กรุงเทพฯ--25 ต.ค.--กรมสุขภาพจิต
วันนี้ ( 22 ต.ค.59) น.ต.นพ.บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต พร้อมด้วย นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน ผอ.สถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนให้กำลังใจทีมแพทย์และเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยบริการปฐมพยาบาล ณ บริเวณรอบสนามหลวง โดยให้สัมภาษณ์ว่า ในช่วงวันหยุดติดต่อกัน 3 วันนี้ ประชาชนจำนวนมากจะหลั่งไหลเข้ามาถวายสักการะเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์และแสดงความอาลัยถวายพระบาทสมเด็จพระปรมินทรภูมิพลอดุลยเดช เป็นจำนวนมากขึ้น อย่างในวันนี้ มีกิจกรรมพิเศษรวมพลังทำความดี น้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน ด้วยการร่วมร้องเพลง "สรรเสริญพระบารมี" ให้ดังกึกก้องท้องสนามหลวง พี่น้องประชาชนยิ่งมีจำนวนมาก ประกอบกับสภาพอากาศที่ร้อน เสี่ยงที่จะเป็นฮีทสโตรก หรือโรคลมแดด ได้ ซึ่งผู้ที่มีความเสี่ยงในการเกิดฮีทสโตรก คือ ผู้สูงอายุ เด็ก ผู้ที่อดนอน ผู้ที่ดื่มเหล้าจัด ดังนั้น การให้บริการ ณ จุดหน่วยบริการ อาจดูแลได้ไม่ทั่วถึง จึงได้ส่งทีมปฐมพยาบาลทางใจเดินเข้าหาประชาชน คอยสอดส่องดูแลพี่น้องประชาชนที่อาจเกิดปัญหาสุขภาพขึ้นได้ โดยที่พบ ส่วนใหญ่ คือ เป็นลม อ่อนเพลีย ภาวะหายใจเร็ว พบได้ทั้งในสตรี ผู้สูงอายุ และเด็ก ผู้สูงอายุบางรายรีบมาจนไม่กินข้าวกินปลา บางรายดูข่าวโทรทัศน์จนดึกดื่น นอนน้อยเพียง 4 ชั่วโมง จึงขอแนะให้ผู้ที่จะเดินทางมาในแต่ละวันเตรียมสภาพร่างกายให้ดี รับประทานอาหาร และพักผ่อนให้เพียงพอ เตรียมน้ำดื่มและอุปกรณ์บังแดดให้พร้อม นอกจากนี้ จากการส่งทีมเชิงรุกลงสอดส่องหากลุ่มเสี่ยงร่วมกับ รพ.สนาม สำนักงานแพทย์ กระทรวงกลาโหม ทำให้พบผู้ป่วย โดยได้ให้การดูแลช่วยเหลือและส่งต่อกันได้อย่างเป็นระบบรวดเร็ว
อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวต่อว่า พี่น้องประชาชน สามารถขอรับบริการด้านสุขภาพได้ฟรี ณ หน่วยปฐมพยาบาลทางกายและใจ อาทิ บริเวณข้างกระทรวงกลาโหม สนามหลวงตรงข้ามศาลหลักเมือง บริเวณประตูวิเศษชัยศรี รร.รัตนโกสินทร์ และบริเวณท่าช้าง เป็นต้น สำหรับพี่น้องประขาชนต่างจังหวัด ขอรับบริการดูแลและเสริมพลังใจได้จากทีมช่วยเหลือเยียวยาจิตใจผู้ประสบภาวะวิกฤต หรือ MCATT ที่มีกระจายอยู่ทุกอำเภอทั่วประเทศ ที่จะช่วยให้คำแนะนำปรึกษา ดูแล ช่วยเหลือเสริมพลังใจ โดยประสานการทำงานร่วมกับโรงพยาบาลในพื้นที่อย่างใกล้ชิด อีกทั้ง ยังมีทีม อสม.ที่ถือว่ามีความใกล้ชิดกับทุกครัวเรือน จะเป็นอีกกำลังสำคัญที่จะช่วยสอดส่องดูแลกลุ่มเสี่ยง ให้คำแนะนำและให้การช่วยเหลือด้านจิตใจในเบื้องต้นได้ นอกจากนี้ สำหรับกลุ่มประชาชนที่อาจไม่ได้ออกมาร่วมทำกิจกรรมข้างนอกบ้าน นั่งดูทีวีอยู่ที่บ้านแล้วอาจ เครียด วิตกกังวล เศร้า หดหู่ กินไม่ได้นอนไม่หลับ กรมสุขภาพจิตได้เตรียมความพร้อมทีมสายด่วนสุขภาพจิต 1323 ให้คำปรึกษา ตลอด 24 ชั่วโมง เช่นกัน ทั้งนี้ ก็เพื่อเปิดช่องทางที่หลากหลายให้ประชาชนได้เข้าถึงบริการอย่างทั่วถึง ป้องกันความเสี่ยงเกิดปัญหาสุขภาพจิตในระยะยาว ให้สามารถก้าวผ่านช่วงเวลานี้ไปได้ด้วยจิตใจที่เข้มแข็งต่อไป
อย่างไรก็ตาม ช่วงเวลานี้ขอให้ดูแลกันและกัน ด้วยการใช้หลัก "3ส. : สอดส่องมองหา ใส่ใจรับฟัง ส่งต่อ เชื่อมโยง"คือ ช่วยกัน สอดส่องมองหา กลุ่มเสี่ยง เช่น พูดน้อยลง กินไม่ได้ นอนไม่หลับ ไม่สามารถทำกิจวัตรประจำวันได้เหมือนเดิม เมื่อพบขอให้ ใส่ใจรับฟัง พูดคุย สัมผัส จับมือ โอบกอด เพื่อให้ผ่อนคลาย แต่หาก ความโศกเศร้านั้นเป็นอยู่นาน ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน ส่งผลต่อการทำงาน หรือส่งผลต่อสัมพันธภาพกับผู้อื่น ขอให้รีบส่งต่อเชื่อมโยงพาพบแพทย์ เพื่อให้การช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงที อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าว