กรุงเทพฯ--11 ต.ค.--เจซีแอนด์โค พับลิครีเลชั่นส์
บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) เดินหน้าโครงการตะลุยโลกแสตมป์ต่อเนื่องเป็นปีที่ 9ภายใต้แนวคิด"ย้อนเวลามหาสนุก" ผ่านองค์ความรู้บนแสตมป์ที่ระลึกชุด 100 ปี สถานีรถไฟหัวลำโพง แสตมป์ที่ถ่ายทอดเรื่องราว ความเป็นมาของสถานีรถไฟกรุงเทพ หรือสถานีรถไฟหัวลำโพงในปัจจุบันโดยไปรษณีย์ไทยนำเยาวชนไปสัมผัสและรับรู้เรื่องราวการทำงานของส่วนต่างๆ ในสถานีรถไฟ และเส้นทางรถไฟ พร้อมนั่งรถไฟย้อนเวลาไปจังหวัดพระนครศรีอยุธยาเพื่อสัมผัสความสวยงามของเมืองเก่าในประวัติศาสตร์ เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้และพัฒนาศักยภาพทางปัญญาแก่เยาวชน พร้อมนำเยาวชนเรียนรู้เรื่องราวในอดีต กระตุ้นความเป็นนักคิด นักสร้างสรรค์ในกิจกรรมต่างๆ ประกอบด้วย กิจกรรมมาทำความรู้จักรถไฟกรุงเทพกันเถอะ กิจกรรมตั๋วล่ะมีไหม กิจกรรมสถานีบิงโก กิจกรรมจิ๊กซอว์ทะลุมิติ อย่างไรก็ตามไปรษณีย์ไทยมุ่งหวังให้การจัดกิจกรรมดังกล่าวช่วยเสริมสร้างความรอบรู้ผ่านตราไปรษณียากร ควบคู่กับการส่งเสริมการเรียนรู้และพัฒนาศักยภาพทางปัญญาแก่เยาวชน ภายใต้แนวคิด "แสตมป์ยิ่งเรียนรู้ ยิ่งรอบรู้"
นางปริษา ปานะนนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานตลาดบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด กล่าวว่า กิจกรรมตะลุยโลกแสตมป์ครั้งที่ 2 ประจำปี2559 นี้ ได้นำตราไปรษณียากรที่ระลึกชุด 100 ปีสถานีรถไฟกรุงเทพ มาเป็นแนวคิดหลักในการถ่ายทอดเรื่องราว ความเป็นมาของสถานีกรุงเทพ หรือสถานีรถไฟหัวลำโพงในปัจจุบัน ผ่านดวงแสตมป์ 4 ดวงซึ่งเป็นภาพของสถานีหัวลำโพงในห้วงเวลาสำคัญตั้งแต่ยุคแรกสมัยรัชกาลที่ 6 และยุคถัดมาช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ส่วนอีกสองดวงเป็นภาพถ่ายมุมสูงและทัศนียภาพยามค่ำคืนในยุคปัจจุบันโดยเยาวชนที่เข้าร่วมเป็นผู้ที่ร่วมกิจกรรมกับเฟซบุ๊กตะลุยโลกแสตมป์ บุตรหลานการรถไฟฯ และไปรษณีย์ไทยอายุระหว่าง 8 -13 ปี รวมทั้งสิ้น 100 คน
นางปริษา กล่าวต่อว่า เด็ก ๆ จะได้ร่วมสนุกสนานพร้อมเรียนรู้จาก 4 กิจกรรมหลักคือ
กิจกรรมที่ 1 มารู้จักสถานีรถไฟกรุงเทพ กันเถอะ เริ่มต้นนำเยาวชนย้อนเวลาทะลุมิติด้วยการสัมผัสและรับรู้เรื่องราวของสถานีรถไฟกรุงเทพ(หัวลำโพง) ซึ่งเป็นสถานีรถไฟหลักที่เป็นศูนย์รวมของผู้คนที่เลือกเดินทางด้วยรถไฟ ตั้งแต่ความเป็นมาของสถานีรถไฟกรุงเทพ ความรู้เกี่ยวกับหลุมหลบภัย และอนุสาวรีย์ช้างสามเศียร พร้อมเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์รถไฟ ที่รวบรวมสิ่งของเครื่องใช้ตั้งแต่สมัยกรมรถไฟทางหลวง รวมถึงได้ดูการทำงานของห้องจำหน่ายตั๋ว โดยมีวิทยากรของสถานีรถไฟกรุงเทพ เป็นให้ความรู้แก่เยาวชน
