กรุงเทพฯ--19 ต.ค.--คอร์ แอนด์ พีค
อ.หยาง เผยเซิน แพทย์จีนประจำคณาเวชคลินิกการแพทย์แผนไทย
การรักษาภาวะผู้มีบุตรยากตามหลักแพทย์แผนจีนนั้น เกิดจากภาวะไตหยางอ่อนแอหรือที่เรียกว่ามดลูกเย็น โดยโรคนี้เกิดจากความไม่สมดุลของหยินและหยางภายในร่างกาย ซึ่งผู้ที่มีบุตรยากส่วนใหญ่ มักมีอาการปวดศีรษะบ่อย เมื่อลุกขึ้นเร็ว จะเกิดอาการวูบ บางคนมีอาการหนาวสั่นและไวต่ออากาศมาก สำหรับประจำเดือน ก็มักจะมีภาวะผิดปกติ เช่น ประจำเดือนมาไม่ตรงวันที่กำหนด บางคนมาช้า บางคนเร็ว หรือแม้กระทั่งมามากหรือมาน้อยผิดปกตินั่นเอง นอกจากนี้สีของประจำเดือนจะมีลักษณะแตกต่างกันออกไป อาจจะค่อนข้างคล้ำ มีก้อนโดยก่อนหน้าจะเป็นประจำเดือน ก็จะมีอาการปวดท้อง หรือถึงขั้นปวดศีรษะหรือเป็นไข้เลยทีเดียว ทั้งนี้ยังมีปัจจัยอีกหลายสาเหตุที่ส่อแววว่า บุคคลนั้นกำลังอยู่ในภาวะเสี่ยงของการมีบุตรยาก นอกจากการรักษาโดยแพทย์แผนปัจจุบันแล้ว การรักษาตามศาสตร์แพทย์แผนจีน ถือเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจมาก ๆ ในปัจจุบัน
อ.หยาง เผยเซิน แพทย์จีนประจำคณาเวชคลินิกการแพทย์แผนไทย กล่าวว่า การรักษาภาวะผู้มีบุตรยากตามหลักแพทย์แผนจีนนั้น สาเหตุที่สำคัญ คือ การเกิดภาวะมดลูกเย็น ซึ่งตามหลักแพทย์จีน เกิดจาก 3 สาเหตุใหญ่ ๆ ได้แก่ 1.การรับประทานอาหารประเภทของเย็น อาทิ หัวไชเท้า มะระ แตงโม มะพร้าว ส้ม และไอศครีม 2. การสวมเสื้อผ้าบางและไม่มิดชิด จึงทำให้เกิดลมเข้าทางสะดือได้ง่าย และ3.ผู้ที่มีภาวะหยางมากในร่างกาย ไม่ควรรับประทานน้ำผักและผลไม้ปั่น เพราะจะทำให้ร่างกายเย็น ทั้งนี้ผู้ที่มีอาการของมดลูกเย็น มักจะมีอาการเหนื่อยง่ายกว่าคนปกติ ร่างกายอ่อนเพลีย นอนไม่เต็มอิ่ม บางครั้งเกิดอาการท้องผูก หรือเกิดอาการร้อนบริเวณ อุ้งมือและอุ้งเท้า ซึ่งอาการเหล่านี้แต่ละคน จะมีอาการที่แสดงออกมาไม่เหมือนกัน หรือมีหลาย ๆ อาการรวมกัน หากสามารถปรับสภาพร่างกายให้แข็งแรงขึ้นมาก็อาจจะมีโอกาสในการตั้งครรภ์โดยธรรมชาติได้โดยง่าย
การรักษาภาวะมีบุตรยากตามตำราแพทย์แผนจีนจะต้องเริ่มต้นจากการแมะหรือการจับชีพจร และการดูลิ้น เพิ่มวินิจฉัยและหาวิธีที่ดีที่สุด ซึ่งจะเน้นการรับประทานยาสมุนไพรเพื่อเข้าไปบำรุงภายในร่างกาย ชนิดของยาจะมีทั้งแคปซูลและยาต้ม โดยการเลือกรับประทานขึ้นอยู่กับว่าคนไข้สะดวกทานชนิดไหน แต่การรับประทานยาต้มจะเข้าถึงยาได้ดีกว่าการรับประทานแบบแคปซูล สมุนไพรจีนที่รักษาภาวะมีบุตรยากหรือมดลูกเย็น ประกอบด้วย หูจื่อ จ้อเกว่ย และ อี่หมูเฉ่า
แพทย์แผนจีนจะนำสมุนไพรทั้ง 3 ชนิด มาห่อรวมกันและให้คนไข้นำไปต้มทานที่บ้าน โดยให้รับประทานยาตอนช่วงท้องว่างหรือก่อนมื้ออาหารก็ได้ตามสะดวก แต่ในกรณีคนที่มีปัญหาท้องเสียเมื่อรับประทานยาจีน ให้ปรับเวลาทานยาเป็นหลังมื้ออาหารแทน และควรรับประทานติดต่อกันเป็นระยะเวลา 1 เดือน วิธีการต้มสมุนไพรจีน ยาจีน 1 ห่อ สามารถต้มได้ 2 - 3 ครั้ง โดยต้มแต่ละครั้งใช้อัตราส่วนของน้ำเท่ากัน เติมน้ำสะอาดให้ท่วมยา แช่ยาไว้ประมาณ 10-20 นาที เพื่อให้สมุนไพรดูดซับน้ำไว้ ในการต้มควรใช้ไฟอ่อนๆ ต้มไปเรื่อยๆ จนเดือดจะอยู่ที่ประมาณ 40 นาทีถึง 1ชั่วโมง หลังจากต้มสมุนไพรจนเดือดให้เทน้ำสมุนไพร ใส่แก้วทิ้งไว้พออุ่นๆ แล้วค่อยนำมาดื่มเพื่อบำรุงรักษาภายในของร่างกาย ถ้าหากปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง ก็จะทำให้ร่างกายแข็งแรง และเพิ่มโอกาสในการมีบุตร
อ.หยาง เผยเซิน แพทย์จีนประจำคณาเวชคลินิกการแพทย์แผนไทย กล่าวว่า นอกจากวิธีการรับประทานยาสมุนไพรแล้ว การครอบแก้ว ยังเป็นการขับสารพิษให้ออกมาจากร่างกาย เนื่องจากบางคนมีพิษอยู่ในตัวมาก จึงทำให้เกิดภาวะมีบุตรยาก ฉะนั้นถ้าหากขับพิษออกมาแล้ว และรับประทานยาสมุนไพรบำรุง ก็จะสามารถช่วยรักษาอาการของมดลูกเย็น ที่เป็นสาเหตุของภาวะการมีบุตรยากได้อย่างแน่นอน
ผู้ที่สนใจเข้ารับการรักษาภาวะมีบุตรยาก สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ คณาเวชคลินิก การแพทย์แผนไทย 02-6370177 หรือ0863785332 หรือ www.guashathai.com