การโอนลูกหนี้ด้อยคุณภาพของธนาคารกรุงไทยไปยัง บบส.สุขุมวิท

ข่าวทั่วไป Wednesday September 27, 2000 13:50 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--27 ก.ย.--ธนาคารกรุงไทย
21 ก.ย. 2543 มีการลงนามในสัญญาที่เกี่ยวข้องกับการโอนลูกหนี้ด้อยคุณภาพของธนาคารไปยัง บบส.สุขุมวิทพร้อมกับการว่าจ้างให้ธนาคารบริหารงานในส่วนที่เกี่ยวข้องเป็นการชั่วคราว รวมจำนวน 3 ฉบับ ซึ่งประกอบด้วย
1. สัญญาโอนสินทรัพย์ 2. สัญญาว่าจ้างบริหารสินทรัพย์ 3. สัญญาว่าจ้างเป็นตัวแทนเรียกเก็บและชำระหนี้
การลงนามในสัญญาดังกล่าว ก็เพื่อให้เกิดนิติสัมพันธ์ระหว่างธนาคารกับ บบส.สุขุมวิท ให้เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 18 เมษายน 2543 เรื่อง แนวทางการแก้ไขปัญหาหนี้ด้อย คุณภาพกรณีธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ที่กำหนดให้ธนาคารโอนขายลูกหนี้ด้อยคุณภาพตามเกณฑ์เป็นรายลูกค้าที่มียอดการค้างชำระเกิน12 เดือน มากกว่าครึ่งหนึ่งของทุกบัญชีรวมกัน หรืออยู่ในสถานะการดำเนินการตามกฎหมาย ยกเว้นลูกหนี้รายย่อยที่มียอดคงค้างไม่เกิน 5 ล้านบาท ไปยังบริษัทบริหารสินทรัพย์ที่จะจัดตั้งขึ้น โดยมีกองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ เป็นเจ้าของ พร้อมกันนี้ให้ดำเนินการคืนทุนหุ้นบุริมสิทธิจำนวน 108 พันล้านบาท ให้แก่ FIDF เนื่องจากการกลับสำรองเป็นรายได้ ทำให้ธนาคารกรุงไทยมีเงินกองทุนมากเกินความจำเป็น
สำหรับรายละเอียดการดำเนินการสรุปได้ดังนี้
1. สินทรัพย์ของธนาคารที่โอนขายไปยัง บบส.สุขุมวิท เป็นประเภทลูกหนี้สินเชื่อ จำนวน 8,032 ราย ยอดหนี้รวมดอกเบี้ยค้างรับ 520.7 พันล้านบาท โดยประมาณจากยอดเบื้องต้น ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2543 ซึ่งจะต้องมีการปรับปรุงกันอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ยอดหนี้รวมดอกเบี้ยค้างรับคงค้างของลูกหนี้ตามเกณฑ์ ณ สิ้นเดือนกันยายน การเข้าตรวจสอบยอดหนี้และหลักประกันของฝ่ายตรวจสอบของธนาคารแห่งประเทศไทย การตรวจรับมอบเอกสารให้ครบถ้วนสมบูรณ์และเพียงพอต่อการดำเนินคดี และเหตุอื่น ๆ อีกเล็กน้อย ในแต่ละช่วงเวลาที่กำหนดไว้ในสัญญา ซึ่งจะเป็นตัวเลขที่คลาดเคลื่อนจากที่แจ้งไว้ไม่มากนัก และยังคงต่ำกว่าตัวเลข 537 พันล้านบาท ตามกรอบมติ ครม. ที่กำหนดไว้ 2. ราคาในการโอนขายสินทรัพย์ไปยัง บบส.สุขุมวิท เป็นไปตามกรอบมติ ครม. กล่าวคือลูกหนี้ของธนาคารกรุงไทยที่โอนขายไปจะต้องกันสำรองให้ครบถ้วนร้อยละ 100 ตามเกณฑ์ของ ธปท. สำหรับของ FBCB ที่ธนาคารรับโอนมา และได้ขายไปให้กับ บบส.สุขุมวิท จะกันสำรองเพียงเท่ากับสำรองของ FBCB ที่รับโอนมา ณ วันควบรวมกิจการประมาณ43พันล้านบาท ซึ่งจะต้องปรับปรุงค่าเผื่อด้อยค่าทรัพย์สินบางรายการ โดยเฉพาะส่วนสูญเสียจากการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ของ FBCB ที่ธนาคารดำเนินการไปแล้วในช่วงเวลาที่ธนาคารบริหารงานอยู่ 3. การชำระราคา บบส.สุขุมวิท จะจ่ายค่าซื้อลูกหนี้ด้อยคุณภาพในมูลค่าตามราคาที่คำนวณตามวิธีการข้างต้นเป็นเงินประมาณ 321.3 พันล้านบาท โดยชำระเป็นตั๋วสัญญาใช้เงินที่มีอายุ 5 ปี โดยมี FIDF เป็นผู้อาวัลแก่ธนาคาร ระบุอัตราดอกเบี้ยเท่ากับต้นทุนเงินฝาก รวมถึงค่าภาษีธุรกิจเฉพาะและต้นทุนเงินนำส่ง FIDF ด้วย และจะจ่ายชำระดอกเบี้ยในทุก6 เดือน 4. เพื่อเป็นการปรับปรุงโครงสร้างเงินกองทุนของธนาคารให้เหมาะสมกับโครงสร้างสินทรัพย์ที่เปลี่ยนแปลงไป ภายหลังการโอนขายสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ ทางการจะโอนเงินสำรองพึงกันที่ธนาคารได้โอนให้ บบส.