กิจกรรมที่ 2 ตั๋วล่ะ มีไหม ร่วมกันถอดรหัสปริศนาจากคำใบ้ต่างๆ โดยนำความรู้ที่ได้จากการดูการทำงานของห้องจำหน่ายตั๋วมาใช้ในการไขโจทย์ปัญหา เพื่อให้ได้หมายเลขขบวนรถไฟที่เยาวชนจะโดยสาร เมื่อใส่หมายเลขขบวนลงในแบบจำลองตั๋วรถไฟถูกต้องแล้ว เยาวชนก็จะได้รับตั๋วรถไฟจริงเพื่อนำไปขึ้นรถไฟ เดินทางสู่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
กิจกรรมที่ 3 สถานีบิงโก ทำความรู้จักสถานีรถไฟที่ขบวนรถไฟวิ่งผ่านจากสถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง) ถึง สถานีอยุธยา ซึ่งขบวนรถไฟสาย 209 นี้จะผ่านสถานีต่างๆ 16 สถานี โดยเยาวชนจะได้รับตารางบิงโกคนละ 1 แผ่น และจะต้องนำรายชื่อสถานีทั้ง 16 สถานีเขียนเติมลงในตารางให้ครบ พร้อมรอฟังการสุ่มเอ่ยชื่อสถานีจากผู้นำกิจกรรมใครกากบบาทตามชื่อที่ได้ยินครบตามแนวบิงโกก่อนถือว่าเป็นผู้ชนะ กิจกรรมนี้เพื่อให้เยาวชนมีสมาธิจดจ่อกับกิจกรรมลดอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากการวิ่งเล่นบนรถไฟขณะเดินทาง
กิจกรรมที่ 4 จิ๊กซอว์ทะลุมิติร่วมผจญภัยในเมื่อเก่า โดยเยาวชนจะได้รับภารกิจในการตามหาชิ้นส่วนของภาพจำลองพระที่นั่งสรรเพชญปราสาทในอดีต ที่ซ่อนอยู่ตามสถานที่ต่างๆ บริเวณวัดพระศรีสรรเพชญ์มาประกอบให้เป็นภาพที่สมบูรณ์ เพื่อเสริมสร้างความเป็นนักผจญภัยให้ได้ออกเดินทางตามแผนที่จริงๆ แล้วทดสอบไหวพริบและความร่วมมือในการทำงานเป็นทีมเพื่อบรรลุเป้าหมายของภารกิจให้สำเร็จ
กิจกรรมตะลุยโลกแสตมป์จัดติดต่อกันมาเป็นปีที่ 9 โดยมีเยาวชนร่วมโครงการฯ แล้วกว่า 3,000 คน ซึ่งไปรษณีย์ไทยยังคงมุ่งมั่นในการจัดกิจกรรมดังกล่าวต่อไปในทุกๆปี เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการเสริมสร้างการเรียนรู้นอกห้องเรียนให้แก่เด็กและเยาวชน เห็นคุณค่าและภาคภูมิใจในประวัติศาสตร์ เอกลักษณ์ และภูมิปัญญาของชาติ ผ่านดวงตราไปรษณียากรที่ประกอบด้วยองค์ความรู้มากมายตามภาพสิ่งของหรือสถานที่ที่ปรากฏบนดวงแสตมป์ พร้อมทั้งปลูกฝังให้เยาวชนเห็นคุณค่าของแสตมป์ในฐานะเป็นสื่อเรียนรู้ภายใต้แนวคิด "แสตมป์ยิ่งเรียนรู้ ยิ่งรอบรู้" นางปริษา กล่าวทิ้งท้าย
