ปลูกป่า = ทำลายป่า อย่าดรามา

ข่าวอสังหา Wednesday May 11, 2016 11:02 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--20 ต.ค.--เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส เราปลูกป่ากันมาเท่าไหร่แล้ว เสียงบประมาณมหาศาล แล้วป่าทำไมหด การปลูกป่าทำให้เราหลงคิดว่านี่คือแนวทางการรักษาป่าให้ยั่งยืน แท้จริงแล้วคือการเบื่อเมาของผู้ทำลายป่า ที่เบนความสนใจของสาธารณชนจากอาชญากรรของพวกเขา จะได้ไม่สนใจการก่อกรรมทำลายป่าของพวกเขา ต่างหาก ปลูกป่าเรื่องดรามา เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม ศกนี้ "บางจาก" จัดรณรงค์ให้ชาว net กด like ให้ครบ 100,000 likes เพื่อจะได้มอบเงินช่วยปลูกป่า 1 ล้านบาท ปรากฏว่ามีคนกดมากกว่า 550,000 likes แล้วในวันนี้ ดูเป็นสิ่งอนุโมทนายิ่ง และเป็นการโฆษณาที่มีประสิทธิผลเป็นอย่างยิ่ง บางทีเราดูบริษัทปูน บริษัทน้ำมันทำดีเหล่านี้แล้วก็ชื่นใจ แต่นี่ไม่ใช่ภารกิจหลักต่อความรับผิดชอบต่อสังคม ภารกิจหลักอยู่ที่การดูแลเด็กปั้มให้ได้คุณภาพดีๆ ก่อนเถอะ ขายสินค้าในราคาที่เป็นธรรมต่อประชาชนต่างหาก ยิ่งกว่านั้นยังมีดาราออกมารณรงค์กันยกใหญ่ ซึ่งก็เป็นสิ่งที่พึงอนุโมทนา แต่ผมก็ได้เขียนให้เห็นถึงในอีกมุมหนึ่งแล้วว่า " 1,000 โจอี้และสุหฤทก็ช่วยป่าไม่ได้ แถมช่วยทำลายป่า!?!" (bit.ly/1WEAGxd) เพราะเงิน 1 ล้านบาทสามารถปลูกป่าได้เพียง 250 ไร่ ถ้าจะปลูก 500,000 ไร่ ต้องใช้เงินประมาณ 2,000 ล้านบาท ที่ปลูกกันอย่างสนุกสนานนั้น ส่วนหนึ่งก็ดีที่ได้สร้างสัมพันธภาพที่ดีระหว่างผู้ปลูก แต่ป่าปลูกส่วนมากตายเกือบหมด ป่าถูกทำลายย่อยยับ ปลูกไม่มีวันทัน ท่านทราบหรือไม่ว่าในเวลาเพียงปีเดียว ป่าไม้ของไทยถูกทำลายไปประมาณ 1 ล้านไร่ ท่านทราบหรือไม่ว่า 1 ล้านไร่นั้นกว้างใหญ่ขนาดไหน ขนาดใหญ่กว่ากรุงเทพมหานครที่ 1,568 ตารางกิโลเมตรเล็กน้อยเท่านั้น!! นายสืบ นาคะเสถียร ได้สละชีวิตของตนเองเพื่อเรียกร้องให้มีการรักษาป่าไม้ แต่นี่เท่ากับท่านสละชีวิตไปสูญเปล่า เพราะป่าไม้ก็ยังหายไปอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้เราไม่ควรอนุโมทนากับการฆ่าตัวตาย แต่สิ่งที่ท่านทำยิ่งใหญ่กว่าที่คุณโจอี้ บอยและคุณสุหฤททำมากมาย ก็ยังช่วยอะไรไม่ได้เลย ประเด็นสำคัญที่พึงพิจารณาก็คือ เจ้าหน้าที่ปล่อยให้มีการตัดไม้ทำลายป่ากันมากมายได้อย่างไร ทำไมไม่ปราบปรามอย่างจริงจัง ที่ผ่านมาก็มักมีข่าวเจ้าหน้าที่หรือ 'ผู้มีสี' ฝ่ายต่างๆ ต่างตัดไม้ทำลายป่ากันมากมาย แต่แทบจับมือใครดมไม่ได้ ดังนั้นการส่งเสริมการปลูกป่า ให้ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนไปช่วยกันปลูก อาจทำให้เป็นกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์ที่น่ารักน่าชัง แต่ไม่มีประสิทธิผลแต่อย่างใด ป่าที่ปลูกมักตายในเวลาไม่ช้า การปลูกป่ายิ่งไม่ได้ผล ต้องมีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจน ที่สำคัญที่สุดก็คือ การปลูกป่ากลายเป็นยาเบื่อเมาให้ประชาชนในเมืองเข้าใจว่าเป็นหนทางการแก้ไขปัญหาป่าไม้ ดังนั้นใครที่ไปปลูกป่าก็จะได้รับการแซ่ซ้องสรรเสริญกันใหญ่ ในขณะเดียวกันเราก็ไม่ค่อยใส่ใจการปราบปรามการบุกรุกทำลายป่า เพราะเป็นงานเสี่ยง งานยาก งานที่ต้องจริงจัง หากภาคเอกชนจะทำดีเพื่อป่าไม้ ก็ควรร่วมกันบริจาคเงินเพื่อตั้งทีมอาสาสมัครกล้าตายไปช่วยกันรายงาน-เปิดโปงการบุกรุกทำลายป่ามากกว่าการปลูกป่า