กรุงเทพฯ--26 ต.ค.--สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
พลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำในขณะนี้ว่า ปริมาณน้ำบริเวณลุ่มน้ำเจ้าพระยากลับเข้าสู่สภาวะปกติ มีเพียงบริเวณคลองโผงเผง จ.อ่างทอง และตลาดเสนา จ.พระนครศรีอยุธยา ที่ยังมีน้ำล้นตลิ่งเพียงเล็กน้อย ซึ่งได้สั่งการให้กรมชลประทานเข้าไปสำรวจพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายและดำเนินการให้ความช่วยเหลือในทุกด้านแล้ว ส่วนการบริหารจัดการน้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยา เน้นการใช้ศักยภาพของลำนำในการกักเก็บน้ำไว้ใช้ สำหรับบางพื้นที่ที่มีการส่งน้ำในทุ่ง หากไม่มีผลกระทบใดๆ เกษตรกรสามารถนำน้ำไปใช้ในการเกษตรได้ นอกจากนี้พื้นที่ภาคอีสานตอนล่างบริเวณ จ.นครราชสีมา ที่มีปริมาณน้ำไม่มาก ได้สั่งการให้กรมฝนหลวงและการบินเกษตรเร่งปฏิบัติการเติมน้ำในเขื่อนแล้ว
สำหรับการใช้น้ำในพื้นที่ที่มีปริมาณน้ำไม่มาก กระทรวงเกษตรฯ ได้ประสานไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด เตรียมการเรื่องการจัดสรรการใช้น้ำอุปโภคบริโภคอย่างเพียงพอ รวมทั้งวางแผนการทำเกษตรในหน้าแล้ง ซึ่งได้เริ่มดำเนินการแล้ว ส่วนสถานการณ์ภาคกลางตอนล่าง และภาคใต้ตอนบน บริเวณเขื่อนปราณบุรี และเขื่อนแก่งกระจาน มีการติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด รวมทั้งสถานการณ์ภาคใต้ยังไม่น่าเป็นห่วงเนื่องจากยังไม่เข้าสู่หน้าฝนอย่างเต็มที่
ด้านการปรับแผนปฏิบัติการฝนหลวง ได้เพิ่มเครื่องบินฝนหลวงไปยังหน่วยปฏิบัติการฝนหลวง จ.นครราชสีมา รวมเป็น 6 ลำ บูรณาการร่วมกับศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวง จ.ขอนแก่น และ จ.บุรีรัมย์ รวมทั้งสิ้น 11 ลำเพื่อเร่งปฏิบัติการเติมน้ำในเขื่อนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนลำตะคองแล้ว 6 ล้านลบ.ม. เขื่อนลำพระเพลิง 11 ล้านลบ.ม. เขื่อนมูลบน 9 ล้านลบ.ม. เขื่อนลำแซะ 12 ล้านลบ.ม. และขยายแผนปฏิบัติการฝนหลวงไปจนถึงกลางเดือนพฤศจิกายน หากสภาพอากาศมีความเหมาะสมในการทำฝนหลวง ส่วนเขื่อนแก่งกระจานมีปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนแล้ว 21 ล้านลบ.ม. และเขื่อนปราณบุรี 6 ล้านลบ.ม. อย่างไรก็ได้มีการสั่งการให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และขึ้นปฏิบัติการฝนหลวงอย่างต่อเนื่องเมื่อสภาพอากาศเหมาะสม เพื่อให้มีปริมาณน้ำสำหรับอุปโภคบริโภคอย่างเพียงพอด้วย.