กรุงเทพฯ--3 ก.ค.--ดีทแฮล์ม
ฝ่ายผลิตภัณฑ์อาหารและสินค้าพิเศษของ บริษัท ดีทแฮล์ม จำกัด มีความภูมิใจที่จะประกาศให้ทราบถึงความสำเร็จในการได้รับคัดเลือกเป็นผู้ให้บริการทางด้านโลจิสติกส์แก่ บริษัท กรีนสปอต (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำของประเทศไทย โดยการให้บริการทางด้านโลจิสติส์ดังกล่าวจะครอบคลุมถึงการจัดเก็บ การจัดส่ง และการกระจายสินค้า กลุ่มผลิตภัณฑ์ One Way Product ได้แก่ ไวตามิลค์ ทูโก ไวตามิลค์ แคน ไวตามิลค์ ยูเอชที และเกเตอเรด
ตลอดระยะเวลา 16 ปีที่ผ่านมา บริษัท ดีทแฮล์ม ฝ่ายผลิตภัณฑ์อาหารและสินค้าพิเศษ ได้ร่วมกับบริษัท กรีนสปอต (ประเทศไทย)จำกัด สร้างตัวสินค้าไวตามิลค์ ยูเอชที จากเริ่มแรกที่ยังไม่มีคนรู้จัก จน กระทั่งเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ที่มีผู้รู้จักแพร่หลายในปัจจุบัน โดยดีทแฮล์มมีหน้าที่รับผิดชอบทางด้านการขาย การตลาดที่เกี่ยวกับการขาย การเก็บเงิน และด้านโลจิสติส์สำหรับผลิตภัณฑ์ ไวตามิลค์ ยูเอชที ในขณะเดียวกัน บริษัท กรีนสปอต ก็ยังคงไว้ซึ่งทีมขายของกรีนสปอตเองซึ่งทำหน้าที่ขายสินค้าอื่นๆของบริษัทฯจนกระทั่งบัดนี้ บริษัท กรีนสปอตได้ตัดสินใจให้ทีมขายของตัวเองเข้ามาดูแลการขายสินค้า ไวตามิลค์ ยูเอชที ซึ่งอยู่ในความดูแลของบริษัท ดีทแฮล์ม ฝ่ายผลิตภัณฑ์อาหารและสินค้าพิเศษมาโดยตลอดอย่างไรก็ตาม ทางกรีนสปอตได้ตัดสินใจที่จะจัดจ้างบริษัทภายนอก เพื่อให้เข้ามาดูแลจัดการโลจิสติกส์ให้สินค้า ไวตามิลค์ ยูเอชทีและสินค้าในกลุ่มผลิตภัณฑ์ One Way ทั้งหมดของบริษัทกรีนสปอต การดำเนินการเฟ้นหาคู่สัญญาการให้การบริการด้านโลจิสติกส์ให้แก่กรีนสแอต ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ผลิตเครื่องดื่มชั้นนำของประเทศไทยในครั้งนี้ มีบริษัทผู้ให้บริการด้านโลจิสติกส์ทั้งไทยและต่างประเทศ เสนอตัวเพื่อเข้าร่วมการคัดเลือกมากมาย ซึ่งท้ายที่สุดบริษัท กรีนสปอต ได้ตัดสินใจมอบหมายให้บริษัทดีทแฮล์ม เทรดดิ้ง จำกัด ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทในเครือของดีทแฮล์ม ได้รับการคัดเลือกเป็นผู้ให้บริการด้านโลจิสติกส์ให้แก่บริษัท กรีน สปอต
การได้รับความไว้วางใจในครั้งนี้ เป็นการยืนยันว่ากลุ่มบริษัทดีทแฮล์ม ไม่เพียงแต่เป็นผู้จัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคและบริโภคชั้นแนวหน้าในประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังเป็นบริษัทที่ให้บริการด้านโลจิสติกส์ชั้นนำอีกด้วย การได้รับการแต่งตั้งเป็นคู่สัญญาของบริษัท กรีนสปอตในครั้งนี้ ทำให้ บริษัทดีทแฮล์ม เพิ่มปริมาณสินค้าที่เราดูแลรับผิดชอบให้กับทางกรีนสปอตมากขึ้นเป็น 3 เท่า จากปริมาณเดิมที่เคยจัดการดูแลให้อยู่