สุขุมวิท พร้อมกับการโอนสินทรัพย์ด้อยคุณภาพที่กล่าวข้างต้น กลับคืนให้กับธนาคาร เพื่อธนาคารจักได้บันทึกเป็นรายได้และนำไปล้างรายการขาดทุนสะสม และนำไปคืนทุนให้แก่กองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ ด้วยการลดจดทะเบียนส่วนที่เป็นหุ้นบุริมสิทธิที่ออกให้แก่กองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ ทั้งนี้ ธนาคารจะได้ออก warrant จำนวน 10.8 ล้านหน่วย มูลค่า 108,000 ล้านบาท แลกกับการลดทุนคืนทุนหุ้นบุริมสิทธิที่กล่าว โดยธนาคารจะได้จดทะเบียนเพิ่มทุนเพื่อรองรับ warrant ดังกล่าวตามมติที่ประชุมผู้ถือหุ้นต่อไป 5. นอกจากนี้ บบส.สุขุมวิท ได้ว่าจ้างให้ธนาคารดำเนินการบริหารจัดการลูกหนี้ด้อยคุณภาพที่ซื้อของธนาคารไปในช่วง 6เดือน ที่ยังอยู่ระหว่างการจัดทำขอบเขตของงาน (TOR) ในการทำข้อเสนอ เพื่อคัดเลือกผู้บริหารสินทรัพย์ที่เหมาะสมมาดำเนินการบริหารจัดการลูกหนี้ด้อยคุณภาพแก่ บบส.สุขุมวิท ดังกล่าวต่อไป ซึ่งประกอบด้วย
5.1 การบริหารสินทรัพย์ การจัดการด้านการเรียกเก็บและบริหารหนี้และหลักประกัน การปรับปรุงโครงสร้างหนี้การจัดทำบัญชีและรายงาน รวมถึงระบบข้อมูลลูกหนี้และสารสนเทศอื่น ตลอดจนอำนวยความสะดวกในด้านต่าง ๆ แก่ บบส. สุขุมวิท ด้วย
5.2 การเป็นตัวแทนเรียกเก็บและชำระหนี้ โดยการเรียกเก็บและรับชำระหนี้ลูกหนี้ให้ บบส.สุขุมวิท การติดตามทวงถามและเรียกเก็บหนี้ การรับชำระหนี้จากคู่สัญญาสินทรัพย์ผ่านเคาน์เตอร์ของธนาคาร การจัดทำบัญชีและรายงานผลการเรียกเก็บและรับชำระหนี้ในกิจการด้านเรียกเก็บ ตลอดจนการแจ้งผู้บริหารสินทรัพย์ทราบเกี่ยวกับคำบอกหรือเอกสารใด ๆ เกี่ยวกับ บบส.สุขุมวิท 6. ในส่วนของลูกหนี้ที่โอนไป บบส.สุขุมวิท และยังมีศักยภาพในการประกอบธุรกิจและต้องใช้สินเชื่อเพิ่มเติมในการดำเนินธุรกิจ ธนาคารจะเป็นผู้จัดทำสรุปข้อมูลนำเสนอแก่ บบส.สุขุมวิท เพื่อพิจารณาดำเนินการอนุมัติก่อนทุกราย ทั้งนี้ บบส.สุขุมวิท จะเป็นผู้ค้ำประกันให้กับธนาคารในการอนุมัติให้สินเชื่อแก่ลูกค้าประเภทนี้ต่อไป 7. จนกระทั่งปัจจุบันนี้ บบส.สุขุมวิท ได้จัดตั้งและจดทะเบียนเป็นบริษัทบริหารสินทรัพย์เรียบร้อยแล้ว มีคุณเตชะพิทย์ แสงสิงแก้ว ผู้ช่วยผู้ว่าการ ธปท. เป็นประธานคณะกรรมการ บริษัท เอินส์ท แอนด์ ยัง เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และบริษัทเบเคอร์ แอนด์ แม็คเค็นซี่ เป็นที่ปรึกษาด้านกฎหมาย อยู่ระหว่างการดำเนินการจัดหากรรมการผู้จัดการ และการจัดทำข้อเสนอและขอบเขตงานในการหาผู้บริหารสินทรัพย์เข้ามาดำเนินการบริหารจัดการกับลูกหนี้ด้อยคุณภาพที่ซื้อไปจากธนาคาร
นอกจากนี้ ในวันที่ 22 กันยายน 2543 ธนาคารจะดำเนินการขายหุ้น บบส.สุขุมวิท ทั้งหมด ให้แก่กองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯในราคาตามมูลค่าเท่ากับทุนที่จดทะเบียนเรียกชำระไว้แล้ว 2.5 ล้านหุ้น ๆ ละ 10 บาท เป็นเงิน 25 ล้านบาท เพื่อให้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ เป็นผู้ถือหุ้นใน บบส.สุขุมวิท ในสัดส่วนร้อยละ 100 ต่อไป--จบ--
-สส-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