โดยจ้าง "มืออาชีพ" ไปสำรวจแล้ว เชื่อว่าการทำเช่นนี้คงช่วยปรามการบุกรุกป่าได้ชะงัดทีเดียว ในการแก้ไขปัญหาการตัดไม้ทำลายป่านั้น รัฐบาลควรเน้นการปราบปรามการตัดไม้ทำลายป่าด้วยมาตรการทางกฎหมายเป็นสำคัญ ไม่ใช่การให้ความสำคัญกับการส่งเสริมการปลูกป่า หากฉุกคิดกันสักนิด การส่งเสริมการปลูกป่าอาจเท่ากับเป็นการบิดเบือนประเด็น ทำให้สังคมส่วนรวมไม่มีโอกาสตระหนักถึงความจริงที่ทรัพยากรของประเทศถูกปล้นทำลายลงไปทุกวันเพราะหลงนึกว่าป่าสามารถปลูกเสริมแทนพอกัน ในขณะที่การปลูกป่าจึงกลายเป็นการมองทางออกของปัญหาแบบ 'ม้าลำปาง' ที่กลายเป็นการช่วยไม่นำพา ไม่รบกวนการปล้นทำลายป่าโดยไม่ตั้งใจไป อยากช่วยจริง ไปที่เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า เราต้องเน้นการปราบปราม ป้องปราม ต้องช่วยเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า (Forest Ranger) รวมทั้งเจ้าหน้าที่พิทักษ์อุทยานแห่งชาติ (Park Ranger) หรือเจ้าหน้าที่พิทักษ์เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า (Wildlife Ranger) นี่คือบุคลากรผู้ทำหน้าที่คุ้มครองและรักษาอุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า พื้นที่คุ้มครองทางธรรมชาติต่างๆ บุคคลเหล่านี้ยังเป็นผู้ทำหน้าที่ปกป้องมนุษย์ให้พ้นจากภัยธรรมชาติ และการปกป้องธรรมชาติให้พ้นจากการทำลายของมนุษย์อีกด้วย ที่ผ่านมามีการก่อตั้งเว็บไซต์ www.thairanger.com โดยในเว็บไซต์ระบุว่า "ก่อตั้งขึ้นเพี่อบอกเล่าเรื่องราวของผู้ทำหน้าที่รักษากฎหมายและคุ้มครองทรัพยากรธรรมชาติในพื้นที่คุ้มครองของประเทศ หรือที่รู้จักกันในนามของ "ผู้พิทักษ์ป่า" ซึ่งปฏิบัติงานตามเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เขตห้ามล่าสัตว์ป่า อุทยานแห่งชาติ วนอุทยาน พื้นที่ป่าไม้และป่าสงวนแห่งชาติ รวมทั้งพื้นที่คุ้มครองทั้งทางบกและทางทะเลของประเทศไทย เป็นสื่อในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร ความรู้ทางวิชาการ ประสบการณ์ในวิชาชีพ เสริมสร้างกำลังใจ ช่วยเหลือและแบ่งปันในด้านสวัสดิการและเครื่องมืออุปกรณ์ในการปฏิบัติงานของผู้พิทักษ์ป่าไทย" ใครจะบริจาคเงิน บริจาคเพื่อซื้ออุปกรณ์ รวมทั้งอาวุธเพื่อช่วยบุคลากรกลุ่มนี้ หรือตั้งกองกำลังอาสามาช่วยกันพิทักษ์ป่า ต่อสู้กับอาชญากรทำลายป่า น่าจะดีกว่า ส่วนบรรดาเขาหัวโล้นเหล่านั้นที่ถูกทำลายไปแล้ว จะทำอย่างไร ผมจะได้มาเล่าให้ฟังอีกที แต่ที่แน่ๆ คงไม่ใช่ให้คนไปอยู่เก็บกินประโยชน์ในนามการรักษาป่า ซึ่งก็เป็นดรามาอีกแบบหนึ่งเป็นแน่แท้ อ้างอิง: AREA แถลง ฉบับที่ 162/2559: วันพุธที่ 11 พฤษภาคม 2559 ผู้แถลง: ดร.โสภณ พรโชคชัย (sopon@area.co.th) ประธานกรรมการบริหาร ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส หรือ AREA (www.area.co.th): ซึ่งเป็นองค์กรที่มีฐานข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ภาคสนามขนาดใหญ่ที่สุดและปรับปรุงให้ทันสมัยที่สุดในประเทศไทย และดำเนินการเก็บข้อมูลต่อเนื่องมาตั้งแต่ พ.ศ.2537 เป็นศูนย์ข้อมูลที่มีความเป็นกลางทางวิชาการ และเป็นอิสระทางวิชาชีพ โดยไม่ถูกครอบงำโดยผู้มีส่วนได้ส่วนเสียใด ๆ สมาชิกของศูนย์ข้อมูลฯ ได้รับข้อมูลที่เป็น First-hand information ในเวลาเดียวกัน
แท็ก บางจาก   ว่าน  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