กรุงเทพฯ--7 ต.ค.--24 คูณ 7
ประกาศชัยชนะอย่างงดงาม ในการแข่งขัน FuelWatch รอบเอเชียแปซิฟิค 2016
- หลังจากขับเคี่ยวในรอบสุดท้าย Mr Chin-lung Hsu จากประเทศไต้หวัน ก็คว้าชัยในฐานะนักขับที่ใช้เชื้อเพลิงได้มีประสิทธิภาพมากที่สุดในเอเชีย แปซิฟิค ในการแข่งประเภททางราบ
- Mr Janghyun Son จากประเทศเกาหลีใต้ คว้าตำแหน่งนักขับที่ใช้เชื้อเพลิงได้มีประสิทธิภาพมากที่สุดในเอเชีย แปซิฟิค ในการแข่งประเภทออฟโรด
- สถิติการใช้เชื้อเพลิงที่บันทึกในการแข่งทั้งประเภทถนนและออฟโรดในครั้งนี้ ได้สร้างบรรทัดฐานใหม่แห่งการประหยัดเชื้อเพลิงในโลกแห่งการใช้งานจริง
การแข่งขัน Asian Pacific Fuelwatch Challenge 2016 ซึ่งจัดต่อเนื่องเป็นประจำทุกปีมาเป็นปีที่ 10 ในปีนี้มีตัวแทน 14 ราย ที่คว้าชัยในการแข่งขันระดับประเทศจากทั่วทั้งภูมิภาค เพื่อมาตัดสินในการแข่งรอบสุดท้ายที่สนามฟอลเคนเบิร์ก ประเทศสวีเดน ซึ่งเป็นบ้านเกิดของวอลโว่ ทรัคส์ โดยผลการแข่งขันหลังจากขับเคี่ยวกันอย่างสูสี ปรากฏว่า Mr. Chin-lung Hsu และ Mr. Janghyun Son เป็นผู้ชนะเลิศ ได้รับตำแหน่งนักขับที่ใช้เชื้อเพลิงได้มีประสิทธิภาพมากที่สุดในเอเชียแปซิฟิค
ในการแข่งขับรอบสุดท้าย ผู้แข่งขันได้เข้าร่วมกิจกรรมฝึกอบรมการขับขี่ให้ประหยัดเชื้อเพลิง และฝึกความชำนาญด้านเทคนิคต่างๆ เป็นเวลา 1 วัน ส่วนวันรุ่งขึ้นจะเป็นการแข่งขันรอบตัดสินของจริง โดยในปีนี้ Mr. Chin-lung Hsu ผู้ซึ่งเป็นนักขับมืออาชีพจากบริษัทขนส่งปิโตเคมียักษ์ใหญ่ของประเทศไต้หวัน พร้อมกับ Mr. Janghyun Son ผู้ซึ่งเป็นนักขับและเป็นเจ้าของบริษัทขนส่ง Moa ICT transporting ได้รับตำแหน่งนักขับที่ใช้เชื้อเพลิงได้มีประสิทธิภาพมากที่สุดในเอเชีย แปซิฟิค ในการแข่งประเภทถนนและออฟโรด ตามลำดับ
พลังเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน
วอลโว่ ทรัคส์ ผู้นำระดับโลกด้านการคมนาคมขนส่ง เป็นผู้ริเริ่มการแข่งขัน Fuelwatch เพื่อส่งเสริมการใช้เชื้อเพลิงอย่างมีประสิทธิภาพและฝึกทักษะของผู้ขับขี่ ซึ่งถือเป็นเสาหลักสำคัญของอุตสาหกรรมการขนส่ง ด้วยการนำเทคโนโลยีมารวมกับความใส่ใจ เพื่อเฟ้นหารถและนักขับที่ดีที่สุด และเน้นย้ำถึงประโยชน์ของการประหยัดเชื้อเพลิง ที่ช่วยลดต้นทุนและสร้างความยั่งยืนให้กับอุตสาหกรรมการขนส่ง
ในการแข่งขัน Asian Pacific Fuelwatch Challenge 2016 นักขับจะต้องแสดงความสามารถในการขับขี่รถโดยใช้เชื้อเพลิงให้เกิดประโยชน์สูงสุด ระบบไดนาฟลีท ซึ่งเป็นระบบบริหารจัดการการขนส่งภายใต้ลิขสิทธิ์ของบริษัทฯ ได้ถูกนำมาใช้เพื่อวัดประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิงได้อย่างแม่นยำด้วยตัวชี้วัด 4 ด้าน คือ การเบรค การปรับความเร็ว การใช้งาน/หยุดใช้งานเครื่องยนต์และเกียร์ ข้อมูลเกี่ยวกับการใช้เชื้อเพลิง เวลาการปฏิบัติงานของผู้ขับ และประสิทธิภาพการทำงานโดยรวมจะถูกเก็บรวบรวมไว้ที่เกจวัดประสิทธิภาพผู้ขับขี่ พร้อมทั้งแจ้งส่วนที่ควรปรับปรุงได้อย่างเฉพาะเจาะจง