ด้านเด็กหญิงวริศรา เพ็ชร์จันทร์ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเทพประทานพร อายุ 9 ปี เล่าว่า ตนเองมีโอกาสได้เข้าร่วมกิจกรรมตะลุยโลกแสตมป์แล้วหลายครั้ง เนื่องจากคุณป้าทำงานที่ไปรษณีย์ ที่ผ่านมาเคยได้ไปร่วมกิจกรรมตะลุยโลกแสตมป์ตอน ผู้พิทักษ์ท้องทะเลไทย เมื่อปีที่ผ่านมาได้เข้าชมพิพิธภัณฑ์ใต้ท้องทะเลรู้สึกตื่นเต้นที่ได้เห็นสัตว์น้ำหลายชนิด สำหรับครั้งนี้ก็รู้สึกตื่นเต้นเพราะได้มาเยือนสถานีรถไฟหัวลำโพงเป็นครั้งแรกทำให้ได้เรียนรู้การทำงานของสถานีรถไฟตั้งแต่อดีต ได้รู้ว่าสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 ได้รู้ว่าอนุสาวรีย์ช้างสามเศียรที่อยู่ด้านหน้าเคยเป็นหลุมหลบระเบิดในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 มาก่อน และที่สำคัญได้รู้ขั้นตอนก่อนจะได้ขึ้นรถไฟเดินทางไปยังที่ต่างๆ ต้องทำอย่างไรบ้าง และที่ประทับใจที่สุดคือการได้เดินทางด้วยรถไฟเป็นครั้งแรก ระหว่างทางได้เห็นชุมชน สิ่งก่อสร้าง ท้องนา ที่แปลกตาไปกว่าการนั่งรถยนต์ เพราะได้ใกล้ชิดกับสิ่งเหล่านี้มากกว่า สำหรับกิจกรรมที่ชอบมากที่สุดคือ กิจกรรมสถานีบิงโก เพราะเป็นกิจกรรมที่ได้ทำระหว่างนั่งรถไฟ ได้รู้จักสถานีต่างๆ ว่าจากกรุงเทพถึงอยุธยาต้องผ่านสถานีถึง 16 สถานี และมีสถานีอะไรบ้าง อีกทั้งเป็นการฝึกสมาธิให้ตั้งใจฟังคำใบ้อีกด้วย
สำหรับเด็กหญิงอติกานต์ รินทะรึก นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนพระหฤทัยดอนเมือง อายุ 9 ปี เล่าว่า การร่วมกิจกรรมตะลุยโลกแสตมป์ครั้งนี้ ทำให้ตนเองได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ โดยเฉพาะได้เรียนรู้เรื่องราวประวัติศาสตร์ต่างๆ ของสถานีรถไฟกรุงเทพ หรือสถานีรถไฟหัวลำโพงในปัจจุบันผ่านดวงแสตมป์ที่ระลึก "100 ปี สถานีรถไฟกรุงเทพ" นอกจากนี้กิจกรรมนี้ยังทำให้ตนได้ขึ้นรถไฟอีกครั้ง หลังจากที่เคยขึ้นไปต่างจังหวัดกับที่บ้านเมื่อยังเด็ก ครั้งนี้การนั่งรถไฟสนุกไปอีกแบบเพราะได้นั่งกับเพื่อนๆ และมีกิจกรรมให้ทำระหว่างทาง สำหรับกิจกรรมที่ชอบมากที่สุดในกิจกรรมตะลุยโลกแสตมป์ครั้งนี้คือ กิจกรรมจิ๊กซอว์ทะลุมิติ เพราะการออกตามหาชิ้นส่วนของจิ๊กซอว์ทำให้ได้เดินชมความสวยงามบริเวณต่างๆ ของวัดพระศรีสรรเพชญ์ด้วย ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ได้มาเที่ยววัดแห่งนี้ และทำให้ได้ฝึกการทำงานร่วมกับเพื่อนในการค้นหาคำตอบเพื่อให้ได้จิ๊กซอว์แต่ละชิ้น อย่างไรก็ตามถ้ามีโอกาสตนจะขอสมัครเข้าร่วมโครงการตะลุยโลกแสตมป์อีกแน่นอน เพราะชอบที่ได้ไปตามรอยสถานที่ต่างๆ จากองค์ความรู้บนดวงแสตมป์
สำหรับประชาชนที่สนใจแสตมป์ที่ระลึกชุด"100 ปี สถานีรถไฟกรุงเทพ"สามารถหาซื้อได้แล้ว ณ ที่ทำการไปรษณีย์ทั่วประเทศ ในราคาดวงละ 3 บาท เต็มแผ่น 30 บาท (10 ดวง) พร้อมซองวันแรกจำหน่าย 23 บาท สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่THP Contact Center 1545 หรือเว็บไซต์ www.thailandpost.co.th และไลน์stampinlove