กรุงเทพฯ--25 ต.ค.--The Association of Boarding Schools (TABS)
ผู้ปกครองส่วนใหญ่มีทัศนคติในเชิงลบต่อโรงเรียนประจำ หลายทศวรรตที่ผ่านมาวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยในสหรัฐอเมริกาและแคนนาดาได้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงโรงเรียนประจำด้วยเช่นเดียวกัน หลายคนเข้าใจผิดว่านักเรียนที่สมัครเรียนในโรงเรียนประจำส่วนมากมาจากครอบครัวรายได้น้อยและเป็นเด็กมีปัญหา
ผลการสำรวจโดยสมาคมโรงเรียนประจำ หรือ The Association of Boarding Schools (TABS) จากกลุ่มตัวอย่างจำนวน 3,000 คน ประกอบด้วยศิษย์ปัจจุบันและศิษย์เก่าโรงเรียนประจำและโรงเรียนทั่วไป ทั้งโรงเรียนในสังกัดของรัฐและเอกชนในสหรัฐอเมริกา พบว่าการเรียนในโรงเรียนประจำเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลต่อการประสบความสำเร็จในอนาคต
โรงเรียนประจำเปิดโอกาสให้นักเรียนได้เรียนรู้ในสภาพแวดล้อมเอื้อต่อการพัฒนาการเรียนรู้ของนักเรียนได้เป็นอย่างดี จึงเป็นสิ่งสำคัญในการที่ผู้ปกครองพิจารณาส่งบุตรหลานของตนเข้าเรียนต่อในโรงเรียนประจำ ทั้งความเป็นเลิศด้านวิชาการ ศิลปะ และกีฬา โรงเรียนมีความพร้อมที่จะสนับสนุนผู้เรียนตรงกับความต้องการ ในการเรียนรู้ เพิ่มขีดความสามารถให้มากยิ่งขึ้น เพื่อเตรียมพร้อมในการเป็นผู้ใหญ่ที่ดีและมีคุณภาพของสังคมต่อไป
สำหรับครอบครัวที่สนใจส่งบุตรหลานเข้าเรียนต่อในโรงเรียนประจำ แต่มีทุนสนับสนุนไม่เพียงพอ ในวันพุธที่ 26 ตุลาคมนี้ สามารถปรึกษาตัวแทนของโรงเรียนประจำจากทั่วสหรัฐอเมริกาและแคนนาดา ที่จะมาให้ข้อมูลเกี่ยวการจัดการด้านการเงิน หรือทุนสนับสนุนต่าง ๆ ในงาน Tour of Asia ครั้งที่ 22 ณ โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ ตั้งแต่เวลา 18.00 ถึง 20.00 น โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายในการเข้าร่วมงานใดๆทั้งสิ้น
การจัดงานในปีนี้จะเปิดโอกาสให้ผู้ปกครอง นักเรียน และผู้สนใจเข้าพบปะพูดคุยรายละเอียดเกี่ยวกับการเข้าเรียนต่อในโรงเรียนประจำ โดยมีตัวแทนจาก 20 กว่าโรงเรียนทั่วทั้งสหรัฐอเมริกาและแคนาดา โดยครั้งนี้ท่านจะได้รับข้อมูลโดยตรงจากเจ้าหน้าที่ของทางโรงเรียน เกี่ยวกับคุณสมบัติการรับเข้าเรียน ค่าใช้จ่าย รวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับทุนการศึกษา
งานนิทรรศการการศึกษาต่อในโรงเรียนประจำของสหรัฐอเมริกาและแคนาดาจะจัดขึ้นใน วันพุธที่ 26 ตุลาคม 2559 ตั้งแต่เวลา 18.00 0 - 20.00 น. ณ โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ (สถานีรถไฟฟ้าชิดลม ทางออก 6) โดยผู้ที่สนใจสามารถเข้าไปลงทะเบียนเข้าร่วมงานล่วงหน้าได้ที่ www.TABSFair.com โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น
