กรุงเทพฯ--1 ธ.ค.--กระทรวงสาธารณสุข
เนื่องในวันเอดส์โลก 1 ธันวาคมของทุกปี ปี 2543 นี้ องค์การอนามัยโลกและโครงการโรคเอดส์แห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอดส์) ได้ประกาศคำขวัญเพื่อให้ประเทศสมาชิกนำไปรณรงค์ป้องกันและควบคุมโรคเอดส์ว่า “Men make a Difference ” หรือ “เอดส์ลดหรือเพิ่ม เริ่มที่ผู้ชาย” นักวิชาการกองโรคเอดส์วิงวอนผู้ชายมีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัยเพื่อลดการติดเชื้อเอดส์
นางนันทวัน ยันตะดิลก นักวิชาการกองโรคเอดส์ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า การที่องค์การอนามัยโลกหันมาสนใจและเน้นเป้าการรณรงค์ไปที่ผู้ชายในปีนี้ เพราะว่าผู้ชายมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อเอชไอวีมากกว่าผู้หญิง เนื่องจากผู้ชายมักจะสนใจดูแลสุขภาพน้อยกว่าผู้หญิง และมักจะมีพฤติกรรมเสี่ยง เช่น การดื่มเหล้า การใช้สารเสพย์ติด หรือการขับรถประมาท รวมทั้งมักไม่ใส่ใจต่อการมีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัย ซ้ำมีแนวโน้มที่จะฉีดยาเสพย์ติด ซึ่งมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อเอดส์จากเข็มฉีดยา นางนันทวัน กล่าวว่า พฤติกรรมของผู้ชายทำให้ผู้หญิงเสี่ยงต่อการติดเชื้อเอดส์ไปด้วย เพราะโดยเฉลี่ยแล้วผู้ชายจะมีคู่นอนมากกว่าผู้หญิง อีกทั้งเชื้อเอดส์ถ่ายทอดทางเพศสัมพันธ์จากชายไปสู่หญิง ได้ง่ายกว่าหญิงไปสู่ชาย ยิ่งไปกว่านั้นผู้ใช้ยาเสพย์ติดซึ่งติดเชื้อเอดส์ส่วนใหญ่เป็นผู้ชาย สามารถถ่ายทอดเชื้อ ให้แก่ผู้ที่ใช้ยาเสพย์ติดร่วมกันและคู่นอนด้วย ผู้ชายที่ติดเชื้อเอดส์จึงน่าจะเป็นผู้ที่แพร่เชื้อไปสู่คนอื่น ๆ ได้มากกว่าผู้หญิง “นอกจากนี้ การมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ได้ป้องกันในกลุ่มชายรักร่วมเพศเป็นภัยต่อผู้ชายด้วยกัน รวมทั้งผู้หญิงด้วย เพราะการมีเพศสัมพันธ์แบบรักร่วมเพศมักจะถูกปิดบัง จากการสำรวจทั่วโลกพบว่า ประมาณ ร้อยละ 6 ของผู้ชายที่เคยมีเพศสัมพันธ์กับเพศเดียวกัน ผู้ชายเหล่านี้ก็ไปมีเพศสัมพันธ์กับผู้หญิงด้วยไม่ว่าจะเป็นภรรยาหรือเพื่อนหญิง และประการสุดท้ายผู้ชายต้องให้ความใส่ใจกับปัญหาเอดส์มากขึ้น เนื่องจากขณะนี้เอดส์ได้แพร่ระบาดเข้าสู่ครอบครัวแล้ว เพราะฉะนั้นหากผู้ชายเข้ามามีส่วนร่วมในการต่อต้านโรคเอดส์คือหนทางที่ดีที่สุดที่จะเปลี่ยนวิถีทางการแพร่ระบาดของโรคได้ การตำหนิติเตียนผู้ชายไม่ใช่วิธีกระตุ้นให้ผู้ชายสนใจ หรือเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมได้” นางนันทวัน กล่าว ขณะเดียวกันกองระบาดวิทยา กระทรวงสาธารณสุข ได้รายงานสถานการณ์ผู้ป่วยเอดส์ จนถึงวันที่ 31 ตุลาคมที่ผ่านมา พบว่าประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อประมาณ 800,000-1,000,000 คน มีผู้ชาย ป่วยด้วยโรคเอดส์จำนวน 120,467 ราย ผู้หญิง 35,842 ราย อัตราการติดเชื้อเพศชายติดเชื้อเอดส์มากกว่า ผู้หญิง 3.4 เท่า ชายรักร่วมเพศ ป่วยด้วยโรคเอดส์แล้ว 1,100 ราย ตาย 348 ราย ชายรักสองเพศ ป่วยด้วย โรคเอดส์แล้ว 641 ราย ตาย 172 ราย ชายรักหญิง ป่วย 96,336 ราย ตาย 26,780 ราย ผู้ชายที่ใช้ยาเสพย์ติดฉีดเข้าเส้นป่วยเป็นโรคเอดส์แล้ว 7,584 ราย ตาย 2,464 ราย--จบ--
-นศ-