กรุงเทพฯ--22 ก.ย.---ฟอร์ด เซลส์ แอนด์ เซอร์วิส ประเทศไทย
บริษัท ฟอร์ด เซลส์ แอนด์ เซอร์วิส (ประเทศไทย) จำกัด สรุปผลยอดการจำหน่ายรถฟอร์ด ในช่วง 8 เดือน ของปี 2543 มียอดรวมทั้งสิ้น 10,465 คัน ขยายตัวเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 151 หรือกว่า 2.5 เท่า เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมาที่มียอดจำหน่าย 4,163 คัน ในขณะที่อุตสาหกรรมรถยนต์โดยรวมเติบโตขึ้นประมาณร้อยละ 36.6 ด้วยยอดจำหน่ายรวมทั้งสิ้น 165,173 คัน “ถึงแม้ราคาน้ำมันจะเป็นอุปสรรคในการเติบโตของยอดจำหน่ายรถยนต์ แต่ตัวเลขการเติบโตของอุตสาหกรรมในเดือนที่ผ่านมา ถือเป็นตัวเลขที่น่าพอใจ โดยเฉพาะตัวเลขของฟอร์ด นับตั้งแต่ต้นปี 2543 เป็นการเติบโตที่ต่อเนื่อง และมั่นคง โดยตลอด 8 เดือนที่ผ่านมา เราสามารถเพิ่มยอดขายของเราให้เติบโตโดยเฉลี่ยสูงถึง 2.5 เท่า เป็นการพิสูจน์คุณภาพของสินค้า ที่ได้รับการยอมรับเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จากลูกค้าของเรา” มร.ไมค์ พีส ผู้อำนวยการบริหาร บริษัท ฟอร์ด เซลส์ แอนด์ เซอร์วิส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว "การนำเสนอแต่สิ่งที่ดีที่สุด ไปสู่ลูกค้า ทั้งด้านตัวผลิตภัณฑ์และการบริการ เป็นหัวใจของ ฟอร์ด ในการทำตลาดในประเทศไทย" ยอดจำหน่ายรถโดยรวมประจำเดือนสิงหาคม 2543 ของอุตสาหกรรมรถยนต์ในประเทศไทย มียอดจำหน่ายทั้งสิ้น 22,668 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.9 เมื่อเปรียบเทียบกับตัวเลข 20,250 คัน ของเดือนที่ผ่านมา และเติบโตขึ้นร้อยละ 19.8 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2542 ที่มียอดจำหน่ายทั้งสิ้น 18,927 คัน ตัวเลขโดยรวมของอุตสาหกรรมรถยนต์ในประเทศไทย ตลอด 8 เดือน มียอดขายทั้งสิ้น 165,173 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 36.6 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา ที่มียอดจำหน่ายเพียง 120,934 คัน สำหรับยอดจำหน่ายรถฟอร์ด ประจำเดือนสิงหาคม 2543 มียอดจำหน่ายทั้งสิ้น 1,497 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 105 หรือกว่า 2 เท่าตัว เติบโตขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา ที่มียอดเพียง 728 คัน แบ่งออกเป็นรถกระบะเรนเจอร์ 1,409 คัน ครองส่วนแบ่งทางการตลาดรถกระบะ 1 ตัน ร้อยละ 10.3 ฟอร์ด ยังคงรักษาตำแหน่งยอดการจำหน่ายสูงสุดเป็นอันดับ 4 ของตลาดรถกระบะ 1 ตันไว้ได้ และในส่วนของตลาดรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ฟอร์ด เลเซอร์ใหม่ จำหน่ายได้ทั้งสิ้น 88 คัน มีส่วนแบ่งการตลาดประมาณร้อยละ 1.5มร.ไมค์ พีส ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า “การเปิดตลาดรถกระบะ 4 ประตู นับตั้งแต่รัฐบาลไทย ได้ปรับลดภาษีสรรพสามิตลงมาเหลือร้อยละ 12 ส่งผลให้ฟอร์ด เรนเจอร์ รุ่นดับเบิลแค็บ มียอดการจำหน่ายสูงสุดเป็นอันดับที่ 2 ของรถในประเภทนี้ โดยรถกระบะ 4 ประตู ช่วยสร้างฐานลูกค้าของเราให้เพิ่มมากขึ้น และเป็นการเพิ่มไลน์สินค้าของเราให้ครบมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม”
ติดต่อขอรายละเอียดเพิ่มเติมต่างๆ ได้ที่: ชั้น 36 อาคารชุดเลครัชดา ออฟฟิสคอมเพล็กซ์ 193/144-145 ถนนรัชดาภิเษก แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพฯ 10110 ประเทศไทย โทร: (02) 264-0099 เขตกรุงเทพฯ โทรฟรี: (+66-88) 225-449--จบ--
-สส-