การได้รับการศึกษาในระดับมัธยมศึกษาจากโรงเรียนในสหรัฐอเมริกา จะทำให้นักเรียนสามารถแข่งขันเพื่อเข้าเรียนต่อในมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงของสหรัฐอเมริกาได้ ทางด้านผู้ปกครองนักเรียนต่างมองว่าการที่ลูกหลานของตนสำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยในสหรัฐอเมริกา จะเป็นเสมือนใบเบิกทางเพื่อความก้าวหน้าในด้านการทำงานต่อไป
"โรงเรียนประจำที่เป็นสมาชิกของสมาคมฯ จะมีส่วนช่วยนักเรียนในการพัฒนาผลการเรียนเพื่อให้มหาวิทยาลัยชั้นนำของสหรัฐอเมริกาและแคนาดาสนใจเลือกเข้าเรียนต่อ รวมถึงมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียง หรือ Ivy League อีกด้วย มหาวิทยาลัยต่าง ๆ เหล่านี้ให้ความสนใจนักเรียนจากโรงเรียนประจำเป็นพิเศษเพราะนักเรียนมีความพร้อมทั้งด้านวิชาการและด้านสังคม" นางสาวซาร่า มายเออร์ ผู้จัดการฝ่ายสนับสนุนการศึกษาต่อในโรงเรียนประจำ สมาคมโรงเรียนประจำสหรัฐอเมริกาและแคนาดากล่าว "โรงเรียนประจำทั้งหมดของเราจะคอยให้คำปรึกษากับเด็กนักเรียนเป็นรายบุคคล เพื่อให้มั่นใจได้ว่านักเรียนแต่ละคนสามารถพัฒนาศักยภาพเฉพาะด้านของตนเองได้เป็นอย่างดี สำหรับด้านกีฬาและศิลปะเรามีสิ่งอำนวยความสะดวกพตร้อมทั้งอาจารย์ที่พร้อมดูแลและให้คำปรึกษา เพื่อช่วยส่งเสริมความสามารถที่มีอยู่เดิมให้ดียิ่งขึ้นควบคุ่ไปกับการเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ และแน่นอนว่านี่เป็นโอกาสที่ดีสำหรับนักเรียนที่จะเรียนรู้ร่วมกับเพื่อนนักเรียนจากทั่วทุกมุมโลกที่พร้อมที่จะแลกเปลี่ยนมุมมองและวัฒนธรรมของประเทศตนเอง"
ข้อมูลนักเรียนไทยที่ศึกษาอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกา
จำนวนของนักเรียนต่างชาติที่เข้าเรียนในโรงเรียนของสหรัฐอเมริกามีจำนวนเพิ่มขึ้น โดยส่วนใหญ่มองเห็นโอกาสในการเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยของสหรัฐอเมริกา
จากข้อมูลของสถาบันการศึกษานานาชาติ (Institute of International Education) ในเดือนตุลาคม ปี 2556 พบว่ามีนักเรียนต่างชาติมากกว่า 70,000 คนกำลังเรียนอยู่ในโรงเรียนมัธยมในสหรัฐอเมริกา โดยนักเรียนส่วนใหญ่ต้องการเข้าเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัยต่อไป
ในปีการศึกษา พ.ศ. 2557/58 มีนักเรียนไทยศึกษาในสหรัฐอเมริกาทั้งหมดจำนวน 7,217 คน โดยจากการจัดอันดับประเทศที่มีนักเรียนเข้ามาเรียนในสหรัฐอเมริกามากที่สุด ประเทศไทยเป็นอับดับที่ 23
นักเรียนไทยส่วนใหญ่ในสหรัฐอเมริกาเรียนอยู่ในระดับบัณฑิตศึกษามากที่สุด โดยข้อมูล่จากปีการศึกษา 2557/58 พบว่านักเรียนไทยที่ศึกษาอยู่ในระดับปริญญาตรีคิดเป็นร้อยละ 38.6 นักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษาร้อยละ 44.3 ฝึกงานร้อยละ 9.8 และอื่น ๆ ร้อยละ 7.3%