กรุงเทพฯ--9 ก.พ.--กทม.
กรุงเทพมหานครจัดพิธีทูลเกล้าฯ ถวายกุญแจเมืองแด่สมเด็จพระราชินีนาถมาร์เกรเธอที่ 2 แห่งเดนมาร์ก เนื่องในโอกาสเสด็จฯ เยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการในฐานะพระราชอาคันตุกะของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ระหว่างวันที่ 7-12 ก.พ.44
เมื่อวันที่ 7 ก.พ.44 เวลา 15.55 น.ที่ผ่านมา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมด้วยสมเด็จพระราชินีนาถมาร์เกรเธอที่ 2 แห่งเดนมาร์ก และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พร้อมด้วยเจ้าชายเฮนริก พระราชสวามี และมกุฎราชกุมารแห่งเดนมาร์ก ประทับรถยนต์พระที่นั่งถึงลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ โดยมีนายสมัคร สุนทรเวช ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครและภริยา ร.ต.ต.เกรียงศักดิ์ โลหะชาละ ปลัดกรุงเทพมหานครและภริยา พร้อมด้วย คณะผู้บริหาร ข้าราชการกรุงเทพมหานคร เฝ้าฯรับเสด็จฯ
ในวาระดังกล่าว ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้กราบบังคมทูลถวายรายงานแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และเมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงแนะนำผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครและปลัดกรุงเทพมหานครแด่สมเด็จพระราชินีนาถฯ แห่งเดนมาร์ก เจ้าชายเฮนริก พระราชสวามี และมกุฎราชกุมารแห่งเดนมาร์กแล้ว คุณหญิงสุรัตน์ สุนทรเวช ภริยาผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ทูลเกล้าฯ ถวายมาลัยข้อพระกรแด่สมเด็จพระราชินีนาถฯ แห่งเดนมาร์ก นางบุญรับ โลหะชาละ ภริยาปลัดกรุงเทพมหานคร ทูลเกล้าฯ ถวายมาลัยข้อพระกรแด่เจ้าชายเฮนริก พระราชสวามี นางธารินทร์ สงวนเสริมศรี รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ทูลเกล้าฯ ถวายมาลัยข้อพระกรแด่มกุฎราชกุมารแห่งเดนมาร์ก นางจิตติมา หมันงะ ภริยานายมุดตาฝ้า หมันงะ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ทูลเกล้าฯ ถวายมาลัยข้อพระกรแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว นางณัฐยา กิติสิน ภริยานพ.ประพันธ์ กิติสิน รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ทูลเกล้าฯ ถวายมาลัยข้อพระกรแด่สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ จากนั้น ทุกพระองค์เสด็จฯเข้าสู่พลับพลามหาเจษฎาบดินทร์
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวรับเสด็จฯ ในนามของประชาชนชาวกรุงเทพมหานคร จากนั้น ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ทูลเกล้าฯถวายกุญแจเมืองแด่สมเด็จพระราชินีนาถฯ แห่งเดนมาร์ก และพระองค์ทรงมีพระราชดำรัสตอบ เวลา 16.10 น. ทุกพระองค์เสด็จฯออกจากพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ ไปยังรถยนต์พระที่นั่ง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครและภริยา ปลัดกรุงเทพมหานครและภริยา พร้อมด้วย คณะผู้บริหาร ข้าราชการกรุงเทพมหานคร เฝ้าฯ ส่งเสด็จ
สำหรับกุญแจเมืองที่กรุงเทพมหานครได้ทูลเกล้าฯ ถวายแด่สมเด็จพระราชินีนาถมาร์เกรเธอที่ 2 แห่งเดนมาร์ก ในโอกาสเสด็จพระราชดำเนินเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ในฐานะพระราชอาคันตุกะของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ระหว่างวันที่ 7-12 ก.พ.44 นั้น เป็นทองคำแท้ความยาว 6 นิ้ว น้ำหนักทองประมาณ 90 กรัม หัวกุญแจด้านหน้าและด้านหลังเป็นรูปสัญลักษณ์ของกรุงเทพมหานคร คือ รูปพระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ ดุนนูนมีลวดลายไทยล้อมรอบ ก้านกุญแจด้านหน้าสลักดุนว่า CITY OF BANGKOK ด้านหลังสลักดุนว่า BANGKOK THAILAND เดิมกรุงเทพมหานครได้จัดทำกุญแจเมืองเป็นกะไหล่ทองมอบให้เป็นประเพณีแด่แขกผู้มาเยือน แต่ตั้งแต่ปีพุทธศักราช 2543 เป็นต้นมา กรุงเทพมหานครได้จัดทำกุญแจเมืองสัญลักษณ์กรุงเทพมหานครที่เป็นทองคำแท้เพื่อถวายแด่พระราชอาคันตุกะ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ เมื่อวันที่ 5 ธ.ค.42 ทั้งนี้กรุงเทพมหานครได้ถวายกุญแจเมืองสัญลักษณ์กรุงเทพมหานครทองคำแท้แด่สมเด็จพระราชาธิบดีและสมเด็จพระราชินีแห่งมาเลเซีย ซึ่งเสด็จพระราชดำเนินเยือนประเทศไทยในฐานะพระราชอาคันตุกะฯ เมื่อวันที่ 27 มี.ค.43 สำหรับของที่ระลึกที่กรุงเทพมหานครจะทูลเกล้าฯ ถวายแด่สมเด็จพระราชินีนาถฯ แห่งเดนมาร์ก ในวันที่ 9 ก.พ.44 เวลา 15.25 น. ณ ลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์นั้น เป็นช้างแกะสลักจากตอไม้ตาล ซึ่งต่างจากช้างแกะสลักจากไม้สัก เพราะมีน้ำหนักมากกว่าและเป็นสีเทา เมื่อแกะสลักแล้วจึงมีลักษณะเหมือนผิวหนังช้างจริงทุกประการ
ในการเตรียมการรับเสด็จฯ สมเด็จพระราชินีนาถมาร์เกรเธอที่ 2 แห่งเดนมาร์ก เจ้าชายเฮนริกพระราชสวามี และมกุฎราชกุมารแห่งเดนมาร์ก กรุงเทพมหานครได้ดำเนินการปรับปรุงและปลูกซ่อมต้นไม้บริเวณลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ให้สวยงามด้วยไม้ดอกไม้ประดับ จำนวน 10,000 ต้น ตัดแต่งกิ่งไม้ยืนต้นรอบบริเวณลานพลับพลาฯ และถนนราชดำเนินตลอดสาย ติดกล้วยไม้บนต้นประดู่รอบลานพลับพลาฯ โดยใช้กล้วยไม้ จำนวน 2,000 มัด (16,000 ช่อดอก) ประดับไม้ดอกไม้ประดับ เช่น ดาวเรือง บานชื่น พิทูเนีย แพงพวย บริเวณสะพานผ่านฟ้าลีลาศ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย และซุ้มบริเวณหน้าพลับพลาฯ จำนวน 30,000 กระถาง ทั้งนี้เพื่อความสวยงามและสมพระเกียรติพระราชอาคันตุกะของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถที่ได้เสด็จฯ มาเยือนประเทศไทยในครั้งนี้--จบ--
-นศ-