สรุปสภาวะตลาดทองคำแท่งและโกลด์ฟิวเจอร์ส วันที่ 31 ตุลาคม 2559 โดย YLG

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday October 31, 2016 17:49 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--31 ต.ค.--พีอาร์ดีดี สภาวะตลาดวันที่ 31 ตุลาคม 2559 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,271.98-1,279.54 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 21,150 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 100 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 21,050 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFZ16 อยู่ที่ 21,280 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 60 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 21,220 บาท (หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.45 น.ของวันที่ 31/10/16) แนวโน้มวันที่ 01 พฤศจิกายน 2559 สำนักงานสอบสวนกลาง (เอฟบีไอ) ของสหรัฐจะสอบสวนนางฮิลลารี คลินตันเพิ่มเติมในเรื่องที่นางคลินตัน เคยใช้เซิร์ฟเวอร์อีเมลส่วนตัวสำหรับการทำงานในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐ โดยข่าวนี้ทำให้นักลงทุนไม่มั่นใจว่านางคลินตันจะได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐในวันที่ 8 พฤศจิกายนนี้ ซึ่งประเด็นดังกล่าวส่งผลดีต่อราคาทองคำ และนายโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรครีพับลิกัน เพราะหากนายทรัมป์ได้รับชัยชนะอาจจะสร้างความไม่แน่นอนเป็นอย่างมาก ทั้งในส่วนของนโยบายต่างประเทศ, ข้อตกลงการค้ากับต่างประเทศ และเศรษฐกิจภายในสหรัฐ ขณะที่การลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงและตลาดหุ้นสหรัฐอาจจะได้รับผลกระทบ ซึ่งประเด็นดังกล่าวสร้างแรงซื้อเข้าสู่ตลาดทองคำในฐานสินทรัพย์ปลอดภัย อย่างไรก็ตาม เมื่อราคาทองคำขยับขึ้นยังคงมีแรงขายออกมาเพราะนักลงทุนเพิ่มความระมัดระวังในการถือครองทองคำ ก่อนธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะมีการประชุมวันที่ 1-2 พฤศจิกายนนี้ เกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ย แม้ว่าบริษัทซีเอ็มอีรายงานว่า นักลงทุนคาดว่ามีโอกาสไม่ถึง 10% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในวันที่ 2 พฤศจิกายน และมีโอกาสราว 75% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 13-14 ธันวาคม แต่การประชุมนโยบายการเงินของเฟดในเดือนพฤศจิกายน ในปีก่อนหน้านี้ คณะกรรมการ FOMC ได้ปรับเปลี่ยนถ้อยคำในแถลงการณ์เพื่อระบุว่า อาจจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งถัดไป และหลังจากนั้นเฟดก็ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในรอบ 9 ปีในเดือนธันวาคม 2558 ซึ่งทำให้นักลงทุนจับตาการประชุมของเฟดในเดือนพฤศจิกายน 2559 ว่าจะมีการส่งสัญญาณที่บ่งชี้เกี่ยวกับการปรับขึ้นดอกเบี้ยที่ชัดเจนเหมือนรอบปี 2558 หรือไม่ ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวยังสร้างแรงขายเข้าสู่ตลาดทองคำ กลยุทธ์การลงทุน แนะนำให้ลงทุนระยะสั้นโดยรอซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงไปบริเวณแนวรับที่ 1,266 หรือ 1,253 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้น โดยราคาทองคำมีลักษณะการแกว่งตัวในระยะสั้นเพื่อสะสมกำลัง โดยมีการทรงตัวรักษาระดับไว้ น่าจะพอทำให้ในระยะสั้นนี้ราคาจะเคลื่อนไหวในกรอบแบบ Sideway Up โดยหากราคาทองคำไม่สามารถยืนเหนือแนวต้านได้อย่างแข็งแกร่ง นักลงทุนยังต้องระมัดระวังแรงขายและนักลงทุนควรตั้งจุดตัดขาดทุนหากราคาหลุดบริเวณแนวรับ เพื่อลดความเสียหายของพอร์ทการลงทุน ในขณะที่นักลงทุนที่มีทองคำในมือ ให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวหรือไม่ผ่านบริเวณแนวต้าน 1,283 หรือ 1,294 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แล้วรอไปซื้อคืนบริเวณแนวรับสำคัญ ทองคำแท่ง (96.50%) แนวรับ 1,266 (20,950บาท) 1,253 (20,730บาท) 1,245 (20,070บาท) แนวต้าน 1,283 (21,230บาท) 1,294 (21,420บาท) 1,300 (21,520บาท) GOLD FUTURES (GFV16) แนวรับ 1,266 (21,160บาท) 1,253 (20,950บาท) 1,245 (20,280บาท) แนวต้าน 1,283 (21,450บาท) 1,294 (21,630บาท) 1,300 (21,730บาท) หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