กิจกรรม Fuelwatch เป็นมากกว่าการแข่งขัน เพราะเป็นงานที่แสดงประโยชน์ของการประหยัดเชื้อเพลิงในการใช้งานจริงที่เกิดกับบริษัทและภาคการขนส่ง พร้อมทั้งสร้างผลกระทบในด้านบวกแก่สิ่งแวดล้อมและสังคมโดยรวม ผู้ขับขี่มีบทบาทสำคัญในการใช้เชื้อเพลิงให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด และในการแข่งขันแต่ละครั้งได้มีการเน้นย้ำว่าการฝึกอบรม และการใช้ข้อมูลสารสนเทศจากระบบไดนาฟลีท จะช่วยพัฒนาทักษะการขับขี่ อันจะเป็นประโยชน์ในกับธุรกิจในระยะยาว
หลังจากการขับเคี่ยวแข่งขันอย่างดุเดือด ผู้ชนะเลิศทั้งสองต่างแสดงความยินดีและโล่งใจที่ผ่านการแข่งขันมาได้อย่างสวยงาม โดย Mr Chin-lung Hsu ได้กล่าวว่า "ผมไม่ได้คาดหวัง แต่ผมภูมิใจมากกับการที่ผมประสบความสำเร็จได้ในครั้งนี้ ตอนนี้ผมกำลังมุ่งมั่นที่จะให้การทำให้ดีอย่างต่อเนื่องเพื่อแข่งในรอบสุดท้ายระดับโลก" ส่วน Mr Janghyun Son แชมป์อีกคนหนึ่งได้กล่าวต่อว่า มันเป็นเกียรติมากที่สามารถเข้าร่วมการแข่งขันในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและชนะเลิศโดยเป็นตัวแทนของประเทศเกาหลีใต้ ผมมีความสุขมาก ถ้าใครจะถามผมว่าสิ่งที่เป็นความลับของผมคืออะไร ผมเพียงแค่จะบอกว่าจะกลับมานั่งพักผ่อนและไว้วางใจจากรถบรรทุกของคุณ เพราะมันเป็นรถบรรทุกวอลโว่!
เชื้อเพลิงทุกหยดมีค่า
กว่าจะได้ตำแหน่งนักขับที่ใช้เชื้อเพลิงที่ได้มีประสิทธิภาพมากที่สุดในประเภททางราบ ของ Asian Pacific Fuelwatch Challenge 2016 ซึ่งสถิติของ Mr Chin-lung Hsu ได้บันทึกว่าใช้เชื้อเพลิงน้อยกว่าปริมาณเชื้อเพลิงที่เผาไหม้สูงสุดในงานนี้ถึง 32%
ส่วนในประเภทออฟโรด Mr Janghyun Son คว้ารางวัลด้วยการใช้เชื้อเพลิงน้อยกว่าผู้เข้าแข่งคนอื่นถึงถึง 14%
หากเป็นการใช้งานในโลกแห่งความจริง การประหยัดเชื้อเพลิงที่แชมป์ทั้งสองคนได้ทำไว้ทั้งในประเภททางราบและออฟโรด จะช่วยลดต้นทุนการขนส่งได้อย่างมหาศาล อีกทั้งยังเป็นการช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
เฮเลน เมลควิสท์ ประธานบริษัท วอลโว่ ทรัคส์ อินเตอร์เนชั่นแนล ได้ร่วมแสดงความยินดีกับแชมป์ทั้งสอง พร้อมกล่าวว่า "ผลสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของผู้เข้าแข่งขัน คือการได้เน้นย้ำความสำคัญของผู้ขับขี่ในการใช้เชื้อเพลิงให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด การแข่งขันครั้งนี้คือการแลกเปลี่ยนความรู้เพื่อพัฒนาทักษะของผู้ขับขี่ และสร้างประโยชน์ในกับธุรกิจในระยะยาว"
ภารกิจสำคัญของการแข่งขันเอเชีย แปซิฟิค ฟูเอลวอทช์ ชาเลนจ์ คือการเพิ่มประสิทธิภาพการขับขี่โดยสร้างภาระแก่ธุรกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุด นับตั้งแต่การเปิดตัวครั้งแรกในปี 2007 ได้มีผู้เข้าร่วมกว่า 15,000 คนในฐานะทูตของชุมชนฟูเอลวอทช์ ที่ร่วมแบ่งปันทักษะและความรู้ด้านเทคนิคที่ได้จากการแข่งขัน ในการส่งเสริมการใช้เชื้อเพลิงอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ผู้ขับขี่ได้พัฒนาตนเอง เพื่อให้ภาคธุรกิจได้สร้างผลกำไรอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย และเพื่อให้สังคมได้พัฒนาอย่างอย่างยั่งยืน - เพราะเชื้อเพลิงทุกหยดมีค่า