ศูนย์กระจายสินค้าสำหรับสินค้าอุปโภคของบริษัท ดีทแฮล์ม ในปัจจุบัน มีความสามารถในการจัดเก็บสินค้าได้มากกว่า 70,000 พาเลท ดีทแฮล์ม กลุ่มสินค้าอุปโภคและบริโภค บริหารสินค้าจำนวนกว่า 11,000 รายการ (SKUs) และจัดการกระจายสินค้าให้แก่ลูกค้า ทั่วประเทศไทยกว่า 70,000 รายมีเป็นจำนวนประมาณ 26 ล้านหีบต่อปี
ศูนย์กลางของเครือข่ายการดำเนินงานด้านโลจิสติกส์ของฝ่ายผลิตภัณฑ์อาหารและสินค้าพิเศษ ตั้งอยู่ที่ ศูนย์กระจายสินค้าปางปะอิน นิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเปิดดำเนินการครั้งแรกเมื่อ 4 ปีที่แล้ว ดำเนินงานโดยอาศัยระบบปฏิบัติงานที่ทันสมัยเทียบเท่านานาอารยประเทศ ทุกจุดสินค้าได้ตั้งแต่เริ่มต้นกระบวนการสั่งซื้อ จนกระทั่งสินค้าถึงมือลูกค้า และด้วยกลยุทธ์การบริหารการกระจายสินค้าใน รูปแบบ "Cross Docking Point " ทางบริษัทฯ สามารถสร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้าและเจ้าของสินค้าด้วยบริการการจัดส่งที่รวดเร็วและตรงต่อเวลา อีกทั้งระบบบริหารการยืนยันการจัดส่ง (Proof of Delivery Management System) ก็เป็นไปอย่างมีประสิทธิผล
สำหรับพาหนะที่ใช้เพื่อการกระจายสินค้าของ บริษัทฯ นั้นมีความหลากหลายเพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการด้านการขนส่งที่แตกต่างกัน ตั่งแต่รถปิ๊กอัพ ไปจนถึงลากและรถพ่วงซึ่งมีสมรรถนะในการขนส่งสินค้าและความปลอดภัยสูง ปัจจุบันบริษัทฯ มีพาหนะสำหรับจัดส่งสินค้าให้กับลูกค้าทั้งที่เป็นผู้ค้าสมัยใหม่ (Modern Trade ) และผู้ค้าแบบดังเดิม (Traditional Trade) จำนวนรวมทั้งสิ้น 250 คัน
ปัจจัยแห่งความสำเร็จของการดำเนินงานด้านโลจิสติกส์ของฝ่ายผลิตภัณฑ์ อาหารและสินค้าพิเศษที่สำคัญประการแรก ได้แก่ ระบบซัพพลายเชน (Supply Chain) ซึ่งมีความสามารถ ในการเชื่อมต่อกับระบบซัลพลายเชนของ โรงงานสุราษฎร์ธานี และโรงงานรังสิต ปทุมธานี ของบริษัท กรีนสปอต(ประเทศไทย) จำกัด โดยเมื่อกระบวนการผลิตสิ้นสุดลง สินค้าจะถูกบริหารโดยบริษัทฯ ผ่านระบบซัพพลายเชนให้สามารถส่งถึงมือลูกค้าในวันและเวลาที่นัดหมาย และเพื่อเสริมสร้างการดำเนินงานให้ระบบซัพพลายเชนมีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น ทางบริษัทฯ ได้จัดตั้งทีมงานจัดซื้อจัดหา (Procurement)เพื่อทำหน้าที่ในการบริหารสินค้าคงคลังให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมและสอดคล้องกับแผนการผลิตของผู้ผลิตสินค้า ควบคุมสมดุลของปริมาณรายการผลิตภัณฑ์ที่จัดเก็บ และป้องกันปัญหาสินค้าขาดตลาด
