วยผลักดันให้ผลการดำเนินงานในปีนี้เติบโตอย่างแข็งแกร่งตามเป้าหมาย
อนึ่ง ปัจจุบันบริษัทฯมีการจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) แล้ว รวมประมาณ 675 MW จากที่มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) อยู่ประมาณ 770 เมกะวัตต์ โดยตั้งเป้าหมาย COD ที่วางไว้ 1,000 เมกะวัตต์ ในปีนี้ และเพิ่มเป็น 2,000 เมกะวัตต์ในปี 2560