กรุงเทพฯ--28 ต.ค.--ไนท์แฟรงค์
ไนท์แฟรงค์ประเทศไทยเผยว่าการส่งออกไทยกำลังประสบภาวะตกต่ำจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง นักพัฒนาคลังสินค้าให้เช่าบางรายได้เลื่อนการขยายตัวโลจิสติกส์พาร์ค(logistics parks) แห่งใหม่ของพวกเขาออกไป อุปทานใหม่ที่จะเพิ่มเข้ามาในตลาดอาจจำต้องหยุดชะงักไว้ก่อน อย่างไรก็ตามอัตราการครอบครองจะยังคงเสถียรภาพเนื่องจากอัตราครอบครองพื้นที่สุทธิได้เพิ่มขึ้นมาอยู่ในระดับเดียวกันกับอุปทานใหม่ ด้านอัตราค่าเช่าถูกคาดการณ์ว่าจะยังคงที่เนื่องจากระดับที่สมดุลกันระหว่างอุปทานใหม่และอุปสงค์ใหม่ ซึ่งสร้างความกดดันต่อการแข่งขันด้านราคาและยับยั้งการเพิ่มขึ้นของราคา นอกจากนี้ความคืบหน้าของการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน อย่างเช่น การขยายท่าเรือแหลมฉบังและการพัฒนาถนนและระบบขนส่งทางรถไฟยังคงเป็นปัจจัยบวกที่สำคัญในการผลักดันการลงทุนจากภาคเอกชนและความต้องการพื้นที่โลจิสติกส์
นายมาร์คัส เบอร์เทนชอว์ กรรมการบริหารและผู้อำนวยการฝ่ายตัวแทนนายหน้า บริษัท ไนท์แฟรงค์ ประเทศไทย จำกัดกล่าวว่า "พื้นที่ตั้งคลังสินค้าบางแห่งทำผลงานได้ดีกว่าแห่งอื่นๆอย่างเห็นได้ชัด อุปทานใหม่จำเป็นต้องหยุดชะงักโดยเฉพาะในเขตที่มีอัตราการครอบครองพื้นที่ลดลง อย่างไรก็ตามปัจจัยพื้นฐานในการเลือกที่ตั้งการกระจายสินค้าเชิงกลยุทธ์ที่สำคัญยังคงเหมือนกัน ความต้องการด้านพื้นที่คลังสินค้ายังเติบโตเนื่องจากอีคอมเมิร์ซ (E-commerce) เริ่มเข้ามามีบทบาทมากขึ้นในภาคการค้าปลีกในประเทศไทย"
จากผลวิจัยของไนท์แฟรงค์ประเทศไทย ในช่วงปลายครึ่งแรกของปี 2016 อุปทานคลังสินค้ามีจำนวนรวมทั้งหมด3,732,147 ตร.ม. แสดงการเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 4.1 จากตอนท้ายของช่วงที่ผ่านมาด้วยจำนวน 145,737 ตร.ม.ที่ถูกเพิ่มเข้ามาในตลาด จุดสูงสุดล่าสุดของอุปทานที่เพิ่มเข้ามายังคงเป็นผลพวงจากปี 2014 ซึ่งเป็นการเปิดตัวของสามโครงการขนาดใหญ่จากนักพัฒนารายใหญ่ที่สุดของประเทศ นับตั้งแต่นั้นมาตลาดเห็นการเพิ่มขึ้นของอุปทานเพียงเล็กน้อยเพื่อรับมือกับการเติบโตอย่างช้าๆของอุปสงค์ สำหรับระยะที่เหลือในปี 2016 จนถึงปี 2017 มีอุปทานคลังสินค้าประมาณ 300,000 ตร.ม.ที่คาดว่าจะเพิ่มเข้ามาในตลาด โดยพื้นที่ประมาณ 250,000 ตร.ม.อยู่ในจังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งจัดเป็นพื้นที่ที่มีความต้องการอยู่ในระดับดีและอัตราการครอบครองอยู่ในระดับสูง