นอกเหนือจากการส่งสินค้าให้ถึงมือลูกค้าอย่างถูกต้องและตรงตามที่นัดหมายแล้ว บริษัทฯยังมีความรับผิดชอบในการจัดการสินค้าที่ส่งคือจากลูกค้าอีกด้วย ซึ่งจากประสบการณ์อันยาวนานของบริษัทฯ
ทำให้เชื่อมั่นได้ว่า กระบวนการในการรับสินค้าคืนรวมถึงระบบการบริหารสต็อกสินค้าจะเป็นอย่างถูกต้องและรวดเร็ว
ปัจจัยสำคัญแห่งความสำเร็จประการที่สอง ได้แก่ ระบบ การบริหารคลังสินค้า (Warehouse Management System : WMS)ซึ่งบริษัทฯ เป็นผู้ออกแบบเพื่อการใช้งานในฝ่ายผลิตภัณฑ์อาหารและสินค้าพิเศษ ระบบดังกล่าวช่วยให้การดำเนินงานของบริษัทฯ มีประสิทธิภาพและสามารถสนองตอบความต้องการของลูกค้าในอุตสาหกรรมสินค้าอุปโภคบริโภค ประกอบด้วย ความต้องการในด้านการบริหารอายุการใช้ของสินค้า (Shelf Life) รวมถึง การบริหารและควบคุมระบบสินค้าคงคลังแบบรับก่อน จ่ายก่อน (First In First Out)
ปัจจัยแห่งความสำเร็จประการที่สาม ได้แก่ อุปกรณ์ในการเคลื่อนย้ายสินค้า (Materials Handling Equipment)ที่ทันสมัย มีประสิทธิภาพ และความปลอดภัยสูง โดยเมื่อเร็วๆนี้ บริษัทฯได้นำเข้ารถยก (Turret Truck)ชนิดพิเศษจากประเทศสวีเดนเป็นจำนวน 6 คัน ทั้งนี้ รถยกดังกล่าวมีความสามารถที่แตกต่างจากยถยกทั่วไป คือ สามารถใช้เพื่อการปฏิบัติงานในระดับความสูงถึง 11 เมตร และในพื้นที่ที่มีความกว้างจำกัดเพียง 1.50 เมตร นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้ลงทุนในโครงการก่อสร้างระบบควบคุมการจัดเก็บพาเลทสินค้าขั้นสูง (Pallet Live Storage)เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้นกว่า 20 ล้านบาท เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความรวดเร็วในการเคลื่อนย้ายสินค้าของกรีนสปอตโดยเฉพาะอีกด้วย
ปัจจัยแห่งความสำเร็จประการสุดท้าย คือ การบริการลูกค้า ซึ่งถือเป็นภาระที่ฝ่ายผลิตภัณฑ์อาหารและสินค้าพิเศษให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง การดำเนินงานของแผนกบริการลูกค้า (Customer Serice)เป็นไปตามนโยบายของฝ่ายบริหารที่มุ่งเน้นสร้างความพึงพอใจให้เกิดขึ้นทั้งในผู้ขายสินค้าและลูกค้า โดยจัดให้มีการประเมินความสามารถในการให้บริการลูกค้าอย่างต่อเนื่อง โดยพิจารณาจากอัตราการจัดส่งให้ได้ครบตามใบสั่งซื้อ ความตรงต่อเวลาในการจัดส่ง เป็นต้น ข้อมูลดังกล่าวนี้จะถูกนำมาใช้เพื่อยกระดับมาตรฐานการให้บริการแก่ลูกค้าและการสร้างความพึงพอใจให้กับผู้ขายสินค้าต่อไป
โครงการในอนาคตของฝ่ายผลิตภัณฑ์อาหารและสินค้าพิเศษ ได้แก่
- ระบบการหยิบจ่ายสินค้าแบบอัตโนมัติ
- ระบบบาร์โค้ดเพื่อควบคุมและติดตามความเคลื่อนไหวของสินค้า
- การนำเทคโนโลยีคลื่นความถี่วิทยุมาใช้เพื่อทดแทนการใช้เอกสาร--จบ--
-